มาสด้า บริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่น จัดจำหน่าย 2020 มาสด้า 2 (Mazda 2) ตัวถังแฮทช์แบ็กและซีดาน เครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น ได้แก่ XD ราคา 7.82 แสนบาท และ XDL ราคา 7.99 แสนบาท มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอ็คทีฟคลีนดีเซล (SKYACTIV-D) ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร มากที่สุดในรถระดับเดียวกัน
2020 มาสด้า 2 เป็นรถยนต์อีโคคาร์ ที่ผลิตโดย มาสด้า ในประเทศไทย ออกทำตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กอีโคคาร์ บีเซกเมนท์ เปิดตัวโฉมใหม่ในเดือนพฤศจิกายนปี 2562 จุดเด่นของเครื่องยนต์ดีเซลไม่เพียงอยู่ที่แรงบิดมหาศาล แต่ยังมีความประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม.ต่อลิตร บนน้ำหนักตัวรถ 1,129 กก.
Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบถูกวางตำแหน่งการตลาดให้เป็นรถที่มีพละกำลังแรงเหนือชั้นที่สุดในกลุ่มอีโคคาร์ ขณะเดียวกัน ยังมีความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย แต่คุณสมบัติทั้งหมดก็แลกมาด้วยราคาจำหน่ายที่สูงกว่าใครเพื่อน ดังนี้
Mazda 2 รุ่น XD Sports ราคา 782,000 บาท
Mazda 2 รุ่น XDL Sports ราคา 799,000 บาท
Mazda 2 ซีดาน Mazda 2 แฮทช์แบ็ก |
ความยาว |
4,340 มม. |
4,065 มม. |
ความกว้าง |
1,695 มม. |
1,695 มม. |
ความสูง |
1,470 มม. |
1,495 มม. |
ระยะฐานล้อ |
2,570 มม. |
2,570 มม. |
ระยะต่ำสุดจากพื้น |
143 มม. |
143 มม. |
น้ำหนักรถ |
1,174 กก. |
1,160 กก. |
ไฮไลท์
จุดเด่นของ Mazda 2 ดีเซล นอกเหนือจากเอกลักษณ์การออกแบบ KODO จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวที่มีดีไซน์เป็นไปในทิศทางเดียวกับรุ่นพี่อย่าง Mazda 3 และ CX-30 หากยังอยู่ที่แรงบิดอันทรงพลังระดับ 250 นิวตันเมตรที่รอบต่ำเพียง 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Honda City 1.0 ลิตร เทอร์โบ มีแรงบิด 173 นิวตันเมตรและ Nissan Almera 1.0 ลิตร เทอร์โบ มีแรงบิด 152 นิวตันเมตร
การออกแบบภายนอก
2020 Mazda 2 มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ เพิ่มระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ ไฟเดย์ไลท์ LED Signature และไฟท้าย LED เปลี่ยนกันชนหน้า ไฟท้าย และกันชนท้ายใหม่ กระจกบังลมหน้ากันเสียงรบกวน กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว ปรับและพับด้วยไฟฟ้า
นอกจากนี้ ยังมีสีตัวถังเพิ่มเติม คือ สีเทา Polymetal Grey และสีขาวเมทัลลิก Ceremic Metallic ส่วนเสาอากาศเป็นแบบครีบฉลาม ปลายท่อไอเสียโครเมียม และล้ออัลลอย 16 นิ้วปรับดีไซน์ใหม่เช่นกัน สวมทับด้วยยางขนาด 185/60 R16
ต้องยอมรับว่า Mazda 2 โลดแล่นอยู่ในตลาดนานแล้ว รูปลักษณ์จึงขาดความสดใหม่ แต่การปรับปรุงครั้งนี้ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจดึงดูดลูกค้าได้พอตัว โดยเฉพาะกับผู้ที่มองหารถทางเลือกอื่น ๆ นอกเหนือจากเจ้าตลาดอย่าง Honda และ Toyota
การออกแบบภายใน
ภายในห้องโดยสารไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก มีการปรับปรุงคอนโซลหน้า แผงประตูด้านข้าง และเบาะนั่งใหม่ที่ให้ผิวสัมผัสต่างจากรุ่นเดิม สีเทาสลับหนังกลับ Grand Luxe Suede แดชบอร์ดหน้าบุนุ่มหุ้มด้วยหนังสีเทา กรอบช่องแอร์สีเงินซาตินและสีขาว พวงมาลัยหุ้มหนัง และมีแป้นแพดเดิลชิฟท์สำหรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
บนคอนโซลหน้ามีหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เพิ่มความสะดวกสบายด้านการติดต่อสื่อสารด้วยระบบ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto คอนโซลกลางมีสวิทช์ควบคุมอัจฉริยะ Center Commander อยู่ในตำแหน่งใช้งานง่ายโดยไม่ต้องก้มมองแต่อย่างใด ติดตั้งกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ตลอดจนเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุดและด้านหลัง 4 จุด
ห้องโดยสารของ Mazda 2 ยังคงจุดเด่นที่ความสวยงาม ประณีต และพรีเมียม เรียกว่าดีที่สุดหรือยืนอยู่แถวหน้าในรถระดับเดียวกัน แต่ความคับแคบก็ยังคงเป็นจุดอ่อนของรถซับคอมแพ็กต์รุ่นนี้
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย
- หน้าจอแสดงผลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display แบบสี
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- มาตรวัดเรืองแสง Optitron
