"ในปี 2012 ประเทศจีนมีการส่งออกรถยนต์ที่ 1.056 ล้านคัน และก็ไม่เคยทำตัวเลขได้เพิ่มมากกว่านั้นเลยจนถึงปัจจุบัน ปัญหาสำคัญที่สุดก็คือ รถยนต์ของจีนนั้น ไม่ดีพอที่จะแข่งขันกับรถยนต์จากยุโรปและอเมริกา" Cui Dongshu เลขาธิการของสมาคมรถยนต์นั่งแห่งประเทศจีนบอกในงานประชุมออโต้ บลูบุ๊ค ประเทศจีน ครั้งที่ 13
เป็นคำพูดที่สามารถยืนยันได้ว่า แม้ตลาดรถยนต์ในประเทศจีนจะมีการเติบโตมากเพียงใด และมีการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตลาดส่งออกก็ยังเป็นปัญหาหลักที่ผู้ประกอบการในประเทศต้องพบอย่างต่อเนื่องมายาวนาน ด้วยปัจจัยที่แตกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัย
ข้อมูลระบุว่าตลาดส่งออกหลักของรถยนต์จากประเทศจีนนั้น จะอยู่ที่ทวีฟแอฟริกา เอเชียตะวันตก และอเมริกาใต้ ซึ่งมีความแตกต่างจากในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป ที่ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ทำตลาดได้ดีกว่าและต่อเนื่องกว่าผู้ผลิตจากประเทศจีนที่อาจจะต้องหยุดการส่งออกเป็นบ้างครั้ง
Cui ให้ข้อมูลว่าบางครั้งผู้ประกอบการในประเทศจีนก็ต้องหยุดการส่งออกรถยนต์ เมื่อรถยนต์บางรุ่นได้รับการยอมรับที่ดีจากตลาดในประเทศ หรือแม้แต่การพบปัญหาที่เกิดขึ้นบางครั้งจากนโยบายภาครัฐ เช่น ในยุคปี 2010 ที่พวกเขาทำตลาดได้ดีในรัสเซีย แต่ก็ต้องหยุดไปเพราะผลกระทบทางด้านภาษี
นอกจากนี้ มีการประเมินว่าผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนที่ต้องการทำตลาดต่างประเทศ ก็จะถูกท้าทายด้วยเรื่องของการลงทุน การบริหารจัดการ เทคโนโลยีต่าง ๆ รวมไปถึงการผสานวัฒธรรมเข้ากับประเทศที่จะเข้าไปทำตลาด ซึ่งก็มีเรื่องของการเปิดสายการผลิตในแต่ละประเทศมาเป็นปัจจัย
มีข้อจำกัดมากมายที่ทำให้ตลาดไม่เติบโต
Chen Jingyue รองประธานและเลขาธิการของ CEATEC ให้ข้อมูลว่าการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนไปในยุโรปนั้นมีปัญหาที่ต้องพิจารณาหลายด้าน ยกตัวอย่างเช่น การส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันที่ใช้ช่องทางการส่งออกผ่านเรือเป็นหลัก ทำให้ต้องใช้เวลาในการส่งออกไปค่อนข้างนาน
แต่ถ้าหากเปลี่ยนมาใช้การขนส่งด้วยรถไฟที่อาจจะให้ความไวในการเดินทางที่ดีกว่า แต่ก็อาจจะประสบกับปัญหาในเรื่องของแบตเตอรี่ที่อาจจะเกิดปัญหาในขั้นตอนของการขนส่ง และอาจจะทำให้ตัวรถนั้นไม่สามารถใช้งานได้เมื่อถึงจุดหมายปลายทางเพื่อทำการส่งมอบให้ลูกค้า
"นอกจากนี้ ก็ยังมีปัญหาอีกหลายเรื่องสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ยกตัวอย่างเช่น การที่ต้องปรับหัวชาร์จไฟให้มีความเหมาะสมกับแต่ละตลาดไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงเรื่องของการลงทุนในด้านการทำตลาดหรือการพัฒนาสินค้าให้มีความเหมาะสม ทำให้การทำตลาดนั้นยากยิ่งขึ้น"
การพัฒนาการของรถที่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศจีนในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้พวกเขานั้นมีภาพลักษณ์ของสินค้าที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของคุณภาพของตัวสินค้าที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีการนำเสนอ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกและทำตลาด
