Mercedes-Benz G-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ G-Class ) รถเอสยูวีพรีเมียมที่มาพร้อมดีไซน์ความแกร่งทั้งรูปลักษณ์ และเครื่องยนต์ และเมื่อเปิดตัวใหม่ก็มักเป็นที่จับตามองสำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบเสมอ ซึ่งในไทยก็ได้มีการเปิดตัวรุ่นล่าสุดของตระกูล G-Class เป็น Mercedes-Benz G 350 d Sport แต่จะมีข้อดีข้อด้อยอะไรบ้าง AutoFun จะพาไปทำความรู้จักกัน
ข้อดี Mercedes-Benz G-Class
1.ดีไซน์ทรงกล่องโดดเด่น
ถ้าใครชอบสไตล์รถออฟโรดหรู Mercedes-Benz G-Class ก็น่าจะเป็นอีกรุ่นที่คุณชื่นชอบ ด้วยดีไซน์แข็งแกร่งทรงพลัง มิติตัวรถใหญ่ และกว้าง รูปลักษณ์ทรงกล่องบ่งบอกความเป็นสายลุยอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือท่องเที่ยว รับรองว่าทุกคนต้องเหลียวมอง
2.ห้องโดยสารเรียบหรู
ห้องโดยสารของ Mercedes-Benz G-Class ตกแต่งตามแนวคิดวิถีธรรมชาติ แต่ก็ยังมีความหรูหราและล้ำสมัย วัสดุอุปกรณ์ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งอันเป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz G-Class ได้อย่างดี
3.เทคโนโลยีทันสมัย
Mercedes-Benz G-Class มาพร้อมเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยให้มั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วยหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital Widescreen Cockpit แบบ Touchpad with Controller ที่ใช้งานง่าย ทั้งยังมีระบบนำทางแบบ COMAND Online: 3D Map ที่จะรายงานและวิเคราะห์เส้นทางที่ปลอดภัยและรวดเร็วที่สุดในรูปแบบ 3 มิติ
4.ช่วงล่างลุยได้ทุกที่
Mercedes-Benz G-Class รุ่นใหม่นี้ยังคงสไตล์เอสยูวีพันธุ์แกร่ง ด้วยระบบช่วงล่างช่วยให้การขับเคลื่อนแบบ off-road สามารถไต่เนินที่ต่างระดับสูงชัน ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วและราบรื่น
5.การขับขี่นุ่มนวล
Mercedes-Benz G-Class ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบอิสระ Indenpendent suspension ที่ได้รับการพัฒนาให้แยกหน้าที่รองรับน้ำหนักและแรงสะเทือนของล้อซ้ายและขวาออกจากกัน ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีความปลอภัยที่ช่วยให้การขับขี่มั่นใจ
ข้อด้อย Mercedes-Benz G-Class
1.ห้องโดยสารไม่กว้างเท่าคู่แข่ง
แม้ว่า Mercedes-Benz G-Class จะออกแบบให้ตัวรถมีมิติกว้างขึ้น แต่ภายในยังไม่กว้างขวางและเก็บสัมภาระได้ไม่เยอะเท่ากับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน
2.พวงมาลัยหนักแม้ความเร็วต่ำ
เมื่อขับในช่วงความเร็วต่ำ พวงมาลัย Mercedes-Benz G-Class ยังคงหนักหนัก ต้องใช้แรงค่อนข้างมากในการขับขี่ อาจทำให้ไม่สะดวกเท่าไหร่
3.ไม่ประหยัดน้ำมัน
Mercedes-Benz G-Class ใช้เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 6 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 3 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ถึง Mercedes-Benz G-Class จะมีข้อดีคือลุยได้ทุกที่ แต่ไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมัน อาจต้องทำใจเรื่องนี้สักหน่อย
4.ราคาแพง
สำหรับ Mercedes-Benz G-Class เรียกได้ว่าเป็นรถสายลุยออฟโรดหรู ที่มีราคาเริ่มต้นสูงถึง 9,390,000 บาท หากต้องการอุปกรณ์แต่งเพิ่มก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 300,000 บาท รวมๆ แล้วเกือบสิบล้านทีเดียว
5.ค่าบำรุงรักษาสูง
ด้วยความที่ Mercedes-Benz G-Class เป็นรถออฟโรดหรู ค่าบำรุงรักษาก็ต้องสูง และหากรถเสียก็ต้องเข้าศูนย์เฉพาะ อะไหล่หลายอาจต้องสั่ง และต้องใช้ช่างซ่อมผู้เชึ่ยวชาญเฉพาะ
ใครที่กำลังมองหารถออฟโรดหรูที่ขับในเมืองก็ได้ ขับลุยก็ดี และราคาไม่ใช่ปัญหา Mercedes-Benz G-Class ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกทันสมัย ระบบความปลอดภัยดีเยี่ยม และที่สำคัญสมรรถนะพร้อมลุยทุกที่ เมื่อเทียบกับข้อเสียแล้ว โดยรวม Mercedes-Benz G-Class ก็ยังน่าจับจองเป็นเจ้าของอยู่ ใครสนใจอยากเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz G-Class ก็สามารถสอบถามรายละเอียดที่ผู้แทนจำหน่าย Mercedes-Benz ได้ทั่วประเทศ