ถังน้ำมันเชื้อเพลิงรถปลอดภัยหรือไม่ และเสี่ยงระเบิดมากน้อยเพียงใด

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าถังบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในรถยนต์ส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุพลาสติก ซึ่งทำให้เกิดคำถามตามมาว่าถังน้ำมันพลาสติกมีความปลอดภัยหรือไม่ 

ก่อนอื่นมาชมกันว่า ที่ผ่านมา ถังน้ำมันรถยนต์ผลิตจากวัสดุอะไรบ้าง

1.ถังน้ำมันโลหะ

ตั้งแต่มีการคิดค้นรถยนต์ขึ้นมา วิศวกรยานยนต์ใช้ถังน้ำมันโลหะมาโดยตลอด คุณสมบัติเด่นของถังน้ำมันโลหะคือประสิทธิภาพด้านความแข็งแกร่งและความทนทาน

2.ถังน้ำมันพลาสติก

ถังน้ำมันพลาสติกเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในปัจจุบัน แม้ว่าอายุการใช้งานจะไม่ได้ยืนยาวเท่ากับถังน้ำมันโลหะ แต่ก็ไม่สั้นจนน่ากังวล ขณะเดียวกัน ยังมีข้อดีไม่น้อย อาทิ มีน้ำหนักเบากว่าและต้นทุนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับถังน้ำมันโลหะ

มักมีการพูดกันว่าถังน้ำมันพลาสติกมีข้อเสียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไม่มีความทนทานต่อแรงกระแทก มักเกิดไฟฟ้าสถิตทำให้ไฟลุกไหม้ง่าย และเกิดระเบิดได้ง่าย 

ความจริงคืออะไร

1.ทนต่อแรงกระแทกไม่ดี

ถังน้ำมันพลาสติกผลิตจากวัสดุพลาสติกชนิดพิเศษซึ่งทนทานต่อแรงกระแทกได้ดีกว่าเหล็ก มีคุณสมบัติความเหนียวดีเยี่ยม และไม่เสียรูปเมื่อถูกแรงกระแทกเหมือนกับถังน้ำมันโลหะ แท้จริงแล้ว ถังน้ำมันมักถูกติดตั้งในตำแหน่งที่มีความปลอดภัยสูงจึงมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดการเสียรูปอย่างรุนแรง

2.มีไฟฟ้าสถิต เกิดไฟไหม้ง่าย

เป็นความจริงที่ถังน้ำมันพลาสติกมีไฟฟ้าสถิตและเกิดไฟไหม้ง่าย แต่วิศวกรได้คิดค้นวิธีจัดการกับไฟฟ้าสถิตด้วยปั๊มน้ำมัน 

เส้นสีดำตามภาพคือเส้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บไฟฟ้าสถิต และนำไฟฟ้าสถิตไปที่ตัวถังรถ เมื่อเติมน้ำมันไฟฟ้าสถิตเหล่านี้จะถูกนำลงดินผ่านหัวเติมน้ำมัน

3.ระเบิดง่าย

ทั้งถังน้ำมันพลาสติกและถังน้ำมันโลหะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการระเบิดได้อย่างแน่นอน ถังน้ำมันสองประเภทไม่แตกต่างกันมากในอุตสาหกรรมรถยนต์สมัยใหม่

ทำไมรถยนต์หลายรุ่นในปัจจุบันใช้ถังน้ำมันพลาสติก

รถยนต์อย่างน้อย 70% ในตลาดรถยนต์ทุกวันนี้ใช้ถังน้ำมันพลาสติก อาจมีคนตั้งคำถามว่าทำไมรถยนต์จำนวนมากถึงใช้ถังน้ำมันพลาสติก เหตุผลก็คือถังน้ำมันพลาสติกรองรับการออกแบบได้อย่างยืดหยุ่นมากกว่า การออกแบบรถยนต์สมัยใหม่นี้มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนดีไซน์ถังน้ำมันตามการเปลี่ยนแปลงของรถ ในขณะที่ถังน้ำมันเหล็กแบบเดิมมีราคาแพงในการทำรูปทรงที่ซับซ้อน ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์จึงเลือกใช้ถังน้ำมันพลาสติกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง