ในสัปดาห์ที่แล้ว Elon Musk ได้ออกมาบอกว่า 2022 Tesla Roadster รถสปอร์ตอีวีรุ่นนี้จะสามารถเร่งจาก 0-96 กม.ต่อชม. หรือ 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 1.1 วินาทีเท่านั้น 

แล้วแบบนี้เขาทำได้อย่างไรกัน จะเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่หรือไม่ 

ทำความเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?

Roadster จะใช้เทคโนโลยีจรวดขับดันอากาศแบบเย็นของบริษัทผู้สร้างระบบการขนส่งทางอวกาศอย่าง SpaceX (ที่มัสก์เป็น CEO) ซึ่งจะเก็บแรงดันอากาศไว้ในถังที่ซ่อนอยู่หลังป้ายทะเบียนท้ายรถ เมื่อเปิดระบบขับดันนี้ จะช่วยให้พุ่งทะยานไปได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ในรุ่นปกติที่ไม่ได้ติดตั้งชุดจรวดขับดันก็สามารถเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ได้ใน 1.9 วินาทีอยู่แล้ว

ขับได้จริงไหม?

หากนำมาลงถนนแล้ว จริง ๆ ก็คงไม่ได้ขับกันไวขนาดนั้น แต่สิ่งที่อาจจะเป็นข้อจำกัดคือ "แรง G และการเกาะถนน"

ในรถที่จะขับได้ 1 วินาทีภายใน 0-96 กม./ชม. จะมีแรง G เกิดขึ้นมาถึง 2.7G ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มียางที่สามารถรองรับการเกาะถนนได้ในแรงขนาดนี้ อาจทำให้รถส่าย และเป็นอันตรายได้

หากจะเพิ่มการเกาะถนน ก็ต้องทำการเพิ่มน้ำหนักแต่ก็จะเสียพลังและแลกความเบาของรถไป

แรง G คืออะไร?

แรง g เรามักจะคุ้นเคยกันกับเครื่องบิน แต่หากพูดถึงวงการรถยนต์ คือแรงที่มีการเปลี่ยนสภาพการเคลื่อนที่ตามกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน เช่น การเพิ่มหรือลดความเร็วของวัตถุ หรือการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ เป็นต้น

ซึ่งจะต้องมาพร้อมกับอัตราเร่ง เช่น หากคุณจอดรถหยุดนิ่งและขับรถเดินหน้าเหยียบคันเร่งทันที ผู้โดยสารในรถจะรู้สึกกระชากและมีอาการ “หลังติดเบาะ” นั่นคือแรง g ที่เกิดขึ้น 

รถยนต์ที่ขับด้วยความเร็วคงที่ 100 กม./ชม. หากรถทำความเร็วคงที่ได้ตลอด จะไม่มีแรง g เกิดขึ้น (แรง g เป็น 0) 

ในการแข่งขัน Formula 1 ที่รถแข่งทำความเร็วระดับ 300 กม./ชม. หากต้องเบรกเพื่อเข้าโค้ง แรง g จะมีค่าถึง 5g

ถ้าเข้าโค้งความเร็วสูงขณะความเร็ว 200 กม./ชม. ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนทิศทาง แรง g ที่มีค่าถึง 6g เหมือนมีน้ำหนัก 24 กิโลกรัมอยู่ที่คอ

อย่างไรก็ตาม ในการที่จะรับแรง G นี้ นักแข่งจะต้องมีการฝึกให้มีสภาพร่างกายที่แข็งแรงที่สุดมาแล้ว คนธรรมดาไปลองขับ อาจเกิดอาการ Whiplash (การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อต้นคอ) ได้

รถบ้านทั่วไปมีแรง G เท่าไหร่

หากพูดถึงรถยนต์ทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่เราใช้ความเร็วระดับ 120 กม./ชม. ค่าของแรง g จะอยู่ที่ 0.7g – 1.0g เท่านั้น

คนเราทนแรง G ได้เท่าไหร่

ความเร็วนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่อยู่ที่แรง G ที่เกิดขึ้นขณะเร่ง-ลดความเร็ว คนทั่วไปสามารถทนได้ที่ 4-6 G นักบินเครื่องบินรบสามารถทนได้ 9G แต่ก็แค่ 1-2 วินาทีเท่านั้น

ขับรถธรรมดาเถอะครับ

สรุปแล้ว สิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่มาก ๆ คือแรง G และการเกาะถนน รถยิ่งวิ่งเร็ว ก็จะมีการเกาะถนนที่น้อยลง เป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่

รวมถึงแรงกระทำที่มีต่อร่างกาย แม้ 2.7G จะไม่อันตราย แต่หากไม่พร้อมก็อาจเกิดการบาดเจ็บที่คอได้ เพราะฉะนั้นขับรถบ้าน ๆ ที่เราขับกันประจำวันเถอะครับ