เป็นความเชื่อโดยทั่วไปว่า ยิ่งขับรถเร็ว ก็จะยิ่งอันตราย ซึ่งก็เป็นความเชื่อที่ถูกต้อง เพราะหลักฟิสิกส์เป็นสิ่งที่เราต้านไม่ได้ ต่อให้รถทดสอบการชนมาดีแค่ไหน ก็ไม่อาจจำลองการเกิดอุบัติเหตุบนความเร็วที่มากกว่ากำหนดได้
ถึงกระนั้น ถ้าหากเราจำกัดความเร็วต่ำเสียทุกที่ รถก็จะติดมากขึ้น และมันมีเส้นของความน่าจะเป็นอยู่ เพราะการขับเร็วเกินกว่ากำหนดเพียงเล็กน้อย ก็ไม่อาจเพิ่มโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ หรือโอกาสการเสียชีวิตได้มากขนาดนั้น
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากความเร็วที่ส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น การขับรถโดยประมาท ละเลยความสนใจจากท้องถนน และการขับรถขณะเสพสารเสพติด นี่เป็นเหตุผลที่ตำรวจจราจรของออสเตรเลียนายหนึ่งให้เอาไว้ และเป็นเหตุผลที่ทำให้กล้องจับความเร็วนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้ผล
กล้องจับความเร็วเป็นสิ่งที่เอาไว้หาเงิน
เว็บไซต์คาร์แอดไวซ์ ออสเตรเลีย ได้เผยว่า มีกล้องจับความเร็วตัวหนึ่งในซิดนี่ย์ ถูกยกเลิกการออกใบสั่งค่าปรับ เนื่องจากว่ามีจำนวนใบสั่งเยอะเกินไป และเมื่อผู้กระทำผิดนำใบสั่งนี้ร้องเรียนต่อศาล ศาลก็ยกเว้นโทษให้ทุกใบ
สาเหตุนั้นมาจากว่า กล้องจับความเร็วนี้ถูกปรับขึ้นจาก 50 ไปเป็น 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ไม่มีใครทราบ แม้แต่ตำรวจท้องที่ก็ไม่ทราบ และป้ายก็ถูกบังโดยต้นไม้ข้างทาง จำนวนของผู้กระทำผิดจึงขึ้นมา 7 เท่าตัวในเวลา 1 เดือน
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อกล้องจับความเร็วดังกล่าวนี้ไม่ได้ถูกตั้งขึ้นในเขตที่มีความอันตราย ไม่มีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว
ประเด็นดังกล่าวนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงประสิทธิภาพของกล้องจับความเร็วในการช่วยลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตลง
ปัจจัยอื่นมีความสำคัญกว่าเยอะ
ตำรวจคือผู้ที่เป็นด่านหน้าทุกครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และย่อมต้องเป็นผู้ที่เข้าใจถึงประเด็นปัญหามากที่สุด เว็บไซต์คาร์แอดไวซ์ได้ไปสัมภาษณ์ตำรวจที่มีประสบการณ์การทำงานบนท้องถนนออสเตรเลียยาวนาน
นายตำรวจผู้ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าเกิดเพราะความเร็ว 40% นั้น ไม่สามารถบอกทุกอย่างได้ เพราะแท้จริงแล้ว 90% ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากการที่ผู้ขับขี่นั้นเมาสุรา หรือยาเสพติด และมักจะเป็นผู้ขับขี่ที่ถูกแบนจากการขับขี่รถยนต์ไปแล้วแต่ยังลักลอบขับขี่รถยนต์อยู่
ส่วนคนทั่วไป กลับต้องจ่ายค่าปรับเพราะขับเร็วเกินกว่ากำหนดเพียงเล็กน้อย
เช่นตัวอย่างของกล้องจับความเร็วที่กล่าวไปก่อนหน้านั้น มันตั้งอยู่ในเขตที่ปลอดภัย ไม่ได้มีการเสียชีวิตมานาน แต่อยู่ดี ๆ การจำกัดความเร็วก็ลดลง 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่ออะไร? นี่เป็นคำถามที่ชาวเมืองซิดนี่ย์ทุกคน แม้แต่ตำรวจเอง ก็ตั้งคำถาม
เรื่องนี้สอนอะไรกับเราคนไทย? ทำไมต้องนำเสนอ?
คุณเคยอ่านข่าวแล้วพบว่า มีการรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุเพราะความเร็วไหมครับ? พวกเราคิดว่าประเด็นดังกล่าวนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากเรื่องที่เรารายงานเสียเท่าไหร่
บ่อยครั้งแค่ไหนที่อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นเกิดขึ้นเพราะความประมาทของคน? ผู้ขับขี่ขับรถขณะมึนเมา? เมื่อประเทศที่เจริญแล้วอย่างออสเตรเลีย ซึ่งมีระบบการสืบสวนคดีที่ก้าวหน้ากว่าไทยเยอะ ยังมีปัญหาดังกล่าวนี้?
กล้องจับความเร็วของประเทศไทยนี้เองเหมือนว่าจะเป็นเครื่องสร้างรายได้มากกว่าเสียอีก เนื่องจากกฎหมายของชาติที่เจริญแล้ว กล้องจับความเร็วจะต้องมีความเด่นชัด สีเหลืองสดใส และมีป้ายเตือนก่อนชัดเจน แต่ประเทศไทยนั้น บางครั้งกล้องจับความเร็วก็ไม่มีป้ายเตือน หรือยิ่งไปกว่านั้น มีป้ายเตือนแต่ไม่มีกล้องจับความเร็ว อีกทั้งยังพยายามปิดบังให้แนบเนียนเสียอีก
เราคิดว่าทุกคนคงทราบคำตอบดีอยู่แล้วละครับ ว่ากล้องจับความเร็วนั้นมีมาเพื่ออะไร
แต่ใครจะยอมรับหรือไม่นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง