เวลาหยุดรถอาจเคยเจอปัญหารถรอบตก คล้ายเครื่องดับ เวลาหยุดรถแล้วจะกลับมาแซงแต่เร่งไม่ไป จนทำให้ตกใจว่ารถตัวเองนั้นเสียหรือไม่ แต่แท้จริงแล้วมันคือระบบ Auto Start-Stop หรือในบางคันจะเรียกว่า Idling Stop
มักจะมีใน Eco Car ใหม่ ๆ เนื่องจากเขาว่าช่วยประหยัดน้ำมัน ลดมลพิษ แต่สำหรับบางคนก็ไม่ชอบเนื่องจากรู้สึกกวนใจเวลาหยุดรถ แถมกลัวว่าเครื่องยนต์จะพังไว เรื่องนี้จริงแค่ไหน?
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ระบบ Start-Stop คืออะไร?
ระบบ Start-Stop (เดิน/หยุดรถ) เป็นระบบใหม่ในรถส่วนใหญ่ของยุคนี้ ที่จะใส่มาใน Eco Car ที่ต้องการความประหยัด ซึ่งตัดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อรถหยุดนิ่ง เพื่อลดการใช้น้ำมันและการปล่อยมลพิษ โดยเครื่องยนต์จะทำงานอีกครั้งเมื่อเหยียบคลัทช์, ปล่อยเบรก หรือเมื่อคนขับขยับรถอีกรอบ
ระบบ Start-Stop ทำงานอย่างไร?
ระบบจะใช้คอมพิวเตอร์เพื่อตรวจจับว่ารถกำลังหยุดนิ่งหรือออกจากเกียร์ ซึ่งในจุดนั้นจะหยุดการส่งน้ำมันและไฟที่เครื่องยนต์ การจุดเครื่องจะเริ่มใหม่เมื่อรถเริ่มขยับหรือมีการเหยียบคลัทช์หรือปล่อยเบรก ซึ่งเกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ แต่คนขับสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิดไว้ แต่ระบบจะทำงานก็ต่อเมื่อรถมีการเคลื่อนที่ 5 กม. / ชม.
เทคโนโลยี Start-Stop บางรุ่นใช้ระบบ TS ย่อมาจาก Tandem Solenoid (ขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้าสองตอน) เมื่อเครื่องยนต์กำลังจะหยุดทำงานแล้วคนขับเหยียบคันเร่งอีกครั้ง เช่น เมื่อคนขับตัดสินใจหยุดรถ แต่เปลี่ยนใจ เนื่องจากรถข้าง ๆ ขยับอย่างไม่คาดคิด ในเหตุการณ์นั้นเครื่องยนต์อาจถูกสั่งให้หยุดแต่ยังคงหมุนเวียน เพื่อหลีกเลี่ยงการกระชาก
ทำไมถึงมีการทำระบบ Start-Stop ขึ้นมา?
ระบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ตรงกับมาตรฐานการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เนื่องจากระบบ Start-Stop เป็นการดับเครื่องยนต์ชั่วคราว ซึ่งง่ายกว่าการหาวิธีทำให้เครื่องปล่อยไอเสียน้อยลง
ระบบ Start-Stop ทำให้เครื่องยนต์สึกหรือไม่?
ในการใช้งานระยะยาว ไม่ได้ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอไวขึ้นแต่อย่างใด เพราะระบบนี้จะทำงานขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ และตัวน้ำมันเครื่องบางส่วนยังคงหล่อลื่นชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ ไม่ไหลลงไปในอ่างเหมือนตอนเครื่องเย็น
ระบบ Start-Stop ช่วยประหยัดน้ำมันหรือไม่?
ในขณะที่รถหยุดนิ่งเครื่องยนต์ไม่ทำงาน หรือหยุดจอดไม่ต่ำกว่า 3 วินาทีขึ้นไป ระบบจะตัดการจ่ายน้ำมันทันที มีการเคลมว่าสามารถประหยัดน้ำมันได้ 7-10% เช่น ในการจราจรติดขัดหรือรอสัญญาณไฟเขียว น้ำมันจะถูกใช้น้อยลงขณะที่รถหยุดนิ่ง ซึ่งจำนวนน้ำมันที่ประหยัดได้มักเป็นที่ถกเถียงและขึ้นอยู่กับวิธีการขับรถของผู้ขับขี่เอง
ระบบนี้ดีต่อแบตเตอรี่หรือไม่
รถที่ใช้ระบบ Start- Stop จะทำให้แบตเตอร์รี่รถยนต์ทำงานมากขึ้น จึงมีแบตเตอร์รี่พิเศษเพื่อรองรับการทำงานของระบบนี้ได้ คือ EFB (Enhanced Flooded Batter) และ AGM (Absorbed Glass Mat) ที่สามารถรองรับได้มากกว่าแบตธรรมดา แต่ก็จะมีราคาแพงกว่า และรถที่มีระบบนี้ มักจะมีแบตเตอร์รี่เสริม เพื่อช่วยในการ ติดและดับเครื่องยนต์
ระบบ Start-Stop ทำให้สตาร์ทเตอร์เสื่อมหรือไม่
รถที่มีระบบ Start-Stop จะมีสตาร์ทเตอร์พิเศษเพื่อรองรับการทำงาน ซึ่งอาจมีราคาแพงกว่า 2-3 เท่าของสตาร์ทเตอร์ธรรมดา รวมถึงไดชาร์จ
แบบนี้ปิดไปเลยดีไหม?
แน่นอนว่าผู้ขับขี่แต่ละคน มีวิธิใช้รถที่ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นการเปิดปิด Start-Stop ฉะนั้นการเปิดหรือปิดจึงจะแตกต่างกันไป
- คุณควรจะปิด ถ้าคุณไม่อยากมานั่งกังวลใจกับเครื่องยนต์ที่ติด ๆ ดับ ๆ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงการปิดระบบ Start-Stop จะช่วยทำให้รักษาสภาพเครื่องยนต์ได้ด้วย
- คุณควรจะเปิดไว้หากในชีวิตประจำวันของคุณมักจะติดอยู่บนถนนบ่อยครั้ง เนื่องจากมันจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยประหยัดน้ำมันได้เล็กน้อย
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });