ซีอีโอ Tesla (เทสล่า) ประกาศว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทฯ จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีหน้าและปีถัดไปจนสามารถแซงหน้ารถยนต์กระแสหลักได้อย่างแน่นอน

อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tesla กล่าวด้วยความมั่นใจว่ารถอเนกประสงค์พลังไฟฟ้าอย่าง Tesla Model Y (เทสล่า โมเดล วาย) จะสามารถทำยอดขายสะสมทั้งปีขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่งได้ในปี 2022 หรือ 2023

มัสก์เปิดเผยเป้าหมายดังกล่าวระหว่างการแถลงยอดขายและผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีนี้ซึ่ง Tesla สามารถทำรายได้สุทธิสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 438 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่รายได้จากการปฏิบัติงานเติบโตขึ้นถึง 74%

คาดยอดขาย Tesla Model Y จะแซงหน้า Toyota Corolla

มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งทวีตข้อความถึงการแถลงผลประกอบการของอีลอน มัสก์ ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่การประกาศเป้าหมายว่ารถยนต์ไฟฟ้า Model Y จะสามารถผงาดขึ้นเป็นรถอีวีที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกในปี 2022 หรือ 2023

หลังจากนั้น มัสก์เข้ามารีพลายตอบกลับโดยระบุว่า “เป้าหมายของเรามีความเป็นไปได้แน่นอน อย่างน้อย Model Y ก็จะเป็นผู้นำในแง่ของการสร้างรายได้ภายในปี 2022 และเป็นผู้นำในแง่ตัวเลขยอดขายรวมภายในปี 2023”

นั่นหมายความว่า Model Y จะต้องทำยอดขายให้ได้อย่างน้อย 1.1 ล้านคันซึ่งจะเทียบเท่า Toyota Corolla ที่ทำได้ประมาณ 1.1 ล้านคันในปี 2020 ที่ผ่านมาและนำอันดับ 1 รถยนต์นั่งขนาดเล็กทั่วโลก

ปัจจุบัน Corolla ขึ้นสายการผลิตในโรงงาน 16 แห่งทั่วโลก และมียอดขายเกิน 1 ล้านคันทุกปีนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา

สำหรับยอดขายรถยนต์ Model Y ในปี 2020 นั้นถูกนับรวบไว้กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็กอย่าง Model 3 โดยทั้ง 2 รุ่นสามารถทำตัวเลขได้ที่ 442,000 คัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายรวมในปี 2022 จะขึ้นไปแตะหลัก 1 ล้านคัน

หากตัวเลขดังกล่าวแบ่งเป็น Model Y ครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 5 แสนคัน มัสก์ต้องเร่งผลักดันยอดขายรถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นนี้ให้เติบโตขึ้นมากกว่าเท่าตัวจึงจะขยับขึ้นไปเทียบเท่าหรือแซงหน้ารถซีดานยอดฮิตของ Toyota ได้ซึ่งถือเป็นงานโหดหินมากทีเดียว