Wang Lingyu ผู้จัดการทั่วไป FAW กรุ๊ป บอกว่า แนวโน้มการพัฒนาแบรนด์ให้ดีขึ้นนั้น จะนำมาซึ่งการขยายมูลค่ารวมของการตลาดได้ ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ที่เคยส่งออกไปตะวันออกกลางนั้น เคยทำราคาได้ในระดับ 7,000 - 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ตลาดในประเทศกลับยอมรับรถยนต์ที่ราคาสูงกว่า 20,000 เหรียญ
นอกจากนี้ ตลาดยุโรปเองเป็นตลาดที่มีความพร้อมในการบุกตลาดรถยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ ที่จะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ข้อ ได้แก่ นโยบายภาครัฐ และกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งหลายประเทศในยุโรปได้ให้การสนับสนุนผู้บริโภคให้หันมาใช้รถเหล่านี้ และยุโรปก็มีกำลังซื้อที่เหนือกว่าในจีน
Chen เองก็มีความเห็นที่คล้าย ๆ กันกับ Wang โดยเธอระบุว่ายุโรปนั้นจะเป็นตลาดบลูโอเชียนสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ ด้วยข้อกำหนดของทางภาครัฐของยุโรปที่มุ่งเน้นไปที่การลดคาร์บอน ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์นั้น จำเป็นที่จะต้องคิดค้นและพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ของพวกเขาในรูปแบบของรถยนต์ไฟฟ้า
และด้วยความที่เป็นตลาดที่ค่อนข้างนิ่งมานาน ตลาดรถยนต์ในยุโรปนั้นจะมุ่งเน้นไปที่คุณภาพของตัวสินค้าและความคุ้มค่าต่าง ๆ ที่รถยนต์แต่ละคันติดตั้งมาให้ เช่น ในเรื่องของความเอนกประสงค์และความปลอดภัยต่าง ๆ มากกว่าที่จะให้ความสนใจและน้ำหนักไปที่ว่ารถที่นำมาจำหน่ายนั้นยี่ห้ออะไร
"จากการที่เราทำการตรวจสอบรถที่ประเทศจีนส่งออกไปในยุโรป เราพบว่า รถยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ที่ผลิตในจีนนั้น มีฟังชั่นส์ที่เหนือกว่าและมีความคุ้มค่าต่อราคาเหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในยุโรป นอกจากนี้ ในตลาดยุโปรเองก็มีการแข่งขันที่น้อยกว่าเช่นกัน ซึ่งทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับการส่งออก"
นอกจากนี้ ยังมองไปที่เรื่องของตลาดรถยนต์มือสองที่ปกติแล้ว หลาย ๆ ประเทศมีการนำเข้ารถยนต์มือสองจากญี่ปุ่น แต่ต้องติดปัญหาในเรื่องของระบบพวงมาลัยที่มีความแตกต่างกันไป และอาจจะต้องทำการปรับเปลี่ยน ซึ่งรถยนต์จากจีนเองก็มีความพร้อมมากกว่าในการเป็นผู้ส่งออกไปยังตลาดพวงมาลับซ้ายทั่วโลก"
มุมมองของ AutoFun Thailand กับรถยนต์จากประเทศจีน
แน่นอนว่าหากมองย้อนไปในอดีตสัก 10 ปี รถยนต์จากประเทศจีนนั้นมีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ไม่ว่าจะเรื่องของการก๊อปปี้แบรนด์ขนาดใหญ่ คุณภาพของสินค้าที่ถือว่าไม่ได้โดดเด่น แต่เน้นเรื่องการทำราคาจำหน่ายให้ถูกลงมาจากการผลิตแบบจำนวนมาก ซึ่งก็ทำให้พวกเขานั้นประสบความสำเร็จในประเทศ
แต่เมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์มีการเติบโตและปรับตัวไป ต้องชื่นชมว่าพวกเขานั้นทำงานได้ดี มีการเติบโตที่น่าสนใจ และมีดาวรุ่งดวงใหม่เกิดขึ้นมากมายในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์จากประเทศจีน รวมถึงการเดินหน้าขยายตลาดใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้พวกเขานั้นพบจุดอ่อนที่้ต้องปรับปรุงของตัวเองอย่างมาก
เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจหากจะบอกว่า ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนบางยี่ห้อ กำลังจะก้าวกระโดดไปแข่งในธุรกิจรถยนต์ระดับสูงนับจากนี้ไป เพื่อหวังว่าจะสามารถเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือในตลาดส่งออกที่พวกเขามองว่าเป็นบลูโอเชียนอยู่ ซึ่งคงไม่ง่าย แต่ก็สู้ได้ด้วยนวัตกรรมผสมราคานั่นล่ะ