ในปัจจุบัน รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ส่วนมาก ก็ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT กันไปแล้ว ตั้งแต่รถขนาดเล็กอย่าง Suzuki Celerio (ซูซุกิ เซเลริโอ้) ไปจนถึงรถสปอร์ตอย่าง Subaru WRX (ซูบารุ ดับเบิ้ลยูอาร์เอกซ์)
ประโยชน์ของเกียร์แบบ CVT นั้นมีมากมาย เนื่องด้วยการทำงานที่ทำให้อัตราทดของเกียร์นั้นปรับเปลี่ยนได้มากมาย ในระดับที่มากกว่าแค่จำกัดเอาไว้ 5 หรือ 6 จังหวะ ทำให้รอบเครื่องยนต์สามารถอยู่ในระดับที่มีประสิทธิภาพสูงตลอดเวลา อีกทั้งยังมีการออกแบบที่ไม่ซับซ้อน ประหยัดน้ำมันกว่าแม้แรงเสียดทานจะมากกว่า น้ำหนักเบากว่า อีกทั้งยังมีต้นทุนของผู้ผลิตที่ถูกกว่า
แต่ของที่ดูเหมือนจะเป็นคำตอบของทุกสิ่งอย่างเช่นนี้ กลับสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับผู้ใช้งานรถยนต์จำนวนมาก เหตุผลแรกก็เพราะถ้าหากท่านเคยขับแต่รถเกียร์อัตโนมัติธรรมดามาก่อน เกียร์ CVT นั้นจะให้ความรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันไม่มีรอบจังหวะเกียร์ เครื่องยนต์จะทำงานเสียงดังตลอดเวลา
ในอีกมุมหนึ่ง ก็มีคนที่สงสัยถึงความทนทานของเกียร์ CVT เนื่องจากมีข่าวคราวบนโลกโซเชี่ยลถึงเกียร์ CVT ที่มีปัญหาอยู่บ่อยครั้ง ผู้เขียนเองก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน แต่นั่นมันจริงหรือเปล่า? วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
เกียร์ CVT ทำงานอย่างไร? มีต้นกำเนิดอย่างไร?
เกียร์ CVT นั้น แท้จริงแล้วถูกคิดค้นขึ้นมาเป็นเวลาเกิน 100 ปี โดยในช่วงแรกนั้นถูกใช้กับอุปกรณ์เลื่อยไม้ ก่อนที่จะถูกนำมาใช้กับรถยนต์ในภายหลัง
แม้จะมีรถรุ่นอื่นใช้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นรถที่ผลิตขึ้นมาในจำนวนน้อย รถรุ่นแรกที่ผลิตจำนวนมาก Mass-Produced ซึ่งใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT คือ DAF 600 (ดาฟ 600) เราอาจจะไม่รู้จักชื่อรถยี่ห้อนี้นัก เพราะรุ่นสุดท้ายที่จำหน่ายคือในปี 1975 ก่อนที่จะถูก Volvo (วอลโว่) ซื้อกิจการและนำรถไปติดตรายี่ห้อของตัวเอง
แต่ว่า DAF ยังคงผลิตรถยนต์อยู่ เพียงแต่ว่าเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ ไม่ใช่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
ระบบเกียร์ CVT นั้น ทำงานโดยใช้ลูกรอกที่สามารถปรับได้ เชื่อมต่ออยู่บนชาร์ปที่มีสายพานรูปตัว V พาดอยู่ ชาร์ปดังกล่าวนี้มีรูปร่างที่ลักษณะเป็นทรงกรวย ทำให้สายพานสามารถขยับได้ และเมื่อเราปรับความกว้างของระยะลูกรอกทั้งสอง ทรงกรวยก็จะทำให้อัตราทดของเกียร์เปลี่ยนแปลงไป และสามารถเปลี่ยนแปลงได้เรื่อย ๆ บนชาร์ปทรงกรวยนี้
ในยุคแรกนั้น เนื่องจากรถ DAF มีเครื่องยนต์ขนาดไม่ถึง 1 ลิตร จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สายพานโลหะในระบบเกียร์ "Variomatic" แต่ใช้เป็นสายพานยาง ระบบเกียร์ดังกล่าวนี้ ในปัจจุบันก็ยังคงใช้อยู่ในรถสกูตเตอร์หลายรุ่น
ระบบเกียร์ CVT ในปัจจุบัน ไม่ได้ใช้สายพานยางอีกต่อไปแล้ว
แม้ว่าระบบเกียร์ CVT ในรถยนต์ DAF และมอเตอร์ไซค์หลายรุ่น จะเป็นสายพานยาง หรือผ้าใบ แต่ในปัจจุบัน เกียร์ CVT ที่ใช้ในรถยนต์เก๋งทั้งหมดก็เป็นสายพานโลหะด้วยกันทั้งสิ้น
นั่นทำให้แม้ว่าหลักการทำงานจะยังคงเหมือนเดิม แต่ความทนทานของสายพานนั้น รับกำลังจากเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงได้มากกว่าเดิมมาก และการที่เกียร์ CVT จะเกิดสายพานขาดขึ้นมา ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเหมือนกับการดึงหนังยาง เราเข้าใจว่าการขับรถเกียร์ CVT มันเปรียบได้กับหนังยาง แต่มันไม่ได้ขาดง่ายเช่นนั้น
แต่มันก็มีกรณีสายพานขาดอยู่เรื่อยมานี่?
