เกิดเหตุสลดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา หนุ่มนักธุรกิจชาวจีนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอยู่ในรถยนต์ Nio ES8 จนกลายเป็นข่าวใหญ่ในแดนมังกร
เว็บไซต์ Global Times สื่อของทางการจีนรายงานว่า ชายผู้เสียชีวิตเป็นผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจมากมายชื่อว่า หลิน เหวินชิน อายุ 31 ปี ข่าวระบุว่าหลินเปิดใช้งานโหมดการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Navigate on Pilot หรือ NOP ที่มีอยู่ในรถเอสยูวี ES8 ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต
ด้าน Nio ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าพวกเขาได้เข้าถึงตัวรถเพื่อทำการลบหรือดัดแปลงข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าว อีกทั้งยืนยันว่ายังไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกพนักงานของบริษัทฯ เข้าพบเพื่อให้ปากคำแต่อย่างใด
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ปะทะเข้ากับรถบรรทุกวัสดุก่อสร้าง
Nio ร่อนแถลงการณ์ระบุว่า รถยนต์ ES8 ของหลินชนเข้ากับรถบรรทุกวัสดุก่อสร้างที่จอดอยู่บริเวณทางออกหันเจียง บนทางด่วนเฉินไหในเมืองผู่เถียน มณฑลฝู่เจี้ยน การปะทะอย่างรุนแรงทำให้ตัวรถได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะส่วนหลังคาจนทำให้ตัวคนขับเสียชีวิต
“เพื่อให้แน่ใจว่าตัวแบตเตอรี่จะมีความปลอดภัยหลังจากการเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรง พนักงานของ Nio ได้ทำการตัดระบบไฟฟ้าในตัวรถ ซึ่งไม่ได้ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ สูญหายแต่อย่างใด” Nio ระบุ
แถลงการณ์ของ Nio เกิดขึ้นเมื่อบริษัทกฎหมายตัวแทนของหลินออกมาระบุว่า พนักงานของ Nio ได้เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ของตัวรถโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานตำรวจจราจร ซึ่งทำให้พนักงานคนดังกล่าวถูกเรียกตัวเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
Nio ยังระบุด้วยว่าได้ส่งทีมพนักงานเดินทางไปยังมณฑลฝู่เจี้ยนเพื่อให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทันทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุ พร้อมกับให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการสอบสวนอุบัติเหตุในครั้งนี้
“เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิต เราจะไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุจนกว่าการสอบสวนอย่างเป็นทางการจะเสร็จสมบูรณ์” Nio ระบุ
ทั้งนี้ ระบบ Navigate on Pilot หรือ NOP ของ Nio ทำงานด้วยกล้องตรวจจับ มีฟังก์ชั่นคล้ายระบบขับขี่อัตโนมัติ ตัวรถจะสามารถเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่เป็นทางด่วนหรือถนนไฮเวย์ได้โดยอัตโนมัติ พร้อมกับสามารถเร่งแซงหรือเปลี่ยนเลนได้เอง
อย่างไรก็ตาม Nio เน้นย้ำว่าระบบดังกล่าวทำงานเหมือนเป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เท่านั้น ขณะที่ตัวผู้ขับขี่จะต้องมีสมาธิอยู่บนท้องถนนอยู่ตลอดเวลา
มีการคาดการณ์ว่า กล้องตรวจจับของระบบ NOP ไม่สามารถตรวจจับรถบรรทุกที่จอดอยู่ได้ ทำให้ตัวรถไม่ชะลอความเร็วหรือเบี่ยงเปลี่ยนเลนจึงชนเข้าอย่างรุนแรง
อุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตในรถยนต์ Nio ดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน โดยในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รถเอสยูวี Nio EC6 ประสบอุบัติเหตุชนเข้ากับผนังกั้นทางด่วนจนเกิดไฟลุกไหม้ ทำให้ผู้ขับขี่ที่ติดอยู่ในรถเสียชีวิต
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของ Nio ปรับตัวลดลง 5.5% เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากมีข่าวอุบัติเหตุดังกล่าวที่สร้างความคลางแคลงใจให้ผู้ใช้รถชาวจีนบางส่วน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ Nio ในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 7,931 คัน เพิ่มขึ้นถึง 124.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });