2020 Toyota Corolla Cross (2020 โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) ทำยอดขายมาแรงแซงโค้งนำเป็นอันดับ 1 ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตอกย้ำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ยอดนิยมในเมืองไทย
รถเอสยูวี 2020 Corolla Cross ช่วยเติมเต็มกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ของ Toyota ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา มาพร้อมมิติตัวถังที่ใหญ่กว่ารถเอสยูวี-บีทั่วไปอยู่เล็กน้อย ถือเป็นการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถเอสยูวีและความต้องการของลูกค้าที่ทำให้การแบ่งกลุ่มตามขนาดของตัวรถไม่ชัดเจนเหมือนในอดีต
Toyota นำเสนอ 2020 Corolla Cross ทั้งหมด 4 รุ่นย่อย มีราคาจำหน่ายดังนี้
Corolla Cross รุ่น 1.8 Sport ราคา 959,000 บาท
Corolla Cross รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท
Corolla Cross รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท
Corolla Cross รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท
รุ่นรองท็อปมีอ็อปชั่นขาดหายไปบางส่วน
2020 Corolla Cross รุ่น Hybrid Premium รุ่นรองท็อปมีราคาถูกกว่ารุ่นท็อปอยู่ 110,000 บาท เมื่อดูจากอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยแล้วถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันตามปกติ ขับขี่ในเมืองก็ได้ ขับออกนอกเมืองก็ดี
อุปกรณ์ภายนอกของรุ่น Hybrid Premium ที่หายไปเมื่อเทียบกับรุ่น Hybrid Premium Safety มีดังนี้
- หลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า
- ราวหลังคา
อุปกรณ์ภายในของรุ่น Hybrid Premium ที่หายไปเมื่อเทียบกับรุ่น Hybrid Premium Safety มีดังนี้
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
ระบบความปลอดภัยของรุ่น Hybrid Premium ที่หายไปเมื่อเทียบกับรุ่น Hybrid Premium Safety มีดังนี้
- กล้องมองภาพรอบคัน (รุ่น Hybrid Premium มีเฉพาะกล้องมองภาพขณะถอยหลัง)
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยยังครบครัน
สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใน 2020 Corolla Cross รุ่นรองท็อปประกอบด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED แบบ Hybrid มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟเดย์ไลท์และไฟเบรก LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับและพับเก็บไฟฟ้า เสาอากาศครีบฉลาม ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ตลอดจนไฟตัดหมอกหน้า-หลัง LED
ส่วนภายในตกแต่งด้วยสีแดงสลับดำ เบาะหุ้มหนังและหนังสังเคราะห์ พวงมาลัยและฐานเกียร์หุ้มหนัง เบาะคนขัปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมป้องกันการหนีบและมีเซ็นเซอร์แหย่เท้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ 7 นิ้ว
ความปลอดภัยมีระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งได้แก่คู่หน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัย และหัวเข่าผู้ขับขี่ ระบบแจ้งเตือนลมยาง ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
เครื่องยนต์ระบบไฮบริด เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร พละกำลัง 98 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตันเมตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 53 กิโลวัตต์ แรงบิด 163 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดราย เครื่องยนต์และมอเตอร์มีพละกำลังรวมสูงสุดอยู่ที่ 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ E-CVT
เก็บเงินที่เหลือไว้เติมน้ำมัน
พิจารณาจากอุปกรณ์มาตรฐานของตัวรองท็อปถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ยกเว้นแต่ว่าท่านผู้อ่านจะมีงบประมาณเหลือเฟือและต้องการครอบครองรุ่นท็อปที่จัดเต็มอ็อปชั่นตามที่เรานำเสนอข้างต้น
อย่างไรก็ตาม ราคาจำหน่ายที่เป็นเงินต่างกันถึง 110,000 บาทถือว่าไม่น้อยสำหรับหลายคน เงินจำนวนนี้อาจหมายถึงการผ่อนชำระที่เพิ่มขึ้นหลายพันบาทต่อเดือนหรืออาจทำให้ต้องยืดระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้นอีก 1 ปี
แต่ในทางกลับกัน เม็ดเงิน 110,000 บาทสามารถนำไปเติมน้ำมันกันยาว ๆ เฉลี่ยเดือนละ 5,000 บาทได้นานเกือบ 2 ปีเลยทีเดียว