ภาพยนตร์ “One For The Road วันสุดท้าย…ก่อนบายเธอ” เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กำกับโดย บาส นัฐวุฒิ และอำนวยการสร้างโดย หว่อง กาไว
โดยคว้ารางวัล World Dramatic Special Jury Award : Creative Vision จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Sundance Film Festival 2021
เรื่องราวของหนัง คือตัวเอก “อู๊ด” เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นโรคร้าย และต้องการบอกลากับคนรักเก่าทุกคนที่ผ่านมา โดยการขอให้เพื่อนของเขา “บอส” กลับมาจากต่างแดนและขับรถพาไปหาคนรักเก่าที่อยู่ส่วนต่าง ๆ ของประเทศไทย ด้วยรถคันเก่าของพ่อของอู๊ดผู้ล่วงลับ
ในตอนแรก เราเห็นรถเก่ายี่ห้อ BMW สังเกตจากตราใบพัดฟ้าขาวบริเวณดุมล้อ ระหว่างทางตัวเอกทั้งสองก็ได้เปิดเทปบันทึกรายการเก่าของพ่อที่เปิดเพลงที่เข้ากันกับบรรยากาศการเดินทางได้เป็นอย่างดี
ตัวถังของรถเป็นแบบคูเป้ 2 ประตู และไฟหน้าโคมใหญ่ซึ่งดูตัดกันกับตัวถังในยุคนั้น ซึ่งทำให้ตัวรถดูน่าสนใจขึ้นมา เมื่อค้นข้อมูลไปสักพักพบว่ารถคันนั้นก็คือ BMW 2000C/CS รถคูเป้ 2 ประตูของบีเอ็มดับเบิลยูในยุค 60 ซึ่งมีการผลิตเพียงช่วงปี 1965-1969
ข้อมูลของ BMW 2000C/CS โดยสังเขป
BMW 2000C/CS คือรถหนึ่งในไลน์อัพ New Class ของบีเอ็มดับเบิลยูในช่วงยุค 60-70 ซึ่งตัวรถจะมีขนาดและเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าไลน์อัพอื่น ๆ ที่เคยผลิตมาก่อนหน้านี้
เนื่องด้วยต้องการกู้วิกฤตการเงินของบริษัทที่มีมาตั้งแต่ยุค 50 และต้องการสร้างเอกลักษณ์ใหม่ในการเป็นสปอร์ตซีดานของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งภายหลังก็ทำได้สำเร็จ
BMW 2000C/CS จะใช้เครื่องยนต์รหัส M10 ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 4 สปีด และตัวถังเดียวกันในรุ่น 2000C จะให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที เช่นเดียวกัน และมีตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีดมาให้เลือก และทุกรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง
BMW 6-Series Coupe รหัส E63
มิติตัวถังของ 2000C/CS จะมีความยาว/ความกว้าง/ความสูง อยู่ที่ 4,530/1,675/1,360 มม. และมีระยะฐานล้อที่ 2,550 มม. แม้จะดูไม่ใหญ่มาก แต่หลังจากไลน์อัพ New Class สามารถกู้วิกฤตการเงินได้แล้ว รุ่นต่อไปจะมีมิติตัวถังที่ใหญ่ขึ้นจนกลายบรรพบุรุษของ BMW ซีรี่ส์ 5 และ 6 ในปัจจุบัน
ในภาพยนตร์อาจไม่ได้แสดงถึงสมรรถนะหรือความสวยงามของรถมากมายนัก แต่องค์ประกอบโดยรวมนั้นเข้ากับอารมณ์ของหนังได้อย่างดี ทั้งในฉากที่ตัวเอกทั้งสองได้พูดคุยกันในรถ หรือฉากที่ “อู๊ด” นอนพักที่เบาะแถวหลังของรถ
ในตอนท้ายของเรื่อง เรื่องราวของอู๊ดอาจไม่ได้เป็นประเด็นหลักทั้งหมด เพราะการเดินทางทั้งหมดนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งที่อู๊ดอยากจะบอกอะไรแก่คู่หูของเขา
หากมีคำถามว่าทำไมต้องเป็นรถคันนี้ก็ไม่มีใครสามารถรู้ได้ แต่คงอนุมานได้ว่า การเดินทางไกลโดยรถเก่าไปยังที่ต่าง ๆ นั้นคงเหมือนกับ “อู๊ด” ที่ยังคงจมอยู่กับความคิดเก่า ๆ และต้องการหาหนทางไถ่ถอนความผิดบาปที่มีในใจเพื่อเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เขียนอาจจะคิดไปเอง หากรถสามารถดึงอารมณ์ของภาพยนตร์ได้อย่างดีก็น่าจะเพียงพอแล้ว
รู้กันชัดแล้วครับว่าเป็นรุ่น 2000C
แม้ One For The Road จะมีฉากจบที่ความซาบซึ้งตรึงใจ แต่ก็ชวนให้เราฉุกคิดได้ว่า หากไม่มีสัญญาณเตือนใน “ความตาย” เข้ามา เราจะสำนึกในสิ่งที่เคยทำไม่ดีกับใครไว้หรือไม่
หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับการที่นักแสดงนำในเรื่องนี้ได้พูดเมื่อไปโปรโมทหนังเรื่องนี้ในรายการหนึ่งว่าให้สนับสนุนหนังไทยแม้จะเป็นอย่างไรก็ตาม
แต่การรับชมหนังเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เสียเวลาแต่อย่างใด ด้วยรางวัลการันตี Creative Vision จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Sundance ที่แสดงถึงการเล่าเรื่องได้อย่างลงตัว
นอกจากอารมณ์ของหนังที่กลมกล่อมแล้ว สำหรับคนรักรถ ไม่ได้มีโอกาสมากมายนักกับการได้เห็น 2000CS เป็นตัวดำเนินเรื่องในภาพยนตร์ หรือแม้แต่เห็นตัวเป็น ๆ ขับอยู่บนถนนเมืองไทย สิ่งนี้จึงเป็นความเพลิดเพลินใจของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกเช่นกัน
สามารถรับชมตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวได้ที่ด้านล่างนี้