เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้!

ในโลกยานยนต์ยุคปัจจุบันเราคงจะปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไปแล้วว่ายานยนต์ไฟฟ้ากำลังเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากต่อการขับเคลื่อนโลกใบนี้ และในไม่ช้าก็เร็วเราเชื่อรถที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปจะค่อย ๆ เลือนหายไปในที่สุด และถูกทดแทนเข้ามาด้วยยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด อันที่เราได้เห็นจากหลายประเทศทั่วโลกในตอนนี้ที่กับลังตื่นตัว และเร่งเปลี่ยนระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ ให้เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100%

ซึ่งกระแสของยานยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวก็เริ่มส่งผลมาสู่โลกของยานยนต์ 2 ล้อแล้วด้วยเช่นกัน โดยเราจะเห็นได้จากค่ายรถมอเตอร์ไซค์เริ่มหันมาพัฒนารถที่เป็นไฮบริดมากขึ้น หรือการเกิดใหม่ของแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทยของเราเองนั้นอาจยังคิดว่าห่างไกล หรือเป็นเรื่องไกลตัว แต่กลับกันในฝั่งทวีปยุโรปนั้นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างมากมายหลากหลายแบรนด์ และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แพ้รถยนต์ไฟฟ้าเลย

และเมื่อกระแสของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาแรงขนาดนี้ล่าสุดทางค่ายรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษอย่าง Triumph ก็ได้ลงสู่สังเวียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าด้วยเช่นเดียวกันกับการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าภายใต้โครงการ TRIUMPH TE-1 ที่ได้ประกาศเริ่มโครงการไว้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2562 ผ่านมา มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเฉพาะทาง และโซลูชันแบบบูรณาการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นระหว่างไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ บริษัท Williams Advanced Engineering บริษัท Integral Powertrain และศูนย์ WMG มหาวิทยาลัยวอร์ริค (The University of Warwick) ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานเพื่อยานพาหนะปลอดการปล่อยมลพิษ (OZEV) โดยความร่วมมือดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จแล้ว

มร. นิค บลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดเผยว่า “ความสำเร็จของการร่วมมือระยะที่ 2 และผลลัพธ์ที่ได้ เผยให้เห็นถึงอนาคตอันน่าตื่นเต้นของศักยภาพยานยนต์ไฟฟ้า โครงการนี้จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคต ตลอดจนความพยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นรากฐานของการวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ซึ่งจุดมุ่งหมายสูงสุดเพื่อส่งมอบการใช้งานในโลกความเป็นจริง ผ่านคาแรคเตอร์ที่แท้จริงของไทรอัมพ์”

มร.แอนดรูว์ ครอส หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของบริษัท Integral Powertrain กล่าวว่า “หนึ่งในปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุดต่อสมรรถนะและการควบคุมรถจักรยานยนต์คือมวล ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงในการออกแบบมอเตอร์และอินเวอร์เตอร์ รวมถึงการถอดสายไฟฟ้าแรงสูงที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งข้อดีเหล่านี้ทำให้เราสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในแง่ความกะทัดรัดมากขึ้น และน้ำหนักที่เบากว่าผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน 

โดยมอเตอร์ให้กำลัง 130 กิโลวัตต์ หรือเกือบ 180 แรงม้า แต่มีน้ำหนักเพียงแค่ 10 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเมื่อเทียบแล้วน้ำหนักประมาณชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีซิลิกอนคาร์ไบด์สวิตช์ในอินเวอร์เตอร์ที่สามารถปรับขนาดได้ของเราจะช่วยกำหนดมาตรฐานใหม่ของประสิทธิภาพรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า

ตลอดความร่วมมือในระยะที่ 2 ไทรอัมพ์ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ควบคุมยานพาหนะขั้นสูงใหม่ล่าสุด ซึ่งรวมเอาระบบไฟฟ้าทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบคันเร่งไฟฟ้าตอบสนองตามปกติ ระบบเบรกแบบ Regenerative Braking การควบคุมการยึดเกาะถนน รวมถึงเฟรมหลัก และเฟรมด้านหลังที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสม ควบคู่ไปกับชุดแบตเตอรี่ และมอเตอร์

ซึ่งอย่างไรก็ดีสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของทาง Triumph นั้นกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนา แต่เราเชื่อว่าอีกไม่นานคงจะได้เห็นทาง Triumph ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าออกมาจำหน่ายอย่างแน่นอน เพราะนี่คืออนาคตแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เราไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ขึ้นอยู่ที่เวลาเท่านั้นว่าจะเปลี่ยนแปลงช้า หรือเร็วแค่ไหน ซึ่งหากโครงการดังกล่าวสำเร็จสมบูรณ์แล้วทาง AutoFun Thailand จะรีบนำมารายงานให้ทราบโดยทันที