การวิจัยที่ดำเนินการโดย AAA พบว่าฝนที่ตกปานกลางไปถึงหนักมากอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และลดทอนประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยในยานพาหนะ
ด้วยความช่วยเหลือจาก Automobile Club of Southern California's Automotive Research Center ได้ทำการจำลองฝนขึ้นมารวมถึงสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในการทดสอบความสามารถในการทำงานของฟังก์ชันต่าง ๆ ในสภาวะที่แตกต่างกันออกไป โดยมีการทดสอบฟังก์ชันอย่างระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking) และระบบช่วยควบคุมให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist) ซึ่งพบว่าการจำลองในสภาพอากาศที่ฝนตกปานกลางจนไปถึงฝนที่ตกหนักสามารถส่งผลเสียต่อการทำงานของระบบเหล่านี้
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
โดยรวมแล้ว การทดสอบระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ความเร็ว 25 ไมล์ต่อชั่วโมง (40 กม./ชม.) ในสภาวะดังกล่าว มีโอกาสที่จะเกิดการชนกับรถที่จอดอยู่ประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ การทดสอบที่ความเร็ว 35 ไมล์ต่อชั่วโมง (56 กม./ชม.) จะมีโอกาสเกิดการชนกับรถที่จอดอยู่ถึง 33 เปอร์เซ็นต์
ระบบช่วยควบคุมให้อยู่ช่องทางเดินรถมีประสิทธิภาพย่ำแย่ลงกว่าเดิมมาก จากการทดสอบพบว่าโอกาสที่ระบบจะอนุญาตให้รถเบี่ยงออกนอกเลนนั้นสูงถึง 69 เปอร์เซ็นต์
“ระบบความปลอดภัยของยานพาหนะที่อาศัยเซ็นเซอร์และกล้องในการมองเห็นเครื่องหมายบนถนน รถยนต์คันอื่น ๆ คนเดินเท้า และสิ่งกีดขวางบนถนน มีความเสี่ยงที่จะทำงานคลาดเคลื่อนเมื่อมีปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม อย่างเช่นเม็ดฝน” เกรก แบรนนอน ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมยานยนต์และความสัมพันธ์ทางอุตสาหกรรมของ AAA กล่าว
“ความจริงก็คือผู้คนไม่ได้ขับรถไปในสภาพอากาศที่มีแดดจ้าตลอดเวลา ดังนั้นเราต้องขยายการทดสอบและพิจารณาถึงสิ่งที่ผู้คนต้องเผชิญในการขับขี่ในแต่ละวัน” แบรนนอน กล่าวเพิ่มเติม
แม้ว่ารถบางคันจะแจ้งเตือนหรือปิดการใช้งานระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยหรือหากเซ็นเซอร์ถูกรบกวน แต่ไม่มีระบบใดในการทดสอบของ AAA ที่แจ้งเตือนผู้ขับขี่ถึงความบกพร่องนี้ได้เลย
“AAA ยอมรับว่าระบบเหล่านี้สามารถลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุและทำให้ผู้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น” แบรนนอน กล่าว “การปรับแต่งประสิทธิภาพและมอบประสบการณ์ที่สม่ำเสมอให้กับผู้ขับขี่จะช่วยปลดล็อคศักยภาพที่แท้จริงของระบบเหล่านี้ได้”
ทางองค์กรได้แนะนำว่าผู้ขับขี่ควรทำความคุ้นเคยกับวิธีการทำงานของระบบเหล่านี้ให้ตรงจุดและตรงประเด็นมากขึ้นโดยเฉพาะขีดจำกัดของระบบ พร้อมกับมีการแนะนำเพิ่มเติมอีกว่าผู้ขับขี่ควรทำความสะอาดกระจกหน้ารถให้สะอาดอยู่สม่ำเสมอและตรวจดูให้แน่ใจว่าที่ปัดน้ำฝนยางไม่มีการสึกหรอ เว้นระยะในการขับตามรถคันหน้า และไม่ใช้ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ในสภาพอากาศที่เลวร้ายเพื่อให้เราตื่นตัวมากขึ้น
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });