บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม เอเชีย จากประเทศญี่ปุ่นเปิดตัว 2019 ฟอมม์ วัน รถพลังงานไฟฟ้าออกทำตลาดเมืองไทย โดยจัดจำหน่ายรุ่นเดียวคือ ฟอมม์ วัน ราคาจำหน่าย 4.99 แสนบาท มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว 13 แรงม้า 560 นิวตันเมตร
2019 ฟอมม์ วัน เป็นรถพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก ผลิตในประเทศไทย เปิดตัวครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2561 ขับเคลื่อนได้ไกล 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 25-30 สตางค์ต่อกิโลเมตร
ในช่วงเปิดตัว 2019 Fomm One รถพลังงานไฟฟ้าไซส์จิ๋วสร้างความฮือฮาได้พอสมควร ก่อนที่กระแสจะซาลงไปท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดรถ EV
ยอดขายรถพลังไฟฟ้า Fomm One ยังแอบน่าเป็นห่วง เพราะสามารถทำตัวเลขได้หลักร้อยกว่าคันเท่านั้นในปี 2019 แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเชื่อว่าคอรถพลังงานทางเลือกส่วนใหญ่เอาใจช่วยให้รถจิ๋วรุ่นนี้ประสบความสำเร็จในยุคที่โลกยานยนต์หันหน้าเข้าสู่ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
Fomm One เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเซีย) จำกัด ถือเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในเมืองไทยที่เกิดจากเม็ดเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท มีการก่อตั้งโรงงานผลิตรถขนาดเล็กแบบ Micro Fab และรุกตลาดอย่างจริงจัง
ปัจจุบัน Fomm One มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4.99 แสนบาท วันนี้เราจะมารีวิวรถพลังงานไฟฟ้าคันจิ๋วรุ่นนี้ว่ามีดีมีเด่น และความน่าสนใจอะไรบ้าง ไปชมกัน
มิติตัวถัง
Fomm One |
ความยาว |
2,585 มม. |
ความกว้าง |
1,295 มม. |
ความสูง |
1,560 มม. |
ระยะห่างจากพื้น |
140 มม. |
ระยะฐานล้อ |
1,760 มม. |
น้ำหนักตัวรถ |
630 กก. (รวมแบตเตอรี่) |
รัศมีวงเลี้ยว |
3.8 เมตร |
ล้อ |
15 นิ้ว พร้อมยาง 145/65 R15 |
ไฮไลท์
ถึงแม้จะเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่ฟังเผิน ๆ ไม่น่าจะถูกกับน้ำ แต่หนึ่งในไฮไลท์ของ FOMM One คือการถูกออกแบบระบบป้องกันน้ำเข้ารถและสามารถลอยตัวได้เมื่อมีน้ำท่วมกระทันหัน แต่บริษัทฯ ก็เน้นย้ำว่า FOMM One ไม่ใช่ยานยนต์สะเทินน้ำสะเทินบก แต่เป็นรถที่ได้รับการการออกแบบให้สามารถลอยน้ำได้ชั่วคราวเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้
การออกแบบภายนอก
FOMM One มาพร้อมตัวถังขนาดเล็ก กะทัดรัด จัดเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่ผ่านมาตรฐานรถยนต์ขนาดเล็ก L6e จากภูมิภาคยุโรปอันเป็นมาตรฐานที่ใช้ในหมวดรถยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การออกแบบภายนอกถ่ายทอดแนวคิดการแต่งหน้าสไตล์คาบูกิ (Kabuki) ผสมผสานประโยชน์ใช้สอยเข้ากับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตัวถังมีสัสันให้เลือกทั้งหมด 6 สไตล์ ได้แก่สีแดง สีน้ำเงิน สีเหลือง สีชมพู สีขาว และสีเทา
การออกแบบภายใน
ภายในห้องโดยสารถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่รองรับผู้โดยสารได้ 4 ที่นั่ง และถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบาย เพื่อการใช้งานในพื้นที่แคบให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงมีการดัดแปลงการทำงานรูปแบบใหม่ด้วยการติดตั้งคันเร่งใกล้มือบนพวงมาลัย ส่วนที่เท้าจะมีเพียงแป้นเบรกเท่านั้น ซึ่งต้องใช้ความคุ้นเคยในการขับขี่สักพัก
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย
ฟังก์ชั่นการใช้งานตามปกติมีไฟหน้า ไฟเลี้ยว และไฟท้าย LED ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารของ Fomm One มีเพียงระบบปรับอากาศและกระจกไฟฟ้าเท่านั้น ส่วนอ็อปชั่นอื่น ๆ แม้แต่วิทยุนั้นไม่มีให้ใช้งานแต่อย่างใด
ระบบความปลอดภัย
ไม่มีระบบเสริมความปลอดภัย
ระบบขับเคลื่อน
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนแบบถอดเปลี่ยนได้ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าในดุมล้อหน้าทั้ง 2 ข้าง ให้กำลังรวมสูงสุด 13 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดมากถึง 560 นิวตันเมตร ทำความเร็วท็อปสปีดได้ที่ 80 กม./ชม.
