นิสสัน ประเทศไทย บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นเปิดตัว 2019 นิสสัน ซิลฟี ออกทำตลาดเมืองไทย โดยมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่รุ่น 1.6E CVT ราคา 8.33 แสนบาทไปจนถึงรุ่นสูงสุด 1.6DIG Turbo ราคา 1.015 ล้านบาท ซึ่งรุ่นท็อปนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร
2019 นิสสัน ซิลฟี่ เป็นรถยนต์ซีดานขนาดซีเซกเมนท์ ผลิตโดยนิสสัน ในประเทศไทย เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2555 ออกทำตลาดรถระดับคอมแพ็กต์ในประเทศไทย มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 13 – 14 กม.ต่อลิตร
2019 Nissan Sylphy โฉมปัจจุบันเปิดตัวทำตลาดตั้งแต่ปี 2012 รถคอมแพ็กต์ซีดานรุ่นนี้จึงโลดแล่นอยู่ในตลาดเมืองไทยมานานถึง 8 ปีเต็ม ยาวนานกว่าค่าเฉลี่ยของรถกระแสหลักทั่วไป
ด้วยอายุการทำตลาดที่ค่อนข้างนานเช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Sylphy จะทำยอดขายในกลุ่มซีเซกเมนท์ได้ไม่ถึง 100 คันในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 โดยยอดขายสะสมรั้งอันดับบ๊วยตามหลัง Honda Civic, Toyota Corolla Altis และ Mazda 3 ด้วยส่วนแบ่งตลาดไม่ถึง 1%
อย่างไรก็ตาม แผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Nissan ยังไม่มีข่าวของ All-New Sylphy ออกมาเลย ยิ่งเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ยิ่งทำให้การเปิดตัวโฉมใหม่อาจเกิดขึ้นในปี 2021 เราจึงขอรีวิวรถซีดานรุ่นนี้สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเป็นเจ้าของรถขนาดคอมแพ็กต์สักคัน
ราคาจำหน่ายของ 2019 Nissan Sylphy มีดังนี้
Sylphy รุ่น 1.6E CVT ราคา 833,000 บาท
Sylphy รุ่น 1.6V CVT ราคา 869,000 บาท
Sylphy รุ่น 1.6SV CVT ราคา 895,000 บาท
Sylphy รุ่น 1.6DIG Turbo ราคา 1,015,000 บาท
มิติตัวถัง
Nissan Sylphy รุ่น 1.6DIG Turbo |
ความยาว |
4,620 มม. |
ความกว้าง |
1,760 มม. |
ความสูง |
1,495 มม. |
ระยะฐานล้อ |
2,700 มม. |
ระยะต่ำสุดจากพื้น |
140 มม. |
รัศมีวงเลี้ยว |
5.2 เมตร |
ความจุถังน้ำมัน |
52 ลิตร |
ไฮไลท์
มีกระแสข่าวว่า 2019 Nissan Sylphy รุ่นปัจจุบันอาจเป็นรุ่นสุดท้ายที่ Nissan จะทำตลาดในประเทศไทยเนื่องจากต้องการหันไปเน้นที่รถอเนกประสงค์อย่าง Kicks e-Power ที่เพิ่งเปิดตัว และรถเก๋งเล็กอย่าง Almera 1.0 เทอร์โบที่ทำผลงานได้ดีกว่ามาก ส่วนรถระดับซีเซกเมนท์ก็ปล่อยให้ Honda และ Toyota แย่งชิงเค๊กส่วนแบ่งตลาดกันไป แต่ข่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน คงต้องติดตามกันต่อไป
การออกแบบภายนอก
Sylphy รุ่นท็อปขุมพลังเทอร์โบเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2015 มาพร้อมซันรูฟไฟฟ้า กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ต ไฟหน้าไฟหน้าโปรเจคเตอร์เลนส์ ซีนอนแบบปรับระดับอัตโนมัติ มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบทำความสะอาดไฟหน้า มีไฟตัดหมอกคู่หน้า ไฟหรี่และไฟท้ายแบบ LED ส่วนไฟเลี้ยวด้านข้างเป็นแบบ LED บนกระจกมองข้างที่มีฟังก์ชั่นปรับและพับไฟฟ้า แถมยังมีลวดลายคาร์บอน
หน้าตาภายนอกยังมีความแตกต่างจากรุ่นล่างตรงที่กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต สเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ต พร้อมคิ้วขอบประตูลายคาร์บอน กันชนหลังและสปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ต มีสัญลักษณ์ DIG Turbo ด้านท้ายรถ ปลายท่อไอเสียโครเมียม และใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว หุ้มด้วยยาง 205/50 R17
มองในภาพรวม Sylphy ดูหล่อเหลาเมื่อเปิดตัวเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่เข้าสู่ปี 2020 รถซีดานคอมแพ็กต์รุ่นนี้ขาดความสดใหม่ ยิ่งเมื่อเทียบกับ Sylphy รุ่นใหม่แล้วยิ่งทำให้โฉมปัจจุบันดูล้าสมัยไปในทันที
การออกแบบภายใน
เข้ามาชมในห้องโดยสาร การตกแต่งเน้นความเคร่งขรึมด้วยโทนสีดำสลับวัสดุสีเงิน วัสดุหุ้มเบาะเป็นหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ ที่วางแขนข้างประตู บุวัสดุนุ่มพิเศษ หัวเกียร์ หุ้มหนัง พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อม speed sensor หุ้มหนัง มีระบบเปลี่ยนหน้าจอ MID บนพวงมาลัย และระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
เห็นได้ชัดเจนว่าการออกแบบภายในยังมีเอกลักษณ์แบบรถยุคก่อนหน้าของ Nissan เน้นมอบความภูมิฐานและเรียบง่าย เมื่อมองในภาพรวม ดีไซน์ล้าสมัยและตามหลังคู่แข่งอย่าง Honda Civic และ Toyota Corolla Altis อยู่หลายก้าว ไม่ต้องพูดถึง Mazda 3 ใหม่ที่มีความทันสมัยและเรียบหรูกว่ามาก
