รถกระบะส่วนใหญ่ มักปกป้องกระบะท้ายไม่ให้มีรอยด้วยการใส่ไลเนอร์ แต่หลายคนไม่รู้ว่ามีวิธีดีกว่านั้นในการป้องกันรอยอย่างได้ผลจริง จึงรวม 2 วิธีกันรอยกระบะท้าย ที่ได้ผลจริง
-
คนนิยมไลเนอร์ แต่มีอีก 2 วิธีปกป้อง
รถกระบะส่วนใหญ่ มักปกป้องกระบะท้ายไม่ให้มีรอยด้วยการใส่ไลเนอร์ แต่หลายคนไม่รู้ว่ามีวิธีดีกว่านั้นในการป้องกันรอยอย่างได้ผลจริง จึงรวม 2 วิธีกันรอยกระบะท้าย ที่ได้ผลจริง
คนนิยมไลเนอร์ แต่มีอีก 2 วิธีปกป้อง
ปูพื้นยาง
สเปรย์พ่นกระบะ
ไม่มีอะไรดีที่สุด
รถกระบะคือยานพาหนะที่คนไทยใช้เยอะที่สุด เพราะต้องการใช้งานตัวถังส่วนท้ายไว้ใส่สัมภาระ หรือวางสารพัดสิ่งของได้ แต่ด้วยการใช้งานวางสิ่งของบนกระบะท้ายนี่เอง ที่เป็นตัวการทำให้พื้นกระบะเกิดรอยขูดขีดได้ง่าย
การเกิดรอยขูดขีดบนกระบะท้ายในระยะแรก อาจมีผลเสียแค่เรื่องความสวยงามน้อยลงไป แต่ถ้าหากปล่อยให้มีการใช้งานแบบไม่ป้องกันแบบนี้ต่อไปในระยะยาว รอยขูดขีดก็จะกินถึงชั้นสีรถ ลงไปถึงผิวเหล็กกระบะ ทำให้เกิดสนิมได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
การปกป้องกระบะท้ายทั่วไป คือการติดไลเนอร์ ที่เป็นชิ้นพลาสติกอัดขึ้นรูปตามทรงของกระบะแต่ละรุ่น ครอบคลุมพื้นที่ทั้งพื้น, ผนัง จนถึงขอบกระบะ เป็นวิธีที่คนนิยมมากที่สุด เพราะมีข้อดีทั้งความทนทาน กันกระแทก ดูแลรักษาง่าย มีการติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้ช่างฝืมือโดยเฉพาะ ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการติดตั้ง อันที่จริงสามารถติดตั้งได้เองด้วยซ้ำไป และที่สำคัญคือ มีราคาไม่แพง เหมาะสมกับประสิทธิการป้องกันที่ดี
พื้นปูกระบะ หรือไลเนอร์แบบนี้ ไม่ได้แนบชิดกับผิวกระบะอย่างสนิททุกพื้นที่ ยังมีช่องว่างให้อากาศและความชื้น เข้าไปฝังอยู่ระหว่างช่องว่างดังกล่าว ทำให้ฝุ่นผงเกิดการขูดผิวเป็นรอย และความชื้นเข้าไปทำสนิมเพิ่มเล็กน้อย ส่วนตรงขอบกระบะที่มีไลเนอร์ปิดอยู่ ก็มีโอกาสจะถูกกัดเนื้อสีออกไปบางส่วนได้ ถ้าใครรับข้อเสียเหล่านี้ไม่ได้ ยังมีอีก 2 วิธีปกป้องกระบะท้ายไม่ให้เป็นรอยยาก
การป้องกันรอยกระบะท้ายด้วยพื้นยาง นับเป็นวิธีที่ถูกที่สุดในบรรดาการป้องกันรอยทั้งหมด อีกทั้งเป็นการช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับสิ่งของ ไม่ให้เคลื่อนที่ได้ง่าย เพราะวัสดุยางช่วยสร้างแรงเสียดทานที่ดี ลักษณะเป็นแผ่นยางยืดหยุ่น วางบนพื้นกระบะเท่านั้น โดยมีกาวสองหน้าช่วยยึดติดกับพื้นกระบะจริง
ข้อเสียของแผ่นยางแบบนี้คือ สามารถมีน้ำและกรวดเข้าไปฝังอยู่ใต้พื้นยาง ทำให้ผู้ใช้ต้องหมั่นถอดล้างอยู่บ้าง มิฉะนั้นจะทำให้กรวดไปขูดขีดเนื้อสีเป็นรอยง่าย ส่วนข้อเสียอีกอย่างคือ แผ่นยางปกป้องรอยตรงพื้นเท่านั้น ไม่ได้ปกป้องผนังกระบะ และขอบบนกระบะ ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ใช้งานบรรทุกหนัก ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลแต่อย่างใด เหมาะสำหรับผู้ใช้งานของแบบปานกลาง ไม่สมบุกสมบันมาก เช่น ขนอาหาร บรรทุกเสื้อผ้า
สีสเปรย์พ่นกระบะ คือการปกป้องพื้นผิวอย่างถาวร โดยเป็นสีชนิดพิเศษที่ยืดหยุ่นกว่าปกติ พ่นทับผิวเลคเกอร์ของกระบะท้ายทั้งหมด ทำให้มีความแนบชิดเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ต้องถอดทำความสะอาดตลอดชีพ
ข้อดีที่เกือบสมบูรณ์แบบนี้ แลกมาด้วยค่าสีที่แพง รวมกับค่าแรงและเครื่องมือพิเศษต่าง ๆ แถมยังดูไม่เงางามเรียบเนียนเมื่อเทียบกับสีพ่นชนิดอื่น เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานหนัก ขนของสมบุกสมบัน เช่น ขนเฟอร์นิเจอร์ บรรทุกวัสดุก่อสร้าง ฯลฯ
อ่านเพิ่มเติม : อุบัติเหตุรถกระบะ มาจากคุณใช้รถผิดประเภทอยู่หรือเปล่า ? รวม 5 วิธีพลาด พร้อมวิธีแก้
ไม่ว่าการปกป้องกระบะท้ายแบบใด ควรเลือกจากลักษณะการใช้งานที่ตรงกับตัวเองมากที่สุด บางครั้งเสียเงินแพงที่สุด ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้เรามีความสุขที่สุด เพราะทุกวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องรับให้ได้ หรือไม่ก็ต้องตัดใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่สามารถแนะนำได้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับรถกระบะทั้งหมด
อ่านเพิ่มเติม : จำนวนรถกระบะไทยปี 2021 เผยยอดจดทะเบียนใหม่แยกรุ่น Isuzu D-Max ครองแชมป์ Revo ตามห่าง