ถูกต้องครับ กรณีที่เกียร์ CVT สายพานขาดสะบั้นขึ้นมา ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
แต่การที่สายพานโลหะนี้จะขาดได้ จะต้องเกิดจากแรงกระทำที่มากกว่าวิศวกรจะคิดคำนวณว่าเกิดจากการใช้งานตามปกติเป็นอย่างมาก
นั่นหมายความว่าอย่างไร? พฤติกรรมบางอย่างนั้นส่งผลต่อระบบเกียร์ CVT จริง ๆ แล้ว ทุกพฤติกรรมที่ส่งผลร้ายต่อเกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิม ก็ส่งผลอย่างเดียวกับเกียร์ CVT เช่นกัน
นอกจากนี้ ทุกการบำรุงรักษาของระบบเกียร์อัตโนมัติ ก็ใช้ได้กับเกียร์ CVT รวมไปถึงการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ด้วย และเราต้องเช็คให้ดีว่า การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์นั้น ไม่ได้ใช้น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ATF แบบดั้งเดิมมาใส่ แต่ต้องใช้น้ำมันเกียร์ CVT โดยเฉพาะเท่านั้น
พฤติกรรมที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
นอกเหนือจากพฤติกรรมปกติที่ไม่ควรทำกับเกียร์อัตโนมัติทุกชนิดแล้ว มีพฤติกรรมหนึ่งที่สามารถทำกับเกียร์อัตโนมัติแบบเดิมได้ แต่ทำกับแบบ CVT ไม่ได้ นั่นคือ การใช้เท้าเหยียบเบรกและคันเร่งพร้อมกัน เพื่อให้รอบเครื่องยนต์ปั่นสูงขึ้นก่อนออกตัว จึงออกตัวได้เร็วขึ้น
เนื่องจากระบบการทำงานของเกียร์ CVT ถ้าหากท่านเหยียบเบรกและเร่งรอบขึ้นเหมือนกับรถเกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิม ตัวลูกรอกก็จะเสียดสีกับสายพาน ที่พยายามขยับให้เข้าหากัน แต่ล้อรถนั้นไม่หมุน ในขณะที่รถเกียร์อัตโนมัติมี Torque Converter ปั่นแรงออกไป และเกียร์ก็ขบกันไปแล้ว จึงไม่เกิดความเสียหาย
แต่รถ CVT แม้ว่าจะมี Torque Converter เช่นกัน แต่ระบบเกียร์จะพยายามปรับอัตราทดให้เข้ากับสภาวะเครื่องยนต์ แต่ถ้าหากล้อหยุดนิ่ง แต่รอบสูงขึ้น ระบบเกียร์ก็ไม่สามารถที่จะปรับอัตราทดให้ไปเหมาะสมกับสิ่งใดได้ ผลลัพธ์ก็คือ สายพานจะเสียดสีเข้ากับลูกรอก จนเกิดความเสียหายได้
สรุปแล้ว CVT นั้นทนทานหรือไม่?
ถ้าหากท่านขับแบบปกติ ใช้งานรถเหมือนที่วิศวกรคาดการณ์ว่าท่านจะใช้ ระบบเกียร์ CVT ก็ไม่ได้มีโอกาสเกิดปัญหามากไปกว่าเกียร์อัตโนมัติแบบดังเดิม ยกเว้นในข้อแตกต่างบ้างเล็กน้อยที่อาจจะมีเพิ่มขึ้นมาอย่างที่ได้อธิบายไปแล้ว
รถอย่าง Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรล่า อัลติส) และ Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ไม่นับที่เทคโนโลยีนี้ถูกใช้ในรถรุ่นอื่น ๆ อีกมากมาย และผู้คนจำนวนมากก็ใช้งานรถเหล่านี้อย่างทรหด ไม่ว่าจะ Corolla Altis ที่เป็นรถแท็กซี่ วิ่งระยะทางกันมากกว่า 1 ล้านกิโลเมตร ด้วยระบบเกียร์ CVT และเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามรอบที่ผู้ผลิตกำหนดด้วยซ้ำ
หรืออย่าง Honda Civic Turbo ที่มักจะถูกปรับแต่งให้มีพละกำลังสูงกว่า 300 แรงม้า ด้วยเกียร์ CVT แบบเดิมติดรถ ถ้าหากผู้ขับขี่เข้าใจ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
นั่นคงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ ความเข้าใจ ถ้าเราเข้าใจว่าเกียร์ CVT ทำงานยังไง และไม่ใช้มันผิดประเภท เกียร์มันก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ
ในทางกลับกัน ถ้าเราใช้เกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิมอย่างทารุณ มันก็มีโอกาสที่จะพังได้ ไม่ว่าจะด้วยสลัก Torque Conveter หรือว่าแผ่นคลัชในระบบเกียร์ อาจจะพังไม่เหมือนกัน แต่ก็มีโอกาสพังได้ครับ