ความห้าวเป็นเหตุ สังเกตุได้ เหตุเกิดที่ ยะโฮร์บาห์รู, มาเลเซีย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2021 เจ้าของรถ Nissan GT-R R34 (นิสสัน จีที-อาร์ อาร์34) ได้ขายรถให้กับเจ้าของใหม่ในราคา 165,000 ริงกิต หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 1,200,000 บาท
หลังจากทำการซื้อขาย ได้ให้นายหน้าช่วยขับรถไปส่งเจ้าของใหม่ หลังจากได้ขึ้นควบก็อดซิลล่าวิญญาณนักซิ่งก็บังเกิด ทำให้รถชนเข้ากับต้นไม้อย่างจัง
โดยไม่มีการรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับนายหน้าว่ามีอาการบาดเจ็บอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ คือเจ้าของเก่าจะต้องคืนเงินให้กับผู้ซื้ออย่างเลี่ยงไม่ได้
ประเทศไทยแพงกว่านี้เยอะ
สำหรับประเทศไทย หากใครสิงตัวอยู่ในตามกลุ่มรถซิ่งที่มีการซื้อขายต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า GT-R R34 นั้นหาได้ยาก และมีราคาแพงกว่า GT-R R35 อยู่มาก เนื่องจากเป็นรถที่มีจำนวนน้อยมากในประเทศไทย ส่วนมากผู้เก็บมักจะไม่ขาย และไม่ค่อยเอาออกมาวิ่งให้เห็น
ราคาในประเทศไทยตอนนี้ R34 ราคาพุ่งสูงไปถึง 7-8 ล้านบาทกันแล้ว ในขณะที่ R35 มือสองที่วางขายกัน มีราคาอยู่ที่ 4-5 ล้านบาทเท่านั้น แต่หากจะออกเป็นป้ายแดงจาก Nissan (นิสสัน) ก็จะอยู่ที่ 10,700,000 บาท หลังทำการลดราคาแล้ว
อ่านเพิ่มเติม: ดูค่าบำรุง Nissan GT-R R35 ขับ 1 ปี 10,000 กิโล
แพงเพราะภาษี
เนื่องด้วยจำนวนรถที่มีน้อย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีการปั่นราคากันเป็นอย่างมาก แต่ที่ทำให้รถเหล่านี้แพงกันจริง ๆ ก็คือ "ภาษี" ครับ
จากข้อมูลในปัจจุบันรถยนต์ Supercar ที่นำเข้าทั้งคัน ขนาดเครื่องยนต์ ความจุกระบอกสูบเกิน 3,000 ซีซี นั้น ตัวแทนจำหน่ายจะเสียภาษีอย่างถูกต้องให้กรมศุลกากรในอัตรา 328% ของตัวรถเลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม: ทำไม Nissan Skyline GT-R R32 ซ่อม 10 ล้านบาท
ขับยังไงให้ปลอดภัย
เนื่องจากรถเหล่านี้ ต้องใช้ทักษะที่มากกว่ารถจ่ายกับข้าวทั่วไป ต้องมีทักษะที่พอตัวก่อนจะนำมาขับขี่ เราจึงได้รวมวิธีขับรถแรงแบบถูกวิธีมาให้
1. ขับนอกเมือง
การขับรถซิ่งในเมืองถือว่าผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อคนอื่น หากอยากลองขับแต่ไม่มีฝีมือที่จะขับในสนาม ก็ต้องฝึกในที่ ๆ ห่างไกลชุมชน เช่น ตามชนบท หรือในทางหลวง ในเวลาที่มีการสัญจรน้อย
2. ท่านั่งต้องถูก
หลายคนคิดว่าต้องนั่งให้ต่ำ เพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำอย่างเดียว โดยไม่คิดถึงทิศวิสัยด้านหน้า การนั่งที่ถูกคือ ปรับเบาะให้ขาเหยียบแป้นสุดแล้วขายังงอได้ ข้อมือวางบนพวงมาลัยขอบบนสุดแบบเหยียดตรง และมองเห็นทางด้านหน้าได้ดี
3. อย่าขับมือเดียว
การขับมือเดียว โดยเฉพาะในเกียร์ธรรมดาที่ต้องละมือจากพวงมาลัยมาเปลี่ยนเกียร์บ่อย ๆ ทำให้บางคนมักขับด้วยมือเดียวตลอดเวลา แต่จริง ๆ แล้ว ควรจะละมือเพียงแค่ตอนเปลี่ยนเกียร์เท่านั้่น เพราะการขับรถจริง ควรวางมือในตำแหน่ง 9 และ 3 นาฬิกา เพื่อความแม่นยำในการเลี้ยว
4. อย่าเปิดเพลงดัง
เนื่องจากเป็นการทำลายสมาธิในการขับ โดยการฟังเสียงเครื่อง มีส่วนช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ มากกว่าการดูแค่เข็มวัดรอบเพียงอย่างเดียว
5. มองทางข้างหน้า
ยิ่งขับรถเร็วเท่าไหร่ ยิ่งควรจะใส่ใจกับการมองถนนด้านหน้ามากขึ้นเท่านั้น อย่าให้มีอะไรมารบกวนทัศวิสัยได้
6. เลี้ยงสมดุลย์รถยนต์
เมื่อเราเข้าโค้ง หลายคนใช้น้ำหนักการเร่งหรือเบรคมากเกินไปจนเสียสมดุลย์ ซึ่งทางที่ดีต้องรู้จักสมดุลย์ของรถยนต์ที่ส่งมาที่ตัว แล้วรู้จักแก้ไขอาการในเสี้ยววินาที การฝึกใช้ Heel&Toe และการฝึกการเบรคก่อนโค้ง (Trail braking) จะช่วยได้มาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์การอ่านโค้งส่วนบุคคล
หากจะไปขับรถคนอื่น โดยเฉพาะรถที่มีราคาแพงและแรงกว่ารถี่เราขับ ก็ควรดูแลรักษารถเขาให้ดี ๆ มีความรอบคอบมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นจะต้องไปนั่งกินข้าวลิงแทน
อ่านเพิ่มเติม: ไทยมีวิธีจัดการรถหรูผิดกฏหมายอย่างไร