Yamaha YZF-R6 “GYTR” จะกลับมาในฐานะรถแข่งขันในสนามเท่านั้น!
Yamaha YZF-R6 “GYTR” จะกลับมาในฐานะรถแข่งขันในสนามเท่านั้น!
>>>2022 Yamaha YZF-R7
>>>2021 Yamaha YZF-R6
>>>2021 Yamaha YZF-R1
หลังจากที่ทาง Yamaha ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการผลิตรถสปอร์ตเรฟพลิก้าขนาดกลางอย่าง Yamaha YZF-R6 อีกต่อไป เนื่องมาจากค่ามาตรฐานไอเสียของตัวรถนั้นไม่สามารถบรรลุข้อตกลง Euro 5 ได้ในหลายประเทศทั่วโลก จึงทำให้ต้องยุติตำนานของ Yamaha YZF-R6 ไว้เพียงเท่านี้
แต่ล่าสุดทาง Gerrad Capley เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของ Yamaha Motor USA ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าทาง Yamaha จะยังคงผลิตรถอย่าง Yamaha YZF-R6 เพื่อสนับสนุนทีมแข่งต่อไป ซึ่งต่อไปนี้ R6 จะมาพร้อมชื่อ Yamaha YZF-R6 “GYTR”
โดย Yamaha YZF-R6 “GYTR” จะเป็นรุ่นที่ใช้เฉพาะในสนามแข่งขันเท่านั้น จะไม่สามารถนำไปจดทะเบียนเพื่อขับขี่บนถนนสาธารณะได้ โดยทาง Yamaha ได้เปิดเผยว่า Yamaha YZF-R6 “GYTR” จะมาพร้อมสเปคในรูปแบบเดียวกันกับรถแข่งในรายการ WorldSSP600 ซึ่งเป็นหนึ่งรุ่นย่อยในการแข่งขัน WorldSBK นั่นเอง
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมันกลายมาเป็นรถสนามโดยสมบูรณ์ตัวรถจะไม่มีระบบไฟส่องสว่างต่าง ๆ มาให้ รวมไปถึงระบบเบรก ABS ที่ถูกถอดออกไปเช่นเดียวกับเบาะผู้ซ้อน
และในส่วนของเครื่องยนต์นั้นตัวรถจะถูกปรับจูนมาให้ใช้งานในสนามแข่งแบบมาตรฐานทั่วไป เพื่อให้ทางทีมแข่งสามารถนำไปปรับแต่งต่อได้ตามต้องการนั่นเอง
นอกจากนี้ตัวรถ Yamaha YZF-R6 “GYTR” จะมาพร้อมกับ GYTR ECU ส่วนควบคุมกลางที่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ผ่านทาง PC Interface Cable
และระบบ Wiring Harness สำหรับการปรับแต่ง Engine Mapping นั่นเอง พร้อมด้วยชุดโซ่ GYTR R-Series 520 Racing ที่ออกแบบพิเศษเฉพาะใช้ในการแข่งขัน
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะเจ้า Yamaha YZF-R6 “GYTR” คันนี้ยังมาพร้อมกับชุดท่อไอเสียจาก Akrapovic Full Race System พร้อมระบบการจัดการ AIS Plug Set
พร้อมติดตั้งชุดเกียร์ Quick Shifter มาให้แบบพร้อมใช้งานอีกด้วย พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบไม่ใช้กุญแจ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้มันมีราคาวางจำหน่ายที่สูงกว่า Yamaha YZF-R6 ในรุ่นทั่วไปนั่นเอง
ซึ่งอย่างไรก็ดีทั้งหมดนี้คือในตลาดฝั่งยุโรป และญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะสำหรับประเทศไทยนั้น Yamaha YZF-R6 ยังคงวางจำหน่ายได้ตามปกติ
ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งความโชคดีของไบค์เกอร์ในบ้านเราที่ไม่โดนยกเลิกไปแบบหลายประเทศทั่วโลกที่ไม่มีโอกาสได้ขี่เจ้าสปอร์ต์เรฟพลิก้าอย่าง Yamaha YZF-R6 กันอีกแล้ว