Fomm One ยังรองรับฟังก์ชั่น Battery Cloud ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะและข้อมูลการทำงานของแบตเตอรี่ผ่านโทรศัพท์มือถือได้
สมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบาย
เนื่องจากมิติตัวรถที่มีความกว้างเพียง 1.2 เมตรและมีรัศมีวงเลี้ยว 3.8 เมตร ทำให้ Fomm One มีความคล่องตัวสูง ซอกแซกเข้าซอยเล็กซอยน้อยในเมืองใหญ่ได้อย่างปราดเปรียวและสะดวกสบาย อีกทั้งการหาที่จอดรถก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป
ระบบช่วงล่างด้านหน้าของ Fomm One เป็นแบบดับเบิล วิชโบน ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ ได้รับการเซ็ทอัพให้รองรับการใช้งานแบบขับไปเรื่อย ๆ ในเมืองได้เป็นอย่างดี
เบาะนั่งด้านหลังเล็กเกินไปที่จะให้ผู้โดยสารผู้ใหญ่นั่งได้สบาย จึงเหมาะสำหรับการเดินทางแค่ 2 คนมากกว่า การสัญจรในระยะทางใกล้ ๆ จากจุด A ไปจุด B ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Fomm One ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 80 กม.ต่อชม.
อัตราความประหยัดพลังงาน
ค่าไฟฟ้าในการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งอยู่ที่ประมาณ 40 บาท ขับเคลื่อนได้ไกล 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 25-30 สตางค์ต่อกิโลเมตร
สรุป
เดิมที Fomm One ถูกเคาะค่าตัวไว้ที่ 6.44 แสนบาท โดย 2,000 คันแรกจะจำหน่ายในราคาพิเศษที่ 5.99 แสนบาท ก่อนจะลดราคาลงมาเหลือ 4.99 แสนบาท
พูดกันตามตรง Fomm One เหมาะสำหรับการเป็นรถคันที่ 3 ของครอบครัว ตอบโจทย์การใช้งานแบบเฉพาะกิจ อาทิ การขับขี่รับ-ส่งบุตรหลานไปโรงเรียนในระยะทางใกล้ ๆ หรือการไปจ่ายตลาด ซื้อของตามซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านเท่านั้น
ระบบความปลอดภัยที่น้อยและตัวถังที่เล็กมากไม่เหมาะสำหรับการเดินทางไกลที่ต้องใช้ความเร็วสูง ถ้าต้องการออกเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดก็ควรจะใช้รถคันแรกหรือคันที่สองของครอบครัวแทน
ราคาจำหน่ายในระดับแตะ 5 แสนบาทยังถือว่าสูงเมื่อเทียบกับอรรถประโยชน์ของตัวรถ ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้รถอีโคคาร์หลายรุ่นที่มีค่าตัวใกล้เคียงกัน ดูแล้วการจะเข็น Fomm One ให้ประสบความสำเร็จน่าจะเป็นงานที่เหนื่อยเอาการ แต่ไม่ว่าผลลัพธ์บั้นปลายจะออกมาอย่างไร Fomm One ก็ถูกจารึกชื่อไว้แล้วว่าเป็นหนึ่งในผู้หาญกล้าบุกเบิกตลาดรถพลังงานไฟฟ้าเมืองไทยอย่างเต็มตัว