All-New 2021 Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) หลังจากเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นไปเมื่อเดือนพฤษจิกายน ปี 2020 ก่อนที่จะวางจำหน่ายจริงเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2020 โดยตั้งเป้ายอดจำหน่ายเอาไว้ที่ 8,000 คันต่อเดือน
ทันทีที่ได้รับการเปิดตัว Nissan Note ใหม่ ก็ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยมจากทั้งสื่อยานยนต์ และกลุ่มลูกค้า และเมื่อรวบรวมยอดมาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 ยอดจองของ Nissan Note ก็กระโดดไปถึงเกิน 20,044 คัน เข้าไปแล้ว หลังจากเปิดตัวได้แค่ 1 เดือนกว่าเท่านั้น
นี่เป็นเรื่องน่ายินดีมากสำหรับ Nissan และในทางเดียวกัน พวกเขาก็คงไม่ค่อยจะอยากพูดถึงว่ามันเป็นเรื่องน่ากังวล เนื่องจากตอนนี้ Nissan Note กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน Semi-conductors อันทำให้การผลิตต้องหยุดชะงักไป แน่นอนครับว่าลูกค้าจำนวนสองหมื่นกว่าคันนี้ และตัวเลขก็มากขึ้นเรื่อย ๆ จะต้องรอส่งมอบรถเป็นเวลานานอย่างแน่นอน
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
ทำไม 2021 Nissan Note e-Power ถึงได้รับความนิยมเช่นนี้?
เราคิดว่าสาเหตุสำคัญนั้นมาจากรูปลักษณ์ของรถที่ออกแบบมาโดยมีแนวคิดที่จะทำให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าของโลกสมัยใหม่อย่างชัดเจน ซึ่งการที่พวกเขาบอกว่ารถ Nissan Note ใหม่ จะ "สร้างนิยามใหม่ในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก" ก็คงไม่ผิดนัก
นอกจากนี้ ตัวรถยังได้รับเครื่องยนต์แบบใหม่ เป็นแบบ e-Power เจเนอเรชั่นที่ 2 และเป็นตัวเลือกเดียวที่มีในขณะนี้ ซึ่งสร้างพละกำลังเหลือใช้ และยังมีตัวเลือกขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์คู่ และมาพร้อมกับระบบตรวจจับสภาพถนนเพื่อใช้ในการควบคุมการปั่นไฟในตัวรถ ทำให้แบตเตอรี่ไม่หมดง่าย ๆ ระหว่างทาง
ในส่วนของภายในก็มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดเช่นกัน มีตัวเลือกเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าสามารถที่จะดึงออกมาให้เข้าออกได้สะดวก และมีหน้าจอ Infotainment ขนาดใหญ่เข้ากับยุคสมัยมา
Nissan แถลงว่า ยอดจอง 80% นั้น เป็นรุ่นท๊อปสุด Nissan Note e-Power X กว่า 40% เลือกตัวเลือกระบบช่วยขับ ProPILOT พร้อม Navi-link ซึ่งสามารถช่วยหักพวงมาลัยให้รถคงอยู่ในเลนได้ เสริมกับระบบ Navi-link ที่จับเส้นทางเพื่อลดความเร็วเตรียมไว้ก่อนที่จะถึงโค้ง และอีกมากกว่าครึ่งก็เลือกตัวเลือกระบบนำทาง ไฟหน้าอัตโนมัติ และกล้องรอบคันอีกด้วย ชัดเจนแล้วว่าเทคโนโลยีก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญใน Nissan Note e-Power
นอกจากนี้ ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่นอยู่ที่ 2,029,500 เยน ถึง 2,186,800 เยน ซึ่งแปลงเป็นเงินไทยได้ประมาณ 5.89 แสนบาท ถึง 6.35 แสนบาท ก็เป็นราคาที่คุ้มค่าอย่างมากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์มาตรฐานทั้งหมด
แล้วจะขายไทยไหม?
แม้ว่า Nissan จะมีชื่อเสียงในเรื่องของการไม่นำเอารถที่อยากได้มาจำหน่าย แต่กรณีของ All-New 2021 Nissan Note นั้นแตกต่างกัน เนื่องจากว่า Nissan Note รุ่นปัจจุบันที่ยังคงขายอยู่ในประเทศไทย ก็นับได้ว่าเป็นรถยนต์ Nissan ที่ประสบความสำเร็จมากรุ่นหนึ่ง
แท้จริงแล้ว Nissan เคยมีแผนที่จะนำ Nissan Note e-Power รุ่นปัจจุบันนี้ มาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย ถ้าเราจำได้ตอนงาน Motor Expo ปี 2017 และงานอื่น ๆ ก็มีรถรุ่นดังกล่าวมาจอดให้คนถามถึงกัน แต่สุดท้ายแผนก็ถูกพับไป
ถ้าหาก Nissan Note e-Power จะกลับมาอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ เราก็จะไม่แปลกใจครับ แม้ตอนนั้นจะไม่ได้ถูกนำมาขายจริง แต่ Nissan Kicks e-Power (นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์) ก็ได้มาเปิดตลาด ปูทางเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่จะมาในรูปแบบอย่างไร อ็อปชั่นอะไรหายไปหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });