ORA Black Cat สรุปจุดเด่นและจุดด้อย พร้อมสเปคที่จะได้รับ คาดจะเปิดตัวในไทยตามแผน อาจขายดีในไทยแน่ ถ้าปรับเรื่องกระจกหน้าต่างแล้ว
- รถไฟฟ้าสไตล์อีโค่คาร์
- สเปคและการตกแต่ง
- ห้องโดยสารเล็กตามคาด
- จุดเด่นจุดด้อย
- สเปคเครื่อง จะอืดไปไหม ?
- ราคาน่าจะ 6-7 แสนบาท
ORA Black Cat (ออร่า แบล็คแคท) รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีแนวโน้มจะเข้ามาขายในไทย เราคิดว่ามันจะต้องขายดีแน่ ถ้าหากปรับปรุงบางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระจกหน้าต่างบานหลัง คาดว่าจะเปิดตัวในไทยตามแผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นในปีนี้ของ GWM ตอนนี้ไปดูสเปคและข้อดี-ด้อยของรุ่นนี้กันก่อน
รถไฟฟ้าสไตล์อีโค่คาร์
2022 ORA Black Cat ต้องทำความเข้าใจว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด อาจจะไม่ได้สปอร์ต หรูหรา หรือมีไว้ประดับบารมีให้กับเจ้าของและผู้ขับขี่ แต่เน้นความแตกต่างโดดเด่น ด้วยการออกแบบที่เน้นความน่ารักมากเป็นพิเศษ มีสไตล์เรโทรผสานความทันสมัย ไฟหน้าทรงกลม กระจกมองข้างทรงกลม ดีไซน์ตัวรถเขย่ารวมความโค้งมนและใส่สันเหลี่ยมเข้ามาอย่างลงตัว จุดที่ชอบที่สุดก็คือ สีสันของตัวถังแบบลูกกวาดที่ตัดกับหลังคาสีขาว แบบเดียวกับรุ่นพี่ ORA Good Cat
สเปคและการตกแต่ง
สเปคของ ORA Black Cat ในเมืองจีนให้ล้ออัลลอยมีทั้งขนาด 15 – 16 นิ้วให้เลือกสรรตามรุ่นย่อย แต่พอมาดูรายละเอียดของงานออกแบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาให้แล้ว ขอบอกเลยว่าเหมือนเรากลับไปนั่งในรถอีโคคาร์ยุคแรก ๆ แต่ยังมีจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รู้สึกว่าทันสมัยไม่น้อย
ตัววัสดุหลักของรถเกือบทั้งคันจะออกแนวพลาสติก ส่วนหนึ่งก็เพื่อลดน้ำหนักรถ และต้องยอมรับว่าเพื่อลดต้นทุนในการผลิตด้วย แม้ว่าประตูเบา แต่การปิดประตูต้องใช้แรงนิดนึง
อ่านเพิ่มเติม : ฟังเสียงวิจารณ์ 2021 ORA Black Cat R1 จากปากคนจีน รถไฟฟ้าคันจิ๋วมีจุดอ่อนอะไรบ้าง?
ห้องโดยสารเล็กตามคาด
ห้องโดยสารภายในนั้น วัสดุที่นำมาใช้เป็นพื้นผิวแบบพลาสติกแข็ง ๆ เกือบหมด เบาะที่นั่งก็ไม่ได้รับน้ำหนักโอบกระชับอะไรมาก การควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ยังใช้มือหมุนตามตำแหน่งต่าง ๆ อยู่ ยังใช้ช่องแอร์ทรงกลมแบบพับให้อารมณ์อีโคคาร์ยุคแรก
ด้วยความที่รถ ORA Black Cat มีมิติตัวถังสั้นมากเพียง 4.3 เมตร ทำให้ต้องยอมเสียสละห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายเล็กและแคบมาก การใส่กระเป๋าเดินทางตัดทิ้งไปได้เลย สิ่งของที่ใหญ่สุดที่จะใส่ท้ายรถได้ น่าจะเป็นกระติกน้ำแข็งเท่านั้น
จุดเด่นจุดด้อย
จุดด้อยของ Black Cat คือเบาะหลังที่นั่งไม่สบาย ยืนยันจากผู้ใช้ชาวจีนหลายคนบ่นตรงกัน แต่ในทางกลับกัน จุดเด่นอยู่ที่เบาะหน้าซึ่งผู้ใช้รถชาวจีนยืนยันว่านั่งขับขี่ได้ดีเยี่ยม มีความกว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรติดขัดและต้องอยู่ในรถเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ยังมีจุดด้อยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถปรับปรุงได้ก็คือ กระจกหลังแบบเปิดอ้าได้นิดเดียว ไม่สามารถเปิดกว้าง ๆ เพื่อรับลมภายนอก หรือระบายอากาศภายในได้สะดวกอย่างรถทั่วไป หากเปลี่ยนมาใช้รางกระจกไฟฟ้า สร้างชิ้นส่วนกระจกหน้าต่างหลังขึ้นใหม่ แม้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าคนไทยยอมจ่ายเพื่อความสะดวก
สเปคเครื่อง จะอืดไปไหม ?
ORA Black Cat ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 47 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตร คาดว่าเวอร์ชั่นไทย อาจจะเป็นแบตเตอร์รี่ขนาด 30.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะทางต่อการชาร์จ 301 กม. โดยใช้เวลาในการชาร์จเต็ม 4 ชั่วโมงครึ่ง (ด้วยหัวชาร์จ 6.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง) ทำความเร็วสูงสุด 102 กม./ชม. ซึ่งสเปคระดับนี้ อาจจะไม่เหมาะกับการขับทางไกลนาน ๆ ใช้แค่ระยะใกล้แบบปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียงจะเหมาะสมที่สุด
อ่านเพิ่มเติม : ORA Good Cat และ Black Cat ตั้งราคาดีดี ไปได้สวยแน่นอน
ราคาน่าจะ 6-7 แสนบาท
จุดเด่นอีกข้อนั่นคือราคาจำหน่ายที่เอื้อมถึงได้ง่ายสำหรับลูกค้าชาวจีน เนื่องจากมีการออกแบบมาให้รถใช้งานในเมืองกันมากกว่า ด้วยระยะการวิ่งที่ไม่เยอะมาก ทำให้ค่าตัวของ ORA Black Cat ในแดนมังกรเคาะอยู่ระหว่าง 69,800 – 84,800 หยวนหรือประมาณ 328,000 – 399,000 บาทเท่านั้น อาจทำให้เราเห็น ราคา ORA Black Cat อยู่ในระดับ 6-7 แสนกว่าบาทได้ รอลุ้นกันว่าในงาน 2022 Motorshow ปีนี้จะมีเซอร์ไพรซ์เปิดตัวหรือไม่
อ่านเพิ่มเติม : Owner Review : สาวจีนแต่งรถยนต์ไฟฟ้า 2021 ORA Black Cat ให้เป็นสไตล์รถซิ่ง