การนำพี่ใหญ่ขาลุยอย่าง 2022 TANK 500 HEV (แทงค์ 500 เอชอีวี) เข้ามาจัดแสดงในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในโลก สำหรับเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ไฮบริดในรถรุ่นนี้ อาจจะเป็นการบอกเป็นนัยว่า รถคันนี้จะถูกเปิดตัวในประเทศไทยตามมาอย่างแน่นอนในอนาคต
เพราะหากไม่ต้องการทำตลาด และต้องการนำมาโชว์เพียงอย่างเดียว พวกเขาก็อาจจะเลือกทางที่ง่ายกว่ากับการเลือกเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ปกติ แต่การเลือกใช้ไทยเป็นสถานที่เปิดตัวรถรุ่นนี้ เคียงคู่กับ 2022 Haval H6 PHEV (ฮาวาล เอช6 พีเอชอีวี) ก็น่าจะเป็นคำตอบอื่นใดไปไม่ได้
เอาจริง ๆ แล้ว GWM (เกรทวอลล์มอเตอร์) นั้นต้องการชูภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งในเรื่องของการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่แล้ว จะเห็นว่ารถทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ก็เป็นรถยนต์ไฮบริดหรือไฟฟ้าทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Haval H6 (ฮาวาล เอช6) Haval Jolion (ฮาวาล โจไลออน) หรือ ORA Good Cat (ออร่า กู๊ดแคท)
ไฮไลท์ของการเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์นั้น แน่นอนว่าจะต้องอยู่ที่ตัวเอช6 แบบเสียบปลั๊ก ที่ฮาวาลยืนยันว่าจะเป็นสินค้ารุ่นที่ 4 ที่ทำตลาดในเมืองไทยในช่วงปีหน้า ซึ่งก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถเดินหน้าเปิดตัวรถในปีนี้พร้อมประกาศราคาจำหน่ายได้ครบ 4 รุ่น ตามที่คุยเอาไว้ตั้งแต่ต้น
นอกเหนือไปจากนี้ เราเคยมีรายงานข่าวแล้วว่าพวกเขาเตรียมติดตั้งเครื่องจักรเพื่อทำการผลิตปิกอัพอย่าง GWM Poer (จีดับบลิวเอ็ม โปเออร์) ในโรงงานที่ระยอง ซึ่งอาจจะใช้ในการผลิตรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่มีความใหญ่โตกว่าเอสยูวีหลายรุ่นที่ใช้สายการผลิตเดียวกันอยู่ ในการผลิตรถรุ่นต่าง ๆ
และ TANK ก็อาจจะเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับไลน์ผลิตใหม่นี้...
เริ่มศึกษา แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจทั้งหมด
การนำรถเอสยูวีสายลุยขนาดใหญ่อย่างแทงค์เข้ามาในครั้งนี้ ผู้บริหารของเกรทวอลล์ระบุว่าเป็นการนำเข้ามาเพื่อศึกษาความต้องการของลูกค้าและตลาดรถยนต์ในประเทศไทย แต่ทิ้งท้ายว่า ลูกค้าชาวไทยจะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้สัมผัสกับรถยนต์ที่นำมาจัดแสดงในงานนี้ทั้ง 2 รุ่น
จากการสอบถามทีมงานของเกรทวอลล์เพิ่มเติม พวกเขายอมรับว่ามีการศึกษาเพื่อการผลิตรถยนต์คันนี้ในประเทศไทยจริง แต่ยังไม่มีการระบุช่วงเวลาที่ชัดเจน และแน่นอนว่ายังไม่ได้คุยกันถึงความพร้อมในการทำตลาดหรือช่วงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสำหรับตลาดในประเทศไทย
ทั้งนี้ แทงค์ถือเป็นหนึ่งในรถเอสยูวีที่ขายดีในตลาดประเทศจีน โดยได้มีการแตกไลน์ออกไปหลายรุ่น ตั้งแต่ 300-700 ซึ่งก็มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนสำหรับรถแต่ละรุ่น ซึ่งหากมีการนำแทงค์ 500 เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยจริง ในอนาคตก็อาจจะมีการนำรุ่นอื่น ๆ เข้ามาได้เพิ่มเติมเช่นกัน
รถคันจริงเป็นอย่างไรกันบ้างนะ
จากการที่เราได้เดินรอบ ๆ รถในงานมหกรรมยานยนต์ ต้องบอกว่าการออกแบบของรถภายนอกนั้นมาในรูปแบบของเอสยูวีแท้ ๆ ด้วยชุดโคมไฟหน้าขนาดใหญ่ที่ดูลงตัวกับกระจังหน้าทรงแข็งแกร่ง ด้วยเส้นสายที่ชัดเจน แต่เพิ่มความหรูหราพรีเมียมด้วยโครเมียมในตำแหน่งต่าง ๆ ของตัวรถรอบคัน
ขนาดของตัวรถนั้นใหญ่มาก ให้ความรู้สึกเดียวกับรถเอสยูวีขาลุยจากค่ายญี่ปุ่น ไม่ก็รถกลุ่ม 7 ที่นั่งจากค่ายยุโรปกันเลยทีเดียว เรียกว่าขับยากแน่นอนบนท้องถนนในประเทศไทย จนมีอยู่แวบนึงเหมือนกันที่สงสัยว่าเกรทวอลล์จะขายคันนี้จริง ๆ หรอ ทำไมไม่ไปเริ่มที่คันเล็กกว่านี้อย่าง TANK 300 ก่อน
ห้องโดยสารภายในออกแบบด้วยความหรูหราเหนือระดับในแบบรถจากค่ายนี้ทุกรุ่น มาพร้อมหน้าจอดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว และหน้าจอควบคุมด้านหลัง เบาะที่นั่งหุ้มหนังขนาดใหญ่โต ที่เรียกว่าจัดเต็มมาทั้งความหรูหรา ความแข็งแกร่งและความสะดวกสบาย
ตามสเปกที่ทางเกรทวอลล์ให้มานั้น รถคันนี้จะมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด ที่เป็นการผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 240 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 380 นิงตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ
ตัวรถได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือด้านการขับขี่อย่างเต็มพิกัด รวมไปถึงระบบการจดจำและการเปลี่ยนโหมดการขับขี่แบบอัตโนมัติตามสภาพของถนนที่ขับขี่ รวมถึงความสามารถในการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ด้วยคำสั่งเสียง ที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกทั้งโหมดลุยน้ำหรือฟังชั่นส์ออฟโรดก็ตาม
ความสะดวกสบายในการขับขี่มาจากแพลตฟอร์มช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะสามารถรับรู้ฟังก์ชันต่าง ๆ ตามการนำทาง เช่น การขึ้นลงทางลาดอัตโนมัติ การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ การเปลี่ยนเลนเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง และระบบช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉินทั้งบนถนนทางหลวงและทางด่วนในเมือง
อ่านจากสเปกแล้วต้องบอกว่าไม่ธรรมดาสุด ๆ สำหรับรถเอสยูวีขับเคลื่อนสี่ล้อคันนี้ของค่ายน้องใหม่จากแดนมังกร คำถามก็คือหากมีการนำเข้ามาทำตลาดจริง ๆ รถยนต์คันนี้ควรจะตั้งราคาจำหน่ายสักเท่าไร ในฐานะรถที่จะเปิดสายการผลิตในประเทศไทยในอนาคตรุ่นนี้
ทำไมเราถึงคิดว่าราคาน่าจะอยู่แถว 3 ล้านบาท
นอกเหนือไปจากการเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เดินหน้าทำตลาดรถเอสยูวีหลายรุ่นด้วยราคาจำหน่ายที่แสนจะเร้าใจแล้วนั้น อีกสาเหตุที่เกรทวอลล์ไม่น่าจะกล้าปั่นราคารถรุ่นนี้ขึ้นไปมาก ก็น่าจะต้องมองไปที่ราคาจำหน่ายรถยนต์คันนี้ในประเทศจีน รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะทำราคาจำหน่ายในบ้านเรา
ในจีนนั้น TANK 500 เวอร์ชั่นเครื่องยนต์เครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 354 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังกว่าอย่างชัดเจน วางจำหน่ายอยู่ที่สนนราคาประมาณ 1.7-2 ล้านบาทเท่านั้นเอง
ขณะที่ในเมืองไทยนั้น การเลือกใช้เครื่องยนต์ไฮบริดอาจจะดูเป็นการแสดงให้เห็นถึงความล้ำหน้า ล้ำสมัยมากกว่า แต่สมรรถนะที่ให้มานั้นดูยังต้องพิสูจน์อีกมากว่าจะสามารถเอาตัวถังที่หนักขนาดนี้อยู่หรือไม่ และมันจะน่าใช้งานเหมือนที่เราเห็นกันครั้งแรกนี้หรือเปล่า ก็ต้องรอเวลาที่พวกเขาเปิดตัวรถออกมา
ถึงเวลานั้นค่อยมาพิจารณาราคาและความคุ้มค่าอีกครั้งละกัน!!!