แน่นอนว่าเมื่อเราเอ่ยถึงรถอย่าง CBR ทุกคนล้วนรู้จักกันเป็นอย่างดีว่านี่คือรถในตระกูลสปอร์ตจากค่ายปีกนก Honda แต่หากให้พูดถึงความเป็นที่สุดของตระกูล CBR แล้วจะต้องมีคำว่า Fireblade ต่อพ่วงเข้ามาด้วย ว่าแล้ววันนี้ทาง AutoFun Thailand จึงอยากจะขอพาทุกท่านไปย้อนตำนานถึงดาบแห่งเปลวเพลิงเล่มที่คมที่สุดของทาง Honda เล่มนี้กัน ว่าทำไมมันถึงได้กลายมาเป็นรถซูเปอร์สปอร์ตไบค์แห่งยุคในปัจจุบันได้
ตำนานความแรงถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1992 ภายใต้รหัสชื่อรุ่น Honda CBR900RR Fireblade โดยหลังการเปิดตัวได้สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ต่อวงการรถจักรยานยนต์ระดับโลก เพราะนี่คือรถสปอร์ตรุ่นแรกที่ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุคนั้นซึ่ง Honda ได้กำหนดคำนิยามใหม่ให้กับคำว่า “ซูเปอร์สปอร์ต” ทั้งในด้านรูปลักษณ์ที่ดุดัน เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และมาพร้อมสมรรถนะที่ทรงพลังที่สุด จนก้าวกระโดดขึ้นเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเดียวกันทันที
ปี 1998 Honda เปิดตัว Honda CBR900RR Fireblade โฉมใหม่ มาพร้อมเฟรมใหม่ เครื่องยนต์ใหม่ พร้อมกับการลดน้ำหนักตัวรถเหลือเพียง 180 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมากในยุคนั้น
ต่อมาในปี 2000 เข้าสู่ยุคใหม่ของ Honda CBR900RR Fireblade ที่ใช้ระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดเป็นครั้งแรก พร้อมการเพิ่มขนาดความจุเครื่องยนต์ 929 ซี.ซี. ควบคู่การรีดน้ำหนักตัวรถเหลือเพียง 170 กิโลกรัม
เท่านั้นยังไม่พอเพราะในปี 2002 Honda ได้เพิ่มความแข็งแกร่งด้วยการขยายความจุเครื่องยนต์ใหม่เป็น 954 ซี.ซี. แต่ยังคงชื่อรุ่น Honda CBR900RR Fireblade นี่คือรุ่นสุดท้ายที่ใช้รหัส 900RR เพราะต่อมาในปี 2004 ฮอนด้าได้เปิดตัว Honda CBR1000RR Fireblade รถสปอร์ตในพิกัด 1 ลิตร อย่างเป็นทางการ พร้อมเป้าหมายการเข้าร่วมศึกดวลความเร็ว ซูเปอร์ไบค์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ
Honda CBR1000RR Fireblade สร้างชื่อกระหึ่มวงการในปี 2008 โดยการนำเทคโนโลยีจากรถแข่งแชมป์โลก MotoGP อย่าง Honda RC212V อย่างการควบคุมแรงบิด และระบบสลิปเปอร์คลัตช์มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ของรถรุ่นนี้ และด้วยรูปโฉมที่โดดเด่น และแตกต่าง แฟริ่งด้านหน้ามีความโฉบเฉี่ยว ดุดัน และโค้งมนเพื่อรีดลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ หลายคนจึงให้ฉายาโฉมนี้ว่า “นกแก้ว”
ส่วนโฉมกระต่ายที่นักบิดไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี สำหรับ Honda CBR1000RR Fireblade รุ่นปี 2012 ซึ่งทาง Honda Bigwing ได้นำเข้ามาจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ถือเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของ CBR Fireblade ที่มีการพัฒนาระบบช่วงล่างใหม่ทั้งคัน พร้อมการปรับจูนเครื่องยนต์ให้สามารถตอบสนองต่อการขับขี่ที่มีความสมูทนุ่มนวลยิ่งขึ้น
ต่อมาในปี 2017 ฮอนด้าเปิดตัว All New Honda CBR1000RR Fireblade ซึ่งยังคงยึดแนวทางการพัฒนาให้เป็นรถสปอร์ตที่มีสมรรถนะสูงที่สุดและควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด เรียกได้ว่าเป็นรถที่แรงแต่ขี่ง่าย ควบคุมและรีดสมรรถนะได้ไม่ยาก
และล่าสุดก็มาถึงเจเนอเรชั่นที่ 14 ของ CBR Fireblade แต่ครั้งนี้ Honda ได้เลือกเปิดตัวโดยใช้รหัสที่แปลกไปกว่าเดิมคือ All New CBR1000RR-R Fireblade โดย RR-R ย่อมาจาก Racing Replica – Race ซึ่งถือเป็นครั้งแรก และรุ่นแรกที่ใช้รหัสอาร์สามตัว
โดยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากตัวแข่งระดับแชมป์โลก MotoGP อย่าง Honda RC213V มากที่สุด ตัวรถมีดีไซน์ที่ดุดันกว่าทุกโฉมที่ผ่านมา โดดเด่น และดูล้ำสมัยในทุกมุมมอง มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC ขนาด 999 ซี.ซี. หัวฉีด PGM-DSFI ระบายความร้อนด้วยน้ำ
พร้อมเซนเซอร์ IMU 6 แกน ช่วยควบคุมแรงบิด และการทรงตัว โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Winglet แบบ 3 ชั้น เพิ่มประสิทธิภาพขณะขับขี่ในช่วงความเร็วสูงหรือในระหว่างเพิ่มอัตราเร่ง ท่อไอเสียไทเทเนียมจาก Akrapovic ตอบสนองทุกย่านความเร็ว ช่วยรีดสมรรถนะได้อย่างเหนือระดับ
ด้านการควบคุมติดตั้งระบบคันเร่งไฟฟ้า Throttle by Wire ให้ความแม่นยำ และปลอดภัยในทุกสภาพการขับขี่ ด้วยระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ควบคุมการหมุนของล้อให้มีความสัมพันธ์กัน ระบบไฟเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ระบบ HESD (Honda Electronics Steering Damper) โช้คอัพกันสะบัดแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการควบคุมที่เหนือชั้น เสมือนกำลังขับขี่รถแข่งในสนามแข่ง พร้อมระบบ Wheelie Control ป้องกันล้อหน้าลอยขณะเร่งกำลังเครื่องยนต์
All New CBR1000RR-R Fireblade รุ่นมาตรฐานมาพร้อมระบบช่วงล่าง โช้คอัพหน้าหัวกลับ SHOWA BPF ขนาด 43 มม. และโช้คอัพหลัง SHOWA BFRC-lite ระบบเบรก ABS ดิสก์เบรกหน้าคู่แบบเรเดียลเมาท์ Nissin คาลิปเปอร์ 4 สูบ
ส่วนในรุ่นพิเศษรหัส SP มาพร้อมระบบช่วงล่างไฟฟ้า Ohlins Electronic Control โช้คอัพหน้าหัวกลับรุ่น NPX ขนาด 43 มม. และโช้คอัพหลัง TTX36 Smart-EC ดิสก์เบรก Brembo Stylema คาลิปเปอร์ 4 สูบ เหมือนที่ใช้ในรถแข่ง RC213V-S และนอกจากนี้ยังติดตั้ง Quick Shifter (UP/DOWN) ปรับได้ 3 แบบตามสไตล์การขับขี่ที่แตกต่าง
และทั้งหมดนี้คือการเดินทางของตำนานแห่งดาบไฟที่คมกริบนามว่า Fireblade เล่มนี้ ซึ่งหากเพื่อนๆ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับรถ 2021 All New CBR1000RR-R Fireblade คันนี้สามารถคลิ๊กลิ้งค์นี้ได้เลย
>>>2021 All New Honda CBR1000RR-R & All New Honda CBR1000RR-R Fireblade SP