รถยนต์สามารถจอดทิ้งไว้ได้นานแค่ไหนไม่ให้ส่งผลต่อแบตจนสตาร์ทติดยาก

ช่วงนี้ทุกท่านอาจจะอยู่ในช่วง Work from home กัน ทำงานอยู่แต่บ้านไม่ได้ไปไหน เป็นเหตุให้จอดรถทิ้งไว้จนเป็นเวลานาน

จนเกิดเป็นความกังวลว่าจะส่งผลอะไรต่อแบตเตอรี่รถยนต์หรือไม่ รวมถึงผลเสียอื่น ๆ วันนี้เรารวมมาให้ดู

แบตเตอรี่หมด-เสื่อมสภาพ

ปกติแล้วเวลาที่เราจอดรถทิ้งเอาไว้ แบตเตอรี่ของรถยนต์จะมีการคลายประจุไฟออกมาอยู่เล็กน้อย ถ้าเราใช้งานอยู่ทุกวัน จะมีการอัดไฟกลับเข้าไปใหม่ ทำให้ยังคงมีไฟให้สตาร์ทรถได้

แต่ถ้าเรามีการจอดทิ้งเอาไว้เป็นเวลานาน ๆ แบตเตอรี่มีโอกาสจะคลายประจุไฟออกจนหมด จนทำให้ไฟไม่มีมากพอที่จะให้ไดร์สตาร์ททำงานเพื่อติดเครื่องยนต์ แล้วถ้าแบตหมดเกลี้ยงจนเปิดวิทยุไม่ได้ ก็อาจต้องเปลี่ยนลูกใหม่เนื่องจากเสื่อมสภาพแล้ว

ซึ่งไม่ควรจอดนานเกินกว่า 12-14 วัน หากต้องจอดไว้จริง ๆ แนะนำให้ถอดขั้วลบออก เพื่อไม่ให้ประจุวิ่งตลอดเวลา และควรหาสายพ่วงแบตและรถเพื่อนบ้านเครียมไว้ด้วย

ยางรถยนต์เสื่อมสภาพ

เมื่อเราใช้งานรถยนต์ ยางจะมีการหมุนและกระจายน้ำหนักในการรับน้ำหนักรถยนต์ แต่หากเราต้องจอดรถทิ้งเอาไว้ ยางจะมีการรับภาระในการรองรับน้ำหนักในตำแหน่งเดียว ส่งผลให้ตัวยางมีการเสียทรง

เพราะน้ำหนักถูกกดไปที่ตำแหน่งเดียว และเมื่อเอากลับมาใช้งานใหม่ อาจจะทำให้ยางแบนลงได้

เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ

เมื่อเราขับรถยนต์ตามปกติ เครื่องยนต์จะถูกเคลือบไปด้วยน้ำมันเครื่อง ปกป้องทั้งการเสียดสีและการเจอกับออกซิเจนของเครื่องยนต์ แต่เมื่อจอดรถทิ้งเอาไว้เป็นเวลานาน น้ำมันเครื่องจะไม่มีการไหลเวียน 

ก็มีโอกาสที่เหล็กภายในจะเจอกับออกซิเจน จนเสี่ยงต่อการเกิดสนิมภายในได้ จนเริ่มกินเรื่อย ๆ จนเครื่องเสียหาย

เสี่ยงจากสัตว์

สัตว์ตัวเล็ก ๆ อาจจะขึ้นไปอาศัยบนตัวรถของเราได้ถ้ามีการจอดเอาไว้นาน ๆ มีทั้งหนู มด แมลงสาบ จ

โดยเฉพาะหนูที่มักจะสร้างความเสียหายต่อสายไฟภายในตัวรถของเราได้อย่างดี ยิ่งถ้าชอบทานอาหารในรถ ก็อาจเข้าไปกัดภายในได้เช่นกัน

สีรถด่าง

การที่ต้องจอดตากแดดเป็นเวลานาน จะทำให้สรถนั้นเกิดอาการด่างได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดรอยคราบน้ำหรือคราบขี้นก ที่จะเกาะติดในช่วงแดดแรงได้เป็นอย่างดี

หากต้องจอดรถไว้นาน ๆ ก็ควรไปสตาร์ทเครื่องทุก ๆ 1-3 สัปดาห์บ้างเพื่อป้องกันการเสียหาย หรือขับวนรอบในหมู่บ้านก่อนนำมาจอดก็ยังดีครับ