2021 Mercedes-Benz A-Class (2021 เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส) เปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศ ทำตลาดเมืองไทยด้วย 2 รุ่นย่อย เริ่มต้นกับ A200 Progressive ค่าตัว 1.99 ล้านบาท และรุ่นท็อป A200 AMG Dynamic ค่าตัว 2.15 ล้านบาท (ถูกกว่าตอนที่เป็นแบบนำเข้าราคาเดิม 2.49 ล้านบาท) แล้วรุ่นย่อยใหม่ทั้ง 2 นี้จะมีตัวไหนน่าสนใจกว่ากัน ในราคาต่างกันไม่ถึง 2 แสนบาท เรามาชมคันจริงเพื่อหาคำตอบกัน
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ดีไซน์ภายนอก ทุ่มทุนสร้าง
2021 Mercedes-Benz A-Class รุ่นมาตรฐาน ออกแบบให้เน้นความสปอร์ตแบบไม่ติดหรู โดยใส่กระจังหน้าที่มีตราเบนซ์ฝังในกรอบ กับพื้นลายกระจังแบบจุดดาว ที่เป็น DNA ใหม่ในรุ่นแพง ทำให้รถราคาเริ่มไม่ถึง 2 ล้าน ดูแพงเกินตัว รวมถึงการใส่เส้นไฟ LED ครบทั้งหน้าหลัง ก็ช่วยให้บรรยากาศภายนอกโดยรวมเหมือนแบบรถเบนซ์รุ่นแพงๆ เพียงแต่ว่าล้อแม็กซ์ยังดูไม่สะดุดตาเท่าไหร่ในความเห็นของเรา
ดีไซน์รุ่น AMG ดุดันกว่ามาก
รุ่นท็อปสุดคือ A200 AMG Dynamic ได้เปลี่ยนชิ้นส่วนภายนอกหลายอย่างที่เน้นควา่มสปอร์ตมากขึ้น กับกันชนหน้า ที่ออกแบบให้มีสปอยเลอร์ในตัว เปลี่ยนช่องด้านข้างให้มีครีบแนวนอน และมีช่องดิฟฟิวเซอร์รีดอากาศออกมุมหน้าล้อ
ต่อด้วยสเกิร์ตข้างทรงบานออกมากขึ้น และกันชนหลังที่มีสันนูนทรงหยักเว้ารับกับท่อไอเสียเดิม ที่สำคัญคือ ใส่ล้อแม็กซ์ลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้วแบบ AMG ของแท้
ภายในรุ่นมาตรฐาน
A200 Progressive รุ่นเริ่มต้น ให้การตกแต่งหรูหรา ด้วยเบาะหนัง Artico กับคอนโซลประดับด้วยแผงดำเงา Piano Black และยังมีดีไซน์รายละเอียดเหมือนรุ่นแพงๆ ได้แก่ ช่องแอร์ทรงไอพ่น แผงประตูลายคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ทำให้เรารู้ว่า รถเบนซ์ราคาต่ำ 2 ล้าน ก็ยังให้ความหรูหราแบบไม่กั๊ก
ภายในรุ่น A200 AMG เปรี้ยวทั้งคัน
A200 AMG Dynamic ให้อารมณ์สปอร์ตเปรี้ยวสุดซี้ดด้วยเบาะหนังสีดำ สลับด้วยหนัง Alcantara สีเทาเข้ม เย็บด้วยด้ายสีแดง บุให้มาครบทั้งคัน ส่วนพวงมาลัยเปลี่ยนทรงเป็นแบบปาดล่างให้แบน แบบรถสปอร์ตรุ่นแพง อีกทั้งยังใส่ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient light มาให้ทั้งคัน
ส่วนแผงประตูเปลี่ยนเป็นสีเงินโชว์ผิวโลหะ ให้ความทันสมัยไปอีก เก็บรายละเอียดด้วยแป้นเหยียบเปลี่ยนเป็นแบบสปอร์ต เป็นแผ่นโลหะแทรกด้วยหมุดยาง เพื่อการเหยียบมั่นคงที่เกาะติดเท้ากว่าเดิม
เครื่องยนต์เหมือนกันทั้งคู่
2021 Mercedes-Benz A-Class ทั้งสองรุ่นย่อยมีเครื่องยนต์เดียวกัน คือ เบนซิน 1.3 ลิตร (1,332 ซีซี.) 4 สูบ ติดเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.1 วินาที และมีอัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ยเพียง 16.6-17.5 กม./ลิตร นับว่าจี๊ดจ๊าดมาก สำหรับรถขนาดเล็กสุดนี้
คุณกัสคาดการณ์ : รุ่น AMG ขายดีชัวร์
2021 เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส รุ่นประกอบในประเทศนี้ เหมาะสำหรับคนชอบคุณภาพแบบเบนซ์ ไม่เน้นออพชั่นไฮเทคหวือหวา ได้ภาพลักษณ์แบบรถเยอรมันที่ไว้ใจได้ ก็เลือกรุ่นเริ่มต้น A200 Progressive
แต่หากใครไม่อยากโดนหาว่าเอารถพ่อมาขับ ก็จับรุ่น A200 AMG Dynamic ซึ่งได้ชุดแต่งแนวสปอร์ตครบครัน ทั้งภายนอกและภายใน ชนิดที่หาที่ไหนไม่ได้ในราคาเพิ่มเงินแค่ 160,000 บาทเท่านั้น คิดว่าแค่ได้ล้อแม็กซ์ 18 จาก AMG แท้ๆ ก็คุ้มแล้ว ซึ่งผู้เขียนคาดว่ารุ่นนี้แหละ จะเป็นหมากสำคัญที่จะไปชิงตำแหน่งผู้นำรถหรูคืนมาได้
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });