Honda ทำรถกระบะ Isuzu ทำรถเก๋ง สองสิ่งนี้อาจจะไม่คุ้นเคย สำหรับเด็กรุ่นใหม่อายุน้อยกว่า 25 ปี เพราะเกิดไม่ทันรถในตำนานที่มาจากความร่วมมือกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นแบบนี้ นั่นยิ่งทำให้รถสองรุ่นนี้มีความพิเศษ น่าสะสมอย่างที่หลายคนคิดไม่ถึง
Honda Tourmaster (ฮอนด้า ทัวร์มาสเตอร์) และ Isuzu Vertex (อีซูซุ เวอร์เทคซ์) รถสองรุ่นนี้เป็นผลงานการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์กัน เพื่อนำไปเติมเต็มช่องว่างในตลาดของตัวเอง ซึ่งทางฮอนด้ายังไม่มีรถกระบะ และทางอีซูซุยังไม่มีรถเก๋งในขณะนั้น จึงนำรถของตนเองมาแลกกันทำตลาด (แล้วก็แข่งกันเอง)
โดยในปีนี้เป็นโอกาสครบ 25 ปีของรถทั้งสองรุ่นนี้ เรียกว่าเข้าสู่วัยเบญจเพศของรถในตำนาน ที่มีความสำคัญและน่าสนใจ เพราะกำลังจะกลายเป็นของคลาสสิคน่าสะสม
อ่านเพิ่มเติม : ผลการวิจัยพบว่า รถที่คนมักจะเก็บนานเกิน 15 ปี ล้วนแล้วแต่เป็นรถญี่ปุ่น
Honda Tourmaster แพงกว่าแบบไร้จุดขาย
ฮอนด้า ทัวร์มาสเตอร์ รถกระบะขนาด 1 ตันเปิดตัวในปี 1996 ได้แบบอย่างรถทั้งคันมาจาก Isuzu TFR มาเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ใส่ตรา H ที่ด้านหน้า ด้านหลัง แทนที่อักษรรุ่นเดิมด้วยชื่อ Tourmaster เข้าไปที่ฝาท้าย และกระจกแค็ปตอนครึ่ง กับเปลี่ยนลายล้อแม็กซ์ให้ความแตกต่างจากเดิมเพียงเท่านั้น
ภายในมีเพียงโลโก้ตรงพวงมาลัยเท่านั้น ที่เป็นของ Honda แท้จริง นอกเหนือจากนี้ มีชิ้นส่วนภายในรวมถึงเครื่องยนต์ ใช้ชิ้นส่วนทุกอย่างร่วมกับฝาแฝด TFR เป็นบล็อคดีเซลไดเร็คอินเจ็คชั่น ความจุ 2.5 ลิตร 90 แรงม้า
ในปี 1997 ก็เปิดตัวโฉมไมเนอร์เชนจ์อย่างฉับไว โดยใช้พื้นฐานจาก Isuzu โฉมดราก้อนอาย หน้ามนลาดเฉียงลู่ลม แตใช้ไฟหน้าคนละชิ้นกับอีซูซุ โดย honda Tourmaster เปลี่ยนทรงตรงขอบไฟหน้าให้มีปลายแหลม ชี้เข้าหากระจังหน้ามากขึ้น และแน่นอนวา กระจังหน้าก็เปลี่ยนรูปทรงกรอบให้เหลี่ยมกว่าอีซูซุ พร้อมประดับโครเมียมเพื่อความหรูหรากว่า
Isuzu Vertex โปรโมทดี
อีซูซุ เวอร์เทคซ์ รถเก๋ง 4 ประตูขนาดเล็ก กลับไม่ได้ใช้ต้นแบบจาก Honda Civic โดยตรง แต่ได้ไปยกเอา Honda Integra SJ ที่เป็นรถเก๋งทำตลาดหรูกว่าซีวิคตาโตในตลาดญี่ปุ่น มาเปลี่ยนแปลงโลโก้ใหม่ ทั้งคัน แม้ว่ายังจะมีพื้นฐานชิ้นส่วนหลายอยางร่วมกับ Honda Civic EK แต่ในส่วนด้านหน้านั้น มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน กล่าวคือ Isuzu Vertex มีความเหลี่ยมและหรูกว่า จากกระจังหน้าใหญ่ ไฟหน้าเป็นทรงคางหมู กันชนที่มีสันนูนแนวตรง
ภายในมีเพียงโลโก้ตรงพวงมาลัยเท่านั้น ที่เป็นของ Isuzu แท้จริง นอกเหนือจากนี้ มีชิ้นส่วนภายในรวมถึงเครื่องยนต์ ใช้ชิ้นส่วนทุกอย่างร่วมกับฝาแฝดซีวิค เป็นแบบเบนซิน ความจุ 1.6 ลิตร มีให้เลือกระหว่างแคมเดียว SOHC กำลัง 120 แรงม้า และรุ่นท็อปแคมคู่ DOHC กำลัง 127 แรงม้า
การตลาดของรถเก๋งอีซูซุทำได้ดีกว่ารถกระบะฮอนด้า เนื่องจากมีการจ้างดาราฮอลีวู้ดชื่อดัง ริชาร์ด เกียร์ มาร่วมในโฆษณารถรุ่นนี้ โดยยังมีการโปรโมท Isuzu Vertex ในละครทีวีต่าง ๆ ที่อีซูซุเป็นสปอนเซอร์ในขณะนั้น รวมถึงการเปลี่ยนการตกแต่งโชว์รูมเป็น Isuzu Car Gallery เพื่อลูกค้าสายรถเก๋ง ที่ชอบความสบาย ดูภูมิฐาน
ราคาจำหน่ายป้ายแดง
Honda Tourmaster ประกาศราคาขาย 372,500 แพงกว่าต้นฉบับ TFR อยู่ประมาณ 20,000 บาท เพราะมีการเปลี่ยนโลโก้รอบคัน (ยกเว้นตรา Isuzu บนฝาวาล์ว) และใช้ล้อแม็กซ์ 6 ก้านแบบปัดเงา ซึ่งนับเป็นการตกแต่งหรูหรามากในขณะนั้น ส่วนทางด้าน Isuzu Vertex มีราคาป้ายแดงอยู่ระหว่าง 588,000 - 691,000 บาท ซึ่งสูงกว่า ฮอนด้า ซีวิค อยู่เล็กน้อย
ยอดขายไม่ปัง
หลังจากออกมาได้ 1 ปี Honda Tourmaster ทำยอดขายได้ 1,877 คัน ส่วน Isuzu Vertex ทำยอดขายได้ 1,560 คัน ซึ่งนับว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับต้นฉบับ ที่ขายได้เกินหมื่นคัน/ปี สาเหตุเพราะลูกค้าไม่ต้องการภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เปลี่ยนไป แลกกับราคาที่เพิ่มขึ้นมา จากนั้นในปี 1997 ก็เกิดเศรษฐกิจตกต่ำ เป็นวิกฤตต้มยำกุ้ง ทำให้ยอดขายยิ่งต่ำลงไปอีก
ในที่สุด Honda Tourmaster ก็เลิกทำตลาดในปี 1998 ส่วน Isuzu Vertex ทำตลาดต่อลมหายใจได้ถึงปี 1999 ก่อนจะยอมแพ้ตามไป
มือสองควรสะสม
รถมือสอง Honda Tourmaster เริ่มเป็นที่สะสมกันบ้างแล้ว ด้วยความหายากของชิ้นส่วนโลโก้ต่าง ๆ ที่ต้องรักษาไว้ในสภาพเดิมที่สุด ไม่มีเบิกใหม่หรือนำเข้าจากญี่ปุ่น ทำให้ตอนนี้ราคามือสองของรุ่นนี้ขยับจากหลักหมื่น ขึ้นมาเป็นหลักแสน ซึ่งก็ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ อาจจะต้องรอทั้งปี เพื่อมีรถลงขายสักคัน โดยรุ่นปีที่หายากที่สุด คือโฉมไมเนอร์เชนจ์ หน้าลิ่มลู่ลม และใช้เครื่องยนต์ใหม่แบบดีเซล 2.5 ลิตรเทอร์โบ 79 แรงม้า
รถมือสอง Isuzu Vertex กลับมีจำนวนคนขายมือสองมากกว่า อาจจะเป็นเพราะวางขายในตลาดนานกว่า จึงมีปริมาณรถมากกว่า รุ่นที่น่าใช้คือโฉมไมเนอร์เชนจ์แล้ว ที่มีไฟหน้าตาเพชร กระจังหน้าหรู ไฟท้ายเปลี่ยนใหม่ เพิ่มถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับในรุ่นท็อป ราคามือสองตอนนี้อยู่ที่ 7-8 หมื่น ในสภาพเดิม ไม่แต่งจนช้ำ ไม่ชนจนเละ
รถมือสองส่วนใหญ่มักจะมีราคาที่ตกต่ำลงเรื่อย ๆ ตามปีรถ แต่ทั้งสองรุ่นนี้ กลับมีราคาขายต่อที่ทรงตัว ไม่ลดลงเหมือนรุ่นอื่นในยุคเดียวกัน แถมยังมีคนตามหาอยู่เรื่อย ๆ ทำให้คาดว่า ฝาแฝดคู่นี้ จะกลายเป็นรถน่าสะสมอีกรุ่น หากทำเก็บสภาพเดิม อาจจะมีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วยซ้ำ เพราะว่ารถทั้งสองค่าย ตัดสินใจไม่รุ่นรถมาแลกเปลี่ยนโลโก้ขายแบบนี้อีกต่อไป
(ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก Mongkhol Wongbanluerit)