บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังเร่งผลิต EV ได้จำนวนกว่าเทสลาในเริ่มแรก โดยนับจากตอนเทสล่าก่อตั้งปี 2003 กว่าจะผลิต EV ได้ครบ 100,000 คันต้องใช้เวลาถึง 15 ปีกว่าจะครบในปี 2015 แต่ในขณะที่บริษัทรถจีนอย่าง Nio ก่อตั้งปี 2014 ได้ผลิตรถครบ 100,000 คันเรียบร้อยแล้วในปี 2020 ซึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะความสำเร็จที่เทสล่าปูทางไว้ให้แล้ว

NIO และ Xpeng บรรลุแสนคัน

บริษัท Xpeng บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติสหรัฐฯ กล่าวยืนยันว่า บริษัทผลิตรถยนต์ได้ 100,000 คัน โดยเกิดขึ้น 6 ปีหลังจากบริษัทเปิดตัวเมื่อ 2014

ขณะที่ NIO สตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้า ก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2014 โดยใช้ชื่ออื่น และเปลี่ยนชื่อเป็น NIO ในเดือนกรกฎาคม 2017 เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ได้กล่าวว่า บริษัทได้ทำการผลิตรถยนต์ 100,000 คันแล้วในปีนี้

อ่านเพิ่มเติม : NIO ดึงนักออกแบบตัวพ่อจาก 5 แบรนด์ดัง เพื่อนำรถจีนชนะใจชาวยุโรป

Tesla บุกเบิกมาก่อน

ในสมัยก่อนนั้น Tesla ของ Elon Musk ใช้เวลา 12 ปีเพื่อผลิตรถยนต์ 100,000 คันในช่วงเวลาปี 2003-2015 เทสลาต้องเผชิญกับความล่าช้าในการผลิตหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีแรกๆ 

เพื่อความชัดเจน Tesla ยังคงใหญ่กว่ามากเมื่อเปรียบเทียบในปัจจุบัน เพราะสมัยนี้คนนิยม EV เพิ่มขึ้น ทำให้เป็นการง่ายขึ้นที่จะผลิตรถถึง 1 แสนคันในเวลาไม่กี่ปี

BYD ผู้ผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าของจีน กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า ผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้ 1 ล้านคันในหมวดรถยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่และไฮบริดด้วย ทำเอาหุ้นของ BYD ที่ซื้อขายในฮ่องกงเพิ่มขึ้นมากกว่า 25% จนถึงปีนี้ ซึ่งผู้สนับสนุนรายหนึงก็คือ Warren Buffett มหาเศรษฐีชาวอเมริกันนี่เอง นี่อาจเป็นสิ่งชี้วัดว่า EV มีอนาคตไกลจนนักลงทุนชื่อดังยังต้องเล่นหุ้นตาม

อ่านเพิ่มเติม : 2022 Nio ET7 ผลงานโบว์แดง “วิศวกรรมจีน” เล็งขยี้ Mercedes-Benz และ Tesla

ต้องขอบคุณผู้ปูทางไว้ให้

ปัจจุบัน Tesla ได้เพิ่มกำลังการผลิตด้วยโรงงานแห่งใหม่ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากรหรัฐรายนี้ ได้ก้าวข้ามเป้าหมายการผลิต EV ล้วนที่มากกว่า 1 ล้านคันในปีที่แล้ว อ้างอิงจาก Musk กล่าวในทวีตในเดือนมีนาคม 2020 ซึ่งนับว่าเป็นการก้าวกระโดดอย่างมาก

อาจจะเรียกได้ว่า กว่ารถยนต์ไฟฟ้าแต่ละบริษัทจะบรรลุเป้าหมายขนาดนี้ ต้องขอบคุณ Tesla ที่บุกเบิกมาในยุคก่อนก็ว่าได้

อ่านเพิ่มเติม : เผยข้อมูลที่สาวกเทสล่าช้ำใจ ชาวจีนส่วนใหญ่ซื้อ EV จีนมากกว่า Tesla ของดีจริงหรือแค่ชาตินิยม ?

EV บูมทำให้แร่แพงขึ้น

แต่ในขณะที่ทุกค่ายรถแข่งขันผลิต EV มากขึ้นเป็นหลักแสนคัน กลับมีอุปทานของแร่ลิเธียมเข้าสู่อุตสหากรรมได้ไม่มากพอ ทำให้ราคาขายพุ่งสูงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าเหมืองพยายามที่จะเพิ่มอุปทานเข้ามา แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะตอบสนองการบริโภค ทำให้ราคาแร่พุ่งขึ้น โดยในปีนี้ราคาลิเธียมคาร์บอเนตของจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในเวลาเพียง 2 เดือน และแร่ลิเธียมไฮดรอกไซด์เพิ่มขึ้นมากกว่า 70% ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาแบบก้าวกระโดดตามเทคโนโลยี EV แต่อย่างใด

อ่านเพิ่มเติม : ไม่ใช่แค่น้ำมันแพง แต่แบตลิเธียมเตรียมราคาพุ่ง เพราะแร่มีไม่พอ จนทำให้ตลาดกำลังขาดดุลแล้ว