Porsche (ปอร์เช่) ประกาศเดินหน้าขยายฐานการผลิตรถยนต์อีกครั้ง เรียกเสียงฮือฮาเมื่อพวกเขาประกาศว่าจะมีการเปิดสายการผลิตนอกยุโรปครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะเป็นการผลิตที่มุ่งเน้นไปที่ความต้องการของตลาดมาเลเซีย เพื่อตลาดนี้โดยเฉพาะ
พวกเขาระบุว่าฐานการผลิตในมาเลเซียจะเป็นฐานการผลิตขนาดเล็ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเปิดตลาดทั่วโลกให้มากขึ้น รวมไปถึงการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง ที่จะร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันเชลล์ในการเร่งขยายโครงข่าย
นอกจากนี้ ก็จะมีแผนการที่จะเพิ่มหน่วยวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นทางการในประเทศจีนอีกด้วย ซึ่งการบุกตลาดเอเชียแปซิฟิกของปอร์เช่ในครั้งนี้ หลาคนคาดว่าประเทศไทยน่าจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง หรือว่าอาจจะซื้อรถยนต์ปอร์เช่ราคาถูกได้หรือไม่
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ปอร์เช่ระบุในการแถลงว่า อาเซียนนั้นเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีการเติบโตรวดเร็วและมีศักยภาพด้านนวัตกรรมที่สูง ทำให้ตัดสินใจร่วมมือกับพันธมิตรอย่างไซม์ ดาร์บี้ ในการเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ขั้นสุดท้าย (final assembly) ในบางรุ่น ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
"ฐานการผลิตแห่งใหม่ในประเทศมาเลเซียนั้น จะรองรับความต้องการของตลาด และเป็นโครงการใหม่ในด้านของขนาดและความสามารถในการผลิต ที่จะทำให้เราสามารถเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสถานการ์ของตลาดท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสมต่อไป"
ไม่มีการพูดถึงเรื่องแผนการส่งออกในอนาคต
ปอร์เช่เน้นย้ำความสำคัญของการเป็นพาร์ทเนอร์ของพวกเขากับไซม์ ดาร์บี้ ในฐานะผู้นำเข้าและทำตลาดปอร์เช่มายาวนานนับทศวรรษ และตั้งความหวังว่าประเทศมาเลเซียจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของปอร์เช่ในการปักธงธุรกิจของบริษัทไปได้ในอนาคต
ขณะที่ฟากไซม์ ดาร์บี้ ก็ได้ออกแถลงการณ์เช่นเดียวกัน โดยยืนยันว่าการผลิตรถยนต์ปอร์เช่ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าเป็นต้นไปนั้น จะเริ่มสำหรับตลาดในประเทศเป็นหลัก และยืนยันว่าคุณภาพของรถที่ผลิตที่โรงงานแห่งนี้จะมีคุณภาพเทียบเท่ากับการผลิตในยุโรป
ปอร์เช่มียอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศมาเลเซียปีละประมาณ 1,000 คัน และไม่มีการยืนยันว่าจะมีการผลิตรถรุ่นใดบ้างในฐานการผลิตแห่งนี้ แต่ก็น่าจะเป็น Porsche Cayenne (ปอร์เช่ คาเยนน์) ที่ขายดีสุด และ Porsche Macan (ปอร์เช่ มาคันน์) ตามมาอีกรุ่น
ทำไมยังไม่มีการพูดถึงแผนการส่งออกในภูมิภาค
ดูจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเอาเรื่อง เพราะการเปิดสายการผลิตเพื่อทำการผลิตรถยนต์หลักพันคันนั้น ดูยังไงก็ไม่น่าจะคุ้มค่าในเรื่องของการเปิดสายการผลิต ที่ส่วนใหญ่เราจะชินกับตัวเลขหลักหมื่นหลักแสน เพื่อส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้
AutoFun Thailand ติดต่อสอบถามไปยัง AAS Auto Service ตัวแทนจำหน่ายของปอร์เช่ในประเทศไทย ก็ได้รับคำยืนยันว่า ยังไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยในขณะนี้ ซึ่งก็หมายความว่า ปอร์เช่ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะนำเข้าจากเยอรมนีต่อไปก่อน
ขณะที่โครงการดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน หากประเมินเบื้องต้นว่าสาเหตุที่ปอร์เช่ไม่สามารถส่งออกรถยนต์จากประเทศมาเลเซียได้ ก็น่าจะมีเหตุผลเดียวก็คือ รถยนต์ที่จะประกอบในมาเลเซียนั้น ไม่ผ่านข้อกำหนดในเรื่องการได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี
เพราะหากต้องการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในภูมิภาคนี้และได้สิทธิภาษีพิเศษ ก็จำเป็นที่จะต้องมีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่า 40% ซึ่งคงเป็นไปได้ยากสำหรับการผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงเป็นครั้งแรกที่จะเริ่มต้นด้วยสัดส่วนชิ้นส่วนในประเทศระดับนั้น
นอกจากนี้ คำว่าการผลิตแบบ final assembly สามารถตีความได้หลายอย่างมาก เช่น อาจจะเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนแบบสำเร็จรูป หรือ SKD เข้ามาประกอบที่โรงงานเพียงอย่างเดียวก็ได้ ซึ่งหลายค่ายรถก็ทำอยู่ ซึ่งโครงการนี้นั้นน่าสนใจและต้องติดตามต่อไป
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });