จัดอันดับรถ 5 รุ่นใหม่ ที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดในไทย ซึ่งมีข้อดีตรงที่ให้ความคล่องตัวในเมือง เลี้ยวพ้นอุปสรรค์ในทางแคบ ลดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ต้องหมุนพวงมาลัยเยอะ หรือต้องตีวงเลี้ยวเผื่อ ส่วนใหญ่รายชื่อรถในอันดับนี้จะเป็นรถอีโค่คาร์ แต่มีอยู่รุ่นหนึ่งที่ไม่ใช่อีโค่คาร์ ก็ยังมีวงเลี้ยวแคบกว่าที่คาดการณ์
การวัดรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดนี้ ยึดจากสเปคตามโบรชัวร์ของผู้ผลิตแต่ละรุ่นอย่างเป็นทางการ โดยวัดระยะรัศมีจากจุดกึ่งกลางของการหมุน ไปยังขอบล้อด้านนอกสุด ซึ่งแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันเนื่องจากระยะฐานล้อ ระยะเพลา ขนาดยาง และองศาที่ล้อหักเหได้ โดยทีมงาน Autofun นำข้อมูลที่ดีสุด 5 อันดับแรกมาเรียงลำดับรัศมีการเลี้ยวจากมากไปน้อยได้ดังนี้
Celerio 4.7 เมตร
อันดับ 5 คือ Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) ที่เป็นรถขนาดเล็กสุดในระดับเดียวกัน มีระยะฐานล้อสั้นเพียง 2,425 มม. อีกทั้งยังมียางหน้าแคบ ทำให้สามารถทำรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.7 เมตรในทุกรุ่นย่อย ยังมีขายเป็นรถใหม่อยู่ในปัจจุบันด้วยราคารุ่นเกียร์ธรรมดา 328,000 บาท ส่วนรุ่นกลางเกียร์ออโต้ ราคา 408,000 บาท และรุ่นท็อปเกียร์ออโต้ ราคา 437,000 บาท
Mazda 2 ก็ทำได้ 4.7 เมตร
อันดับ 4 เป็นของ Mazda 2 (มาสด้า 2) ที่ทำวงเลี้ยวแคบสุดได้ 4.7 เมตรเท่ากับอันดับ 5 แต่สาเหตุที่เราจัดอันดับให้ดีกว่า เพราะว่ามาสด้า 2 มีฐานล้อที่ยาวกว่า 2,570 มม. แถมใช้ยางขนาดกว้าง 185 แล้ว ก็ยังทำวงเลี้ยวได้แคบเท่ารถเล็ก นับว่าน่าประทับใจ ซึ่งตัวเลขรัศมีวงเลี้ยวนี้เป็นของรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น ส่วนรุ่นดีเซลกลับมีขนาดวงเลี้ยวกว้างเป็น 4.9 เมตรแล้ว
ราคา Mazda 2 รุ่นเครื่องยนต์เบนซินอยู่ที่ 546,000 - 690,000 บาท ทั้งแบบตัวถังซีดานและแฮตช์แบ็ค
Mitsubishi Mirage 4.4 และ 4.6 เมตร
อันดับ 3 ได้แก่ Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) โดยมีสเปคแบ่งเป็นรุ่นล่าง Active ใส่ล้อแม็กซ์ขอบ 14 นิ้วกับยางกว้าง 165 ทำรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.4 เมตร ส่วนรุ่นท็อป Smart ที่ใส่ล้อแม็กขอบ 15 นิ้วกับยางกว้าง 175 มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.6 เมตร ส่วนรถซีดานฝาแฝด Mitsubishi Attrage ทำวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.8 เมตร จึงไม่ติดในอันดับนี้
ราคา Mitsubishi Mirage รุ่น Active เกียร์ธรรมดาราคา 474,000 บาท รุ่นกลาง Active เกียร์ออโต้ราคา 509,000 บาท และรุ่นท็อป Smart เกียร์ออโต้ราคา 579,000 บาท
Nissan March ทำได้ 4.5 เมตร
รองชนะเลิศของลำดับนี้ Nissan March (นิสสัน มาร์ช) อีโค่คาร์รุ่นแรกในไทย ที่ยังคงจุดเด่นรูปทรงน่ารัก ราคาจับต้องได้ และต้องไม่ลืมว่า มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.5 เมตรอยู่ระหว่างกลางของ Mirage รุ่นล่างกับรุ่นท็อป แต่นิสสัน มาร์ช ให้วงเลี้ยวขนาดนี้ในทุกรุ่นย่อย เพราะใช้ฝาครอบขนาด 14 นิ้วกับยาง 165 แม้แต่ในรุ่นท็อปก็ตาม ยังมีขายอยู่ด้วยราคารุ่นเกียร์ธรรมดา 420,000 - 480,000 บาท ส่วนรุ่นเกียร์ออโต้ราคา 495,000 - 510,000 บาท
Suzuki Carry 4.4 เมตร
ผู้ชนะเลิศในการจัดอันดับนี้คือ Suzuki Carry (ซูซูกิ แครี่) รถบรรทุกหนึ่งเดียวในการจัดอันดับครั้งนี้ ทำรัศมีวงเลี้ยวแคบที่สุดกว่าใครเพียง 4.4 เมตร แม้ว่าจะเป็นรถบรรทุกของมาก และขนาดตัวรถยาวกว่าอีโค่คาร์ท้ายตัดหลายรุ่น แต่กลับมีระยะฐานล้อเพียง 2,205 มม. ด้วยการออกแบบสไตล์ตัวรถแบบหน้ายื่น ทำให้มีทัศวิสัยดีเลิศ และคล่องตัวกว่ารถกระบะบรรทุกทั่วไปหลายเท่า ซึ่งยังเป็นจุดแข็งที่ไม่มีใครเหมือน Suzuki Carry พร้อมขายแล้วด้วยรุ่นย่อยเดียวเกียร์ธรรมดา ราคา 395,000 บาท
รถรุ่นอื่น ๆ ที่ไม่ติดอันดับนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นรถที่ไม่ดี โดยอาจจะมีรัศมีวงเลี้ยวกว้างกว่ากันเล็กน้อย แต่แลกมาด้วยสมรรถนะด้านอื่น ๆ ควบคู่กันไป เช่น การเกาะถนน เครื่องกำลังแรง หรือได้ความกว้างขวาง ฯลฯ ซึ่งต้องนำมาประกอบการตัดสินใจซื้อรถควบคู่กันไปด้วย
อ่านเพิ่มเติม : อย่าเลี้ยวสุดนะ 5 พฤติกรรมทำร้ายระบบควบคุมรถที่คุณต้องระวัง พร้อมวิธีดูแลรักษา