2022 Lexus NX (2022 เลกซัส เอ็นเอ็กซ์) เจนเนอเรชั่นใหม่ได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการพร้อมการยกระดับทุกด้านตั้งแต่รูปลักษณ์ไปจนถึงระบบขับเคลื่อน
Lexus วางแผนส่ง NX รถเอสยูวีพรีเมียมออกทำตลาดภายในครึ่งหลังของปีนี้ แย่งชิงมาร์เก็ตแชร์กับคู่แข่งจากยุโรปทั้ง BMW X3, Audi Q5 และ Volvo XC60 ในเซกเมนท์รถอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็กต์ พร้อมความหวังสานต่อความสำเร็จของเจนเนอเรชั่นแรกที่มียอดขายสูงที่สุดรุ่นหนึ่ง
2022 NX เจนเนอเรชั่นใหม่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม GA-K มีตัวถังใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย มิติความยาว 4,660 มม. กว้าง 1,865 มม. สูง 1,640 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,690 แต่ถึงแม้จะใหญ่ขึ้น ตัวรถกลับดูปราดเปรียวโฉบเฉี่ยว ล้ออัลลอยมีขนาด 20 นิ้ว
ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดครั้งแรก
หนึ่งในไฮไลท์ของ NX รุ่นใหม่อยู่ที่การติดตั้งระบบปลั๊กอินไฮบริดเป็นครั้งแรกของรถยนต์ Lexus โดยจะออกทำตลาดในชื่อรุ่น NX450h+ วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Atkinson-cycle ขนาด 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวติดตั้งที่ด้านหน้าและด้านหลัง จ่ายพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาด 18.1 กิโลวัตต์
ระบบขับเคลื่อนชุดนี้ถูกใช้อยู่ใน Toyota RAV4 Prime ที่เป็นรถเอสยูวีที่เร็วที่สุดรุ่นหนึ่ง มีพละกำลังสูงสุดรวม 302 แรงม้า อัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม. ทำได้ในเวลาเพียง 6.0 วินาทีเท่านั้น โลดแล่นด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ไกล 75 กม. ซึ่งสเปกของ NX ปลั๊กอินไฮบริดก็น่าจะใกล้เคียงกัน
โหมดการขับขี่ในรุ่นปลั๊กอินไฮบริดมี 4 โหมดคือ EV mode, Auto EV/HEV mode, HEV mode and Self-charge mode ซึ่งมีการทำงานแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ แถมยังทำงานประสานกับระบบนำทางเนวิเกชั่นเพื่อสลับโหมดโดยอัตโนมัติขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร สภาพถนน และข้อมูลอื่น ๆ
สำหรับการชาร์จไฟฟ้าด้วยระบบชาร์จ 6.6 กิโลวัตต์อ็อปชั่นเสริม สามารถเติมพลังงานให้เต็มแบตเตอรี่ภายใน 2.5 ชั่วโมง ส่วนระบบชาร์จ 3.3 กิโลวัตต์แบบมาตรฐานใช้เวลา 4.5 ชั่วโมง
ทำตลาดพร้อมรุ่นไฮบริดปกติ
นอกจากรุ่นปลั๊กอินไฮบริด Lexus ยังนำเสนอรุ่นไฮบริดปกติในชื่อ NX350 h มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 239 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-96 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 7.2 วินาที เร็วกว่ารุ่นเดิมถึง 1.5 วินาที มีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ e-Four AWD
ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์สันดาปปกติคือ NX350 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขพละกำลัง แต่สื่อหลายสำนักฟันธงว่าจะอยู่ที่ 275 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าแรงเอาเรื่องเลยทีเดียว ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ Direct Shift แบบ 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ปิดท้ายด้วยรุ่น NX250 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศแบบเดียวกับที่ใช้ใน Toyota RAV4 รุ่นมาตรฐาน มีพละกำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 247 นิวตันเมตร เร่งจากหยุดนิ่งถึง 96 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 8.2 วินาทีในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและ 8.6 วินาทีในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
รูปลักษณ์สวยงาม โดยเฉพาะภายใน
การออกแบบภายนอกของ NX ยังคงสไตล์เดิมซึ่งได้เสียงตอบรับจากลูกค้าดีอยู่แล้ว ทาง Lexus จึงยังรักษาเอกลักษณ์ดีไซน์ที่เน้นความปราดเปรียว หรูหราแฝงด้วยความหวือหวา ถูกใจลูกค้ากระเป๋าหนักคนรุ่นใหม่และผู้ที่ชื่นชอบรถเอสยูวีแบบสปอร์ต
ภายในห้องโดยสารถือว่าตระการตาอย่างมาก หน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 14.0 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมกับมีสวิทช์ควบคุมแบบดั้งเดิมให้ได้กดใช้งานกันอีกด้วย ส่วนตัวแผงคอนโทรลของรุ่นเดิมถูกถอดออกไปเนื่องจากมีเสียงบ่นว่าใช้งานยาก นอกจากนี้ยังมีระบบสั่งการด้วยเสียง Hey Lexus
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน มือจับเปิดประตูเปลี่ยนจากก้านดึงไปเป็นแบบกดปุ่ม ระบบเครื่องเสียงตัวท็อปจัดเต็มด้วยแบรนด์ Mark Levinson ลำโพงทั่วค็อกพิทถึง 17 ตัว พร้อมระบบแสงไฟสร้างบรรยากาศ และเบาะนั่งแบบสปอร์ต
ดีไซน์ในห้องโดยสารเช่นนี้ถูกออกแบบภายใต้ปรัชญา “มนุษย์คือศูนย์กลาง” ถ่ายทอดจากรถต้นแบบ LF-30 ที่เผยโฉมในปี 2019
ความปลอดภัยเต็มพิกัด
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Safety System Plus (LSS+) ของ Lexus เข้าสู่เจนเนอเรชั่นที่ 3 ครบครันความปลอดภัยที่อุ่นใจได้ในทุกการเดินทาง
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินตอบสนองการใช้งานกลางสี่แยก สามารถตรวจจับมอเตอร์ไซค์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเลี้ยวที่จะบังคับพวงมาลัยอัตโนมัติหากตรวจจับความเสี่ยงการชนที่ความเร็วต่ำ
ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนหรือ Lane Tracing Assist มีการทำงานที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น ส่วนระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันก็สามารถผนวกเลนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับระบบตรวจจับมุมอับสายตาไม่เพียงแจ้งเตือนขณะขับขี่ แต่ยังเตือนสิ่งกีดขวางเมื่อต้องเปิดประตูลงจากรถอีกด้วย