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control)
- ระบบควบคุมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth บนพวงมาลัย
- มาตรวัดแบบ Analog แบบเรืองแสงและปรับระดับแสงได้
- จอ Multi-Information Display
- ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติพร้อมปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้ายขวา
- ช่องแอร์สำหรับที่นั่งด้านหลัง
- กุญแจอัจริยะ (Intelligent Key) พร้อมปุ่มเปิดฝาท้ายรถ และระบบ Immobilizer
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push start button)
- ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V
- เสาอากาศฝังกระจกหลัง
- ระบบเครื่องเสียง หน้าจอสี LCD จอ 5.8 นิ้ว วิทยุ CD MP3 แบบ 1 แผ่น พร้อมช่อง AUX-in, USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- ระบบนำทาง (Navigation system)
- ระบบเชื่อมต่อ Nissan Connect
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งประกอบด้วยคู่หน้า SRS, ถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลมด้านข้าง
- ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ VDC (Vehicle Dynamic Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System)
- ระบบเบรกกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด แบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ แบบ Double Pretensioner ฝั่งคนขับ
- เข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
- กล้องมองหลัง
- สัญญาณเตือนกะระยะด้านหลัง
- ระบบล็อคประตูอัตโนมัติตามความเร็วรถ
- ระบบโครงสร้างเพื่อความปลอดภัย Zone Body Concept
ระบบขับเคลื่อน
ไฮไลท์ของ Sylphy รุ่นท็อปอยู่ที่เครื่องยนต์ MR16DDT บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.6 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ ผลิตพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 2,400 – 5,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ XTRONIC CVT พร้อมระบบแมนวลโหมดแบบ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า
สมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบาย
รูปลักษณ์และอ็อปชั่นอาจล้าสมัย แต่ขุมพลังขับเคลื่อนของ Sylphy ถือเป็นตัวชูโรงก็ว่าได้ พละกำลัง 190 แรงม้า และแรงบิด 240 นิวตันเมตรตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วงออกตัวอาจไม่ปรู๊ดปร๊าดเหมือนกับรถซิตี้คาร์ขนาดเล็ก แต่เมื่อลอยลำไปแล้ว เรี่ยวแรงมีมาให้ใช้อย่างเหลือเฟือ
การเร่งทะยานช่วงความเร็วปานกลางและความเร็วสูงทำได้อย่างใจคิด เหนือชั้นกว่าคู่แข่งทั้ง Corolla Altis และ Mazda 3 อีกทั้งยังน่าจะเฉือน Civic ขุมพลัง 1.5 เทอร์โบด้วยซ้ำไป ระบบเกียร์ CVT ถ่ายทอดพละกำลังได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
สำหรับน้ำหนักพวงมาลัยอาจจะเบาไปสักหน่อย แต่ในส่วนของระบบเบรกและช่วงล่างถูกเซ็ทอัพมาได้ค่อนข้างดีและรองรับพละกำลังของตัวรถได้อย่างเหมาะสม เรียกว่าอยู่ในระดับมาตรฐานที่ไว้ใจได้ทั้งในการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำและการทำความเร็วสูงบนถนนต่างจังหวัด
อัตราความประหยัดน้ำมัน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยของ Nissan Sylphy 1.6DIG Turbo อยู่ที่ประมาณ 13 – 14 กม.ต่อลิตร
สรุป
ทราบกันดีว่าอนาคตของ Nissan Sylphy รุ่นปัจจุบันอยู่ระหว่างการนับถอยหลังสู่การยุติการทำตลาดในอีกไม่ช้า ยอดขายที่อยู่ในหลักสิบคันต่อเดือนบ่งชี้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่มองข้ามรถคอมแพ็กต์ซีดานรุ่นนี้ไปแล้วแม้จะมีราคาค่าตัวที่น่าดึงดูดโดยช่วงเปิดตัวเคาะที่ 999,000 บาท ส่วนปัจจุบันอยู่ที่ 1,015,000 บาท ย่อมเยากว่าตัวท็อปของคู่แข่งพอสมควร
หากถามว่า Sylphy โฉมปัจจุบันยังควรค่าแก่การเป็นเจ้าของหรือไม่ คำตอบอาจแตกต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละบุคคล โดยคนที่ไม่สนใจว่าตัวรถจะตกรุ่นหรือมีเทคโนโลยีล้าสมัยไปสักหน่อย แต่ให้ความสำคัญกับการขับขี่และต้องการขุมพลังที่แรงที่สุดในระดับเดียวกัน รถคอมแพ็กต์ซีดานรุ่นนี้ตอบโจทย์ได้แน่น่อน
แต่ถ้าต้องการความสดใหม่ ควรจะรอให้ถึงกำหนดการเปิดตัว All-New Nissan Sylphy ในประเทศไทยจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าจะมาเมื่อไหร่หรือแม้แต่จะเกิดขึ้นหรือไม่ ขณะเดียวกัน คาดว่า All-New Sylphy จะไม่มีเครื่องยนต์เทอร์โบอันทรงพลังเช่นนี้ไว้ให้กระทืบคันเร่งเป็นแน่