Lamborghini (ลัมบอร์กินี) สร้างผลกำไรได้สูงสุดเป็นสถิติใหม่ในปี 2020 ถึงแม้จะต้องหยุดการผลิตเป็นเวลานานถึง 2 เดือนเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ถึงแม้ตัวเลขยอดขายจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2019 แต่ Lamborghini สามารถกระตุ้นยอดขายรถตัวท็อปที่มีราคาสูงและรถซูเปอร์คาร์แบบคัสตอมได้มากขึ้นในปี 2020 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลกำไรขยายตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ขณะเดียวกัน ตลาดซูเปอร์คาร์ในจีนยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง Lamborghini คาดการณ์ว่าสัดส่วนยอดขายในแดนมังกรจะขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 2 ของโลกภายในปี 2021 ตามหลังสหรัฐอเมริกาที่ยังคงเป็นตลาดใหญ่อันดับ 1
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
แม้แต่ซีอีโอยังคาดไม่ถึง
“เราเองก็ยังแปลกใจ” สเตฟาน วินเคิลแมนน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Lamborghini ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี
นอกจากการจำหน่ายรถซูเปอร์คาร์แบบคัสตอมที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าปรับแต่งได้ตามใจชอบ Lamborghini ยังสามารถสร้างยอดขายมากมายจากรถเอสยูวี Urus (ลัมบอร์กินี ยูรุส) ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนสูงถึง 59% ของยอดขายทั้งหมด
“Urus ทำให้เราสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องและให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนที่ดี ทำให้เรามีความมั่นใจที่จะลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต” วินเคิลแมนน์ กล่าว “ปัจจุบันเรายังมียอดจองจนถึงเดือนกันยายนแล้ว ดังนั้น เราคาดว่าจะทำผลงานได้ดีต่อเนื่องในปี 2021”
สำนักข่าว BBC รายงานว่ายอดขายส่วนใหญ่ของ Urus อยู่ในประเทศจีนซึ่งลูกค้านิยมชมชอบรถอเนกประสงค์สมรรถนะสูงราคาแพงทั้งจากแบรนด์ Rolls-Royce, Bentley และ Lamborghini
ทั้งนี้ ยอดขายทั่วโลกของ Lamborghini ในปี 2020 อยู่ที่ 7,430 คัน ลดลงเล็กน้อยจากปี 2019 ซึ่งทำได้ที่ 8,250 คัน แต่กำไรกลับเติบโตสูงขึ้น
เตรียมประกาศแผนรถพลังไฟฟ้าเดือนเมษายนนี้
Lamborghini ระบุว่าตลาดจีนที่ปัจจุบันมียอดขายอยู่ในอันดับ 3 กำลังจะแซงหน้าเยอรมนีขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แทนในอีกไม่ช้า แต่รัฐบาลแดนมังกรมีนโยบายควบคุมอัตรามลพิษอย่างเข้มงวดมากขึ้น
นั่นทำให้ Lamborghini ต้องปรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่และหันไปใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลานี้ค่ายรถซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลียนยังไม่เปิดเผยแผนการพัฒนารถอีวีสมรรถนะสูงแต่อย่างใด คาดว่าเราจะได้รับฟังข้อมูลเพิ่มเติมในเดือนเมษายนนี้
“นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับตลาดรถซูเปอร์สปอร์ต เราจะต้องแน่ใจว่าเราเป็นผู้กำหนดทิศทางในอนาคต” วินเคิลแมนน์ กล่าวเพิ่มเติม
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });