หากเราจับตามองเทรนด์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน หลายคนอาจคิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาเป็นรถกระแสหลักในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า แต่ความจริงแล้วอาจไม่เป็นเช่นนั้น
เว็บไซต์ Vice เผยแพร่บทความวิเคราะห์ตลาดรถยนต์โดยอ้างอิงถึงการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารบริษัทรถยนต์กว่าร้อยคนในปี 2008 หรือเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ผู้บริหารส่วนใหญ่ฟันธงว่ารถยนต์ทุกคันบนท้องถนนจะใช้ระบบไฮบริดอย่างแน่นอนในปี 2020
เราทุกคนทราบดีว่าการคาดการณ์ดังกล่าวผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง รถยนต์ส่วนใหญ่บนท้องถนนยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปดั้งเดิมเป็นขุมพลังขับเคลื่อนหลัก
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
เพราะเหตุใดถึงไม่เป็นไปตามการคาดการณ์
การคาดการณ์ดังกล่าวมาจากการสำรวจของบริษัท IBM ในปี 2008 ซึ่งทำการสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์จำนวนน 125 ราย คำถามหลักคือ พวกเขามองตลาดรถยนต์ในอนาคตปี 2020 อย่างไร
ผู้บริหารเกือบทั้งหมดมีความเห็นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันว่า รถยนต์ทุกคันจะใช้ระบบไฮบริดภายในปี 2020 แต่ความเป็นจริงก็คือในปีที่แล้ว อัตราส่วนรถยนต์ไฮบริดในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่เพียง 3% เท่านั้น เพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในปี 2008 ที่มีการสำรวจความเห็นดังกล่าว
บทความของ Vice วิเคราะห์ไว้ว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงและการตระหนักถึงอันตรายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เป็นผลมาจากภาพยนตร์สารคดี An Inconvenient Truth ของอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอย่างอัล กอร์ในปี 2006 ทำให้มีความต้องการใช้งานรถยนต์ขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ยอดขายรถยนต์ไฮบริดอย่าง Toyota Prius เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวระหว่างปี 2006 – 2007 ขณะที่ General Motors หรือ GM ก็กระโดดเข้ามาร่วมแบ่งเค๊กรถพลังงานทางเลือกด้วยการนำเสนอ Chevrolet Volt เช่นกัน
แต่เทคโนโลยีไฮบริดนั้นมีราคาแพงกว่าเครื่องยนต์สันดาปกติ ดังนั้นเมื่อราคาน้ำมันปรับตัวลดลง บริษัทรถยนต์จึงเริ่มหันไปใช้กลยุทธ์ “ดาวน์ไซส์” หรือลดขนาดเครื่องยนต์พร้อมติดตั้งเทอร์โบหรือระบบสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเพื่อลดการกินน้ำมันแทน
ผู้บริโภคเองก็มีความยินดีที่จะหันไปซื้อรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่กินน้ำมันน้อยลง โดยเพิกเฉยต่อรถยนต์ไฮบริดที่มีราคาสูงกว่า
แล้วการคาดการณ์รถยนต์ไฟฟ้าจะซ้ำรอยหรือไม่?
อย่างไรก็ดี การคาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมอย่างมากจนแซงหน้ารถเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035 นั้นอาจไม่ผิดพลาดซ้ำรอยรถไฮบริด เนื่องจากปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมการใช้งานรถอีวีนั้นมีบริบทที่แตกต่างจากในอดีต
เทคโนโลยีแบตเตอรี่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมากขึ้น ขณะที่การสนับสนุนของรัฐบาลในรูปแบบของการ “แบน” หรือห้ามใช้รถเครื่องยนต์สันดาปและการยกระดับความเข้มงวดในด้านอัตราการปล่อยมลพิษก็จะช่วยผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นได้จริงในอนาคตอันใกล้
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });