จริงหรือไม่? ยางประหยัดน้ำมัน ลดประสิทธิภาพในการเบรก แถมยังไม่เกาะถนนอีกด้วย! มาหาคำตอบกัน

ด้วยภารกิจการค้นหาวิธีการประหยัดน้ำมันจากหลายฝ่าย ทั้งเครื่องไฮบริด ปลั้กอินไฮบริด หรือไฟฟ้าก็ตาม ยางรถยนต์เองก็มีการโฆษณาว่า “ยาง Eco” หรือ “ยางประหยัดน้ำมัน” ตนเองนั้นก็รักษ์โลก ประหยัดน้ำมันได้ดี 

แต่หลายคนก็บอกว่าต้องแลกมาด้วยระยะเบรกที่ไกล และไม่เกาะถนน เรื่องนั้นจริงหรือไม่? เป็นอย่างไรมาดูกัน

ทำไมยางถึงประหยัดน้ำมัน?

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ยางนั้นประหยัดน้ำมัน นั่นเพราะว่ายางชนิดนี้ ผสมด้วยซิลิกา (Silica) ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเนื้อยาง เวลาวิ่งบนพื้นผิวถนนยางจะเกิดการเสียรูปน้อยมาก

ลดเเรงต้านทานการหมุนของล้อได้ดีกว่ายางทั่วไถึง 20% ทำให้มีอัตราประหยัดเชื้อเพลิง 5% แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการสึกหรอเร็ว

แล้วมันไม่เกาะถนนจริงหรือไม่?

หากเราดูลายยาง Eco แล้ว เราจะเห็นว่าหน้ายางนั้นมีการสัมผัสกับพื้นถนนน้อยกว่ายางธรรมดา มาจากการลดพื้นที่ว่างและความลึก ของลายยาง

ในเมื่อยางมีพื้นที่ให้สัมผัสกับผิวถนนที่น้อยกว่ายางทั่วไป จึงเป็นการลดความสามารถในการเกาะถนน และการเบรคลงได้ อีกทั้งเป็นเพราะปัจจัยที่ยางแข็ง และมีแรงเสียดทานน้อยอีกด้วย

แต่ก็ไม่เสมอไปนะ

หลายคนอ่านแล้วอาจกังวล ว่าจะเป็นอันตรายต่อตนเองหรือไม่ แต่นั่นก็ไม่เสมอไป เพราะจริง ๆ แล้ว หน้ายางที่น้อย จะทำให้รถมีอาการเหินน้ำน้อยกว่ายางธรรมดาเพราะสามารถมีน้ำเข้าไปในลายยางที่น้อยกว่า

สรุปข้อดียางประหยัดน้ำมัน

• ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้นเมื่อเทียบกับยางทั่วไป (ในอัตราร้อยละเลขตัวเดียว)
• ลดการปลดปล่อยมลภาวะทางอากาศ
• ราคาไม่แพงมาก

สรุปข้อเสียของยางประหยัดน้ำมัน 

• เเม้หน้ายางที่ทำจากสารซิลิกา จะมีการเสียดทานกับพื้นถนนน้อยแต่ กลับทำให้ดอกยางสึกเร็วกว่ายางทั่วไป
• ระยะเบรกของรถไกลกว่ายางทั่วไป

สรุปไม่มีประโยชน์หรือ

ยางประหยัดน้ำมัน ก็ไม่ได้ส่งผลต่อัตราการประหยัดน้ำมันมากมาย แต่ก็ยังมีข้อดีที่สามารถช่วยได้เล้กน้อยหากถนนเปียก 

หากคุณเป็นคนขับเร็ว บรรทุกของหนัก เติมลมยางไม่เหมาะสม และอื่น ๆ อีกมากมาย ยางดีแค่ไหน ก็ได้อัตราสิ้นเปลืองเท่าเดิมครับ