รถเอสยูวีในยุคปัจจุบัน ไม่ได้ถูกใช้ขับลุยทางโคลนหนักเหมือนแต่ก่อน หลายคนซื้อมาใช้แค่เพราะต้องการความสูงไว้หนีน้ำท่วม หรือต้องการพื้นที่ห้องโดยสารกว้างกว่ารถเก๋งเท่านั้น ซึ่งเอสยูวีแบบใช้งานเบา ๆ เหล่านี้มักจะมีราคาสูง แต่ถ้าคุณมีงบประมาณ 300,000 กว่าบาท เราขอแนะนำ Honda CR-V เจน 3 นี้เลย

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี) เจเนอเรชั่นที่ 3 เป็นเอสยูวีขนาดกลาง พื้นฐานจากซีวิค ที่เปิดตัวเมื่อปี 2007 มีความน่าซื้อใช้ เพราะเป็นเอสยูวีขนาดเบา เหมาะสมกับการใช้งานของคนเมืองมาก ในราคาที่คุ้มค่าตัว ซึ่งเราแนะนำให้ซื้อรุ่น 2WD ก็เพียงพอแล้วกับชีวิตประจำวัน

เอสยูวีสไตล์เก๋งเป็นครั้งแรก

Honda CR-V รุ่นที่ 3 นี้เปิดตัวในปี 2007 พัฒนาให้เป็นรถอเนกประสงค์สำหรับคนเมือง ฉีกแนวทางจากรุ่นที่ 2 ซึ่งยังคงเป็นสายลุยอยู่ โดยมีความนิ่มนวลแบบรถเก๋ง ลดความสูงใต้ท้องรถลงเพื่อให้ก้าวขาขึ้นลงง่าย นำยางอะไหล่ท้ายรถออกไปซ่อนไว้ในห้องสัมภาระ ทำให้กระจกหลังใหญ่ขึ้น ดีไซน์เส้นสายโค้งมน ลบเหลี่ยมมุม หลังคาลาดลงไม่เป็นทรงกล่องอีกต่อไป อีกทั้งยังย้ายตำแหน่งเกียร์จากข้างพวงมาลัย มาอยู่ตรงกลางแบบรถเก๋งอีกด้วย

เครื่องยนต์กำลังแรง

Honda CR-V G3 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2 ความจุคือ 2.0 ลิตร กำลัง 150 แรงม้า และ 2.4 ลิตร กำลัง 170 แรงม้า ซึ่งขับทางไกลได้อัตราสิ้นเปลืองที่ 12 กม./ลิตร ส่วนในเมืองประมาณ 9 กม./ลิตร ซึ่งเราแนะนำให้ซื้อรุ่นท็อป 2.4 ลิตรไปเลย เพราะได้ความแรง ออพชั่นเยอะ โดยสามารถติดแก๊สได้อย่างทนทาน ไม่มีใครบ่นว่าพังง่าย

อ่านเพิ่มเติม : Honda CR-V G1 โฉมแรกสุด มีคนตามสะสม ทำราคามือสองพุ่งขึ้น

แนะนำรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ

Honda CR-V G3 โฉมไมเนอร์เชนจ์ตอนปลายปี 2009 ได้ฝากระโปรงทรงใหม่ กระจังหน้าหรูขึ้น พร้อมกันชนที่มีชิ้นส่วนสีเดียวกับตัวถังมากขึ้น ที่สำคัญคือ เพิ่มรุ่นย่อย 2.4 EL ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ซึ่งเป็นรุ่นที่เราแนะนำให้ซื้อใช้ เพราะมีชุดแต่งสปอร์ต Modulo เพิ่มให้เลือก ได้ความประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นขับสี่ล้อ และยังคงให้ออพชั่นครบถ้วนเหมือนตัวท็อปสุดด้วย

ออพชั่นรุ่น 2.4 EL

Honda CR-V รุ่นย่อย 2.4 EL 2WD จัดออพชั่นเหมือนรุ่นท็อปทุกอย่าง จุดเด่นอยู่ที่ ไฟหน้าซีนอนในเลนส์โปรเจคเตอร์ ที่กลางคอนโซลใส่หน้าจอสัมผัส พร้อมฝังระบบนำทางในตัวมาให้ มีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วยบลูทูธ ให้แอร์ออโต้ปรับแยกอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา เบาะหนังแท้ทั้งคัน ที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ทั้งหมดนี้มีมาให้แล้วในรถเมื่อ 10 ปีที่แล้วอย่างรุ่นนี้ (ในรุ่น 4WD ได้ปรับไฟฟ้าฝั่งผู้โดยสารด้วย)

มีระบบช่วยทรงตัวในรุ่นท็อป

Honda CR-V G3 โฉมไมเนอร์เชนจ์ รุ่นย่อย 2.4 EL ได้ระบบความปลอดภัยจัดเต็มเหมือนรถยุคใหม่ เพราะได้กล้องมองหลัง ระบบช่วยทรงตัว VSA ได้ถุงลมนิรภัย 4 ใบครบถ้วน แน่นอนว่ายังมีระบบครูสคอนโทรล กับเบรคเอบีเอส ให้มาเป็นมาตรฐาน

ปัญหาที่ต้องซ่อม

ปัญหาใหญ่ของ Honda CR-V G3 ก็คือ แร็คพวงมาลัย เพราะใช้ปั๊มพาวเวอร์แรงดันสูง เพื่อให้ขับสบายกว่ารถเอสยูวีอื่น ๆ แต่ก็แลกมาด้วยค่าซ่อมแพงตามตัวไปด้วย โดยอะไหล่แท้เปลี่ยนใหม่ทั้งชิ้นมีราคาอยู่ที่ 40,000 - 50,000 บาท หรือเลือกเปลี่ยนชุดซ่อม ราคาประมาณ 8,000 บาทก็ย่อมได้ แต่จะทนทานนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับฝืมือช่างถอดประกอบ

อ่านเพิ่มเติม : ผลวิจับพบว่า รถที่คนมักจะเก็บนานเกิน 15 ปี ล้วนแล้วแต่เป็นรถญี่ปุ่น

ราคามือสอง Honda CR-V 

Honda CR-V 2.4 EL 2WD คือตัวท็อปสุดที่ขับเคลื่อน 2 ล้อ เหมาะสำหรับคนไม่ชอบลุยเยอะ เครื่องแรงแต่ประหยัดน้ำมันด้วยระบบขับเคลื่อนที่เบาแรง พร้อมได้ออพชั่นอย่างรถเก๋งหรู ในราคามือสองเริ่มต้น 350,000 - 400,000 บาท หรือถ้าเป็นรุ่นชุดแต่ง Modulo ก็จะมีราคาขายต่อแข็งแรงขึ้นไปถึง 450,000 บาทก็มี

หากใครงบไม่พอ ก็เล่น Honda CR-V G3 โฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์ ที่มีราคาเริ่มต้น 260,000 - 330,000 บาทก็ได้เช่นกัน แล้วแต่สภาพรถ และสภาพคล่องทางการเงิน

Honda CR-V G3 นับเป็นผู้บุกเบิกตระกูล CR-V ให้นิ่มนวลแบบรถเก๋งเป็นครั้งแรก มีทรงตัวถังให้โค้งมนเป็นครั้งแรก เริ่มย้ายยางอะไหล่ออกจากฝาท้าย ย้ายแป้นเกียร์มาอยู่ตรงกลางเป็นครั้งแรก มีรุ่นแต่ง Modulo ให้เลือกเป็นครั้งแรก และมีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าให้เลือกเป็นครั้งแรกของรุ่นนี้ ซื้อใช้แล้วยังให้ความรู้สึกเหมือนขับรถเอสยูวียุคปัจจุบัน ในราคามือสองแบบรถ 10 ปีที่แล้ว

ข้อมูลทางเทคนิค Honda CR-V G3