ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า 2022 Toyota Alphard (2022 โตโยต้า อัลฟาร์ด) เจนเนอเรชั่นใหม่จะเปิดตัวครั้งแรกภายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีหน้า

Alphard รุ่นปัจจุบันเปิดตัวออกทำตลาดมานานกว่า 6 ปีแล้ว ที่ผ่านมารถอเนกประสงค์รุ่นนี้ได้เสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยมในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงอีกหลายตลาดอย่างเมืองไทยที่มักถูกอกถูกใจคนที่ต้องการรถเอ็มพีวีนั่งสบาย มีความหรูหราพอตัว และมีชื่อชั้นแบรนด์ที่ไว้วางใจได้เพื่อการใช้งานในระยะยาว

ล่าสุด เว็บไซต์ Bestcarweb จากแดนอาทิตย์อุทัยรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากดีลเลอร์ของ Toyota ว่ารถเอ็มพีวีรุ่นนี้จะเปิดตัวโฉมใหม่โมเดลเชนจ์ภายในเดือนกันยายนปี 2022 อย่างแน่น่อน

รูปร่างเน้นความสปอร์ตและทันสมัยยิ่งขึ้น

Bestcarweb ยังทำการร่างภาพเรนเดอร์รอบคันจากการให้ปากคำของแหล่งข่าวคนดังกล่าว ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกของ All-New Alphard มีความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว และทันสมัยมากขึ้นอย่างชัดเจน

ยอดขาย Alphard รุ่นปัจจุบันยังคงพุ่งสูงติดลมบนระดับหลายพันคันต่อเดือนซึ่งถือว่าน่าพึงพอใจอย่างมากและไม่น่าแปลกใจที่ Toyota จะยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบเหมือนเดิมไว้ แต่แต่งเติมรายละเอียดที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น

มีกระแสข่าวหลายทิศทางระบุว่า กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่สะดุดตาใน Alphard รุ่นปัจจุบันอาจหายไปในรุ่นใหม่ แต่ภาพเรนเดอร์ล่าสุดชี้ว่ายังคงอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือแพทเทิร์นที่ดูโดดเด่นมากขึ้น ส่วนไฟหน้าจะมีลักษณะเรียวบางลงตามดีไซน์ไดเรคชั่นปัจจุบันของ Toyota

ส่วนบั้นท้ายจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักด้วยลักษณะรถที่เป็นทรงกล่อง จึงทำการปรับได้แต่ไฟท้ายและแผงกันชนให้ดูเฉียบคมมากขึ้น

All-New 2022 Alphard จะพัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA รุ่นใหม่ในตระกูล GA-K ซึ่งใช้กับรถยนต์ขนาดใหญ่หลายรุ่น  พื้นที่ในห้องโดยสารจะกว้างขวางมากขึ้น ระยะฐานล้ออาจยังเท่าเดิมที่ 3,000 มม. แต่จุดศูนย์ถ่วงตัวรถจะต่ำลงซึ่งนั่นหมายถึงสมรรถนะการขับขี่จะดีขึ้น

ขุมพลังขับเคลื่อนจะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริด เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตรเหมือนเดิม แต่เครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.5 ลิตรจะถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 280 แรงม้า

ตามที่เรียนไว้ข้างต้น กำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ 2022 Toyota Alphard ใหม่ในตลาดบ้านเกิดจะมีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีหน้า ส่วนลูกค้าในเมืองไทยคาดว่าจะได้สัมผัสตัวจริงเสียงจริงในช่วงปลายปีเดียวกันหรืออาจขยับไปเป็นต้นปี 2023 จึงมีเวลาเก็บเงินกันได้ตามสบาย