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
- ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- หน้าจอกลาง Center Display แบบสี ขนาด 7 นิ้ว
- เครื่องเสียง วิทยุ AM/FM CD MP3
- ปุ่มควบคุมกลาง Center Commander
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง
- สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ช่องเชื่อมต่อ AUX
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- ช่องใส่ SD CARD รองรับระบบนำทางเนวิเกชั่น Navigation System
- รองรับ Apple และ Android Auto
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- ระบบป้องกันล้อล็อก พร้อมระบบกระจายแรงเบรก ABS, EBD และ BA
- ระบบป้องกันล้อฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS
- ระบบควบคุมช่วยการทรงตัว DSC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA
- กล้องมองหลัง
- ระบบแสดงภาพรอบคันแบบ 360 องศา
- ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
- ระบบเตือนเมื่อจุดอับสายตาขณะถอย RCTA
- ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring PLUS
- ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้าและด้านหลัง 8 ตำแหน่ง
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- ระบบสัญญาณกันขโมย
ระบบขับเคลื่อน
Mazda 2 1.5 XDL วางเครื่องยนต์ Skyactiv-D ดีเซล 4 สูบ 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ ผลิตพละกำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive แบบ 6 สปีด อัตราบริโภคน้ำมัน 26.3 กม.ต่อลิตร
Mazda 2 ยังมีระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ i-STOP / i-ELOOP ช่วยประหยัดน้ำมัน ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่ GVC Plus พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPAS ช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังกึ่งอิสระ ทอร์ชั่นบีม
สมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบาย
ตามที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นว่า เครื่องยนต์ Skyactiv-D พ่วงเทอร์โบชาร์จบล็อกนี้มีแรงบิดสูงมาก อัตราเร่งจึงเป็นจุดเด่นของ Mazda 2 เวอร์ชั่นดีเซลทั้งซีดานและแฮทช์แบ็กก็ว่าได้ นี่คือรถที่ขับสนุก มีการตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะช่วงออกตัวที่แรงบิดมีมาให้ใช้อย่างทันท่วงที
อัตราเร่งแซงในช่วงความเร็วปานกลางไปจนถึงความเร็วสูงอาจไม่ได้ให้ความรู้สึกจัดจ้านถึงใจ แต่ก็มีพละกำลังมาให้ใช้อย่างต่อเนื่องและเหนือกว่าคู่แข่งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบอยู่พอสมควร โดยมาพร้อมเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดีเซลที่ลอยมากระทบโสตประสาท
ช่วงล่างที่เซ็ทอัพมาได้แน่นหนึบลงตัวและพวงมาลัยที่เฉียบคมพอเหมาะยังเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ Mazda 2 การยึดเกาะถนนทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งบนถนนทางตรงและทางคดโค้ง ตัวถังขนาดเล็กและน้ำหนักราว 1.2 ตันเศษทำให้มีความคล่องแคล่วว่องไวให้ความมั่นใจได้เป็นอย่างดี
อัตราความประหยัดน้ำมัน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Mazda 2 ที่เคลมไว้ในเว็บไซต์อยู่ที่ 26.3 กม.ต่อลิตร ขณะที่การใช้งานจริงในเมือง-นอกเมืองเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 19-20 กม.ต่อลิตร
สรุป
Mazda กำหนดราคา Mazda 2 ดีเซลตัวท็อปไว้สูงกว่าใครด้วยความที่มีบุคลิกที่แตกต่างจากคู่แข่งชัดเจน มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดีที่สุดและประหยัดน้ำมันที่สุดในระดับเดียวกัน
กลยุทธ์การพัฒนาและทำตลาดผลิตภัณฑ์เช่นนี้มีความจำเป็นสำหรับแบรนด์รถยนต์ระดับรองอย่าง Mazda ที่น่าจะถูกใจคอรถยนต์ที่มีเท้าขวาหนักเป็นพิเศษและกำลังมองหารถยนต์ขนาดเล็กที่รองรับการใช้งานอย่างสนุกสนานสักคัน ขณะเดียวกัน ยังนำเสนอรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่มีราคาจำหน่ายถูกกว่าเพื่อลูกค้าที่มองหารถที่ตอบสนองการใช้งานตามปกติ
ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในกลุ่มรถเก๋งเล็ก อีโคคาร์และบีเซกเมนท์ ปฏิเสธไม่ได้ว่า Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซลคือหนึ่งในรถที่มีความน่าสนใจมากที่สุด ถ้ามีงบประมาณถึงลองไปทดลองขับและสัมผัสจับต้องคันจริงเพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น