ทำไมเตนท์รถมือสองถึงดูเรื่องชนหนักไหม ไม่สนใจเกียร์, ช่วงล่าง หรือเครื่องยนต์

เวลาเรานำรถยนต์ของเราไปขายกับเตนท์รถมือสอง สิ่งที่เขาจะดูเป็นอันดับแรก ๆ คือเรื่องตัวถัง ว่าเคยถูกชนมาหนักไหม หรือเคยชนไหม

แต่ไม่ค่อยสนใจในเรื่องของเกียร์, ช่วงล่าง, หรือเครื่องยนต์เท่าไรนัก เรามาดูกันว่าเพราะอะไร

ซ่อมได้ไม่เหมือนเดิม

สาเหตุหนึ่งว่าทำไมถึงสนใจว่าเคยโดนชนไหม เพราะว่าการโดนชนหรือไปชนมา แม้จะซ่อมตัวถังได้ แต่ก็กลับมาไม่ได้ 100% เพราะตัวถังรถยนต์ส่วนมากออกแบบมาให้รองรับการชนได้แค่ครั้งเดียว

ถามว่าซ่อมได้ไหม ก็ซ่อมได้ครับ แต่ว่าตัวถังถ้าชนถึงโครง เคาะยังไงก็ไม่เหมือนเดิม ถ้าตัวถังเสียศูนย์ อาจจะเจอปัญหาตามมา เช่น กินยาง, ศูนย์ล้อตั้งไม่ตรง 

ไม่ปลอดภัยเหมือนเดิม

เมื่อรถเกิดความเสียหายแล้วซ่อมมา ไม่มีทางที่มาตรฐานความปลอดภัยทั้งจากในเรื่องของโครงสร้างหรือกระทั่งฟังก์ชั่นความปลอดภัยจะทำได้เหมือนเดิม 100% เหมือนรถที่ยังไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ 

ในส่วนของเรื่องอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งช่วงล่างหรือเกียร์ เขาจะมีอู่หรือช่างประจำตัวในการรับซ่อมอยู่แล้ว เครื่องยนต์และเกียร์หากพังสามารถยกวางใหม่ได้ หรือกรอกหัวเชื้อแทน ช่วงล่างก็เก็บรายละเอียดแค่หลักพันเท่านั้น เปลี่ยนลูกหมากกันโคลง 2-3 จุด  บู๊ตยางบางตัวก็เสร็จแล้ว

เพราะยังไง เตนท์รถเขาก็หาเรื่องมาติหรือรถราคาให้เขาขายได้กำไรกันอยู่แล้วครับ

วิธีดูรถชนหนัก

ในส่วนของวิธีตรวจดู จะมีวิธีดูง่าย ๆ อยู่ 2-3 จุด เรารวมมาให้คร่าว ๆ ดังนี้

1. ด้านหน้าของโครงสร้าง

นี่คือจุดเสี่ยงที่สุดในการเกิดอุบัติเหตุ เริ่มจากเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้นมา มองไปขอบด้านในที่ตรงหัวน๊อตซึ่งจะทำหน้าที่ยึดแก้มข้างกับโครงสร้างตัวรถ ว่าอยู่ในตำแหน่งเดิมหรือไม่ หรือว่ามีรอยยึดน๊อตเดิมปรากฏให้เห็นหรือเปล่า เพราะถ้ารถที่ต้องถอดส่วนของแก้มข้างซุ้มล้อนี้มาจากสาเหตุที่ต้องทำสีหรือเคาะให้กลับเข้ารูปนั่นเอง และยากที่จะใส่มันให้กลับตรงรอยยึดเดิม

2. ด้านข้างที่ขอบประตู

เปิดประตูออกมา สังเกตุเพลทต่าง ๆ ที่บอกรายละเอียดของตัวรถ ดูว่ามีลักษณะของละอองสีติดมาบ้างจากการทำสีหรือเปล่า ถ้าเดิม ๆ จากโรงงานต้องไม่มี เพราะต้องพ่นสีรถให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยติดเพลท ถ้ามีละอองสีติดก็อาจมีการทำสีในส่วนนี้

อีกจุดคือที่ส่วนของด้านข้าง ให้สังเกตที่รอยตัวถังบริเวณขอบประตู ให้แกะยางซิลิโคนออกมาแล้วดูว่า มีลักษณะเหมือนการซ่อมทำสีมาหรือไม่ ช่องไฟของรอยเชื่อมอาร์คห่างเท่ากันหรือเปล่า มีรอยเชื่อมที่ต่างออกไปจากจุดอื่นไหม หรือมีการพ่นสีทับจนโทนสีแตกต่างอย่างชัดเจน 

3. ท้ายรถใกล้ไฟท้าย

เปิดฝาท้ายขึ้นมาแล้วสังเกตที่ขอบด้านในว่าลักษณะของสีเนียนเป็นชิ้นงานเดียวกันหรือไม่ หรือมีการเหมือนพ่นสีทับมาหรือเปล่า เป็นไปได้ที่ละอองสีอาจกระเด็นโดนชิ้นส่วนอื่น ๆ อย่างด้านหลังของไฟท้าย

ก่อนจะไปซื้อรถมือสองกับเตนท์หรือใครก็ตาม อย่าลืมพาช่างที่ไว้ใจหรือผู้เชี่ยวชาญไปด้วย จะได้ช่วยกันดูรถได้นะครับ