2023 Honda CR-V (2023 ฮอนด้า ซีอาร์-วี) เจเนอเรชั่นที่ 6 เปิดตัวแล้วในประเทศไทย ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,419,000 บาท ไปจนถึง 1,729,000 บาท มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบและไฮบริด
ด้วยราคารุ่นท็อปที่แม้จะลดลงจากรุ่นที่แล้ว (รุ่นท็อปเบนซินรุ่นที่แล้วอยู่ที่ 1.579 บาท ส่วนดีเซลอยู่ที่ 1.759 บาท) รวมถึงมีออพชั่นเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาษีที่ลดลงของรถไฮบริดแล้ว แต่ราคานี้ก็ยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับรถที่ไม่เกี่ยวข้องหลายรุ่น
ดังนั้น ในความเป็น C-SUV ที่มี 5-7 ที่นั่งของรถคันนี้ ทำให้คู่แข่งที่แท้จริงของ Honda CR-V ควรที่จะเป็นรถทั้ง 6 รุ่น ที่มีจุดเด่นที่น่าสนใจทุกคัน ดังนี้
Mazda CX-5
Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) เอสยูวีที่โดดเด่นด้วยความหรูหรา งานประกอบที่เหนือกว่ารถในพิกัดเดียวกัน และมีขุมพลังให้เลือกทั้งเบนซิน 2.0 และ 2.5 เทอร์โบ และดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ
ทุกรุ่นยังมาพร้อมกับ ไฟเดย์ไลท์และไฟท้ายแบบ LED Signature ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus กล้องมองหลัง ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เป็นมาตรฐาน
นอกจากนี้ในรุ่นที่สูงกว่ายังมีออพชั่นที่น่าสนใจ ได้แก่ ล้ออัลลอย 19 นิ้ว กล้องมองภาพรอบทิศทาง เครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง เบาะนั่งผู้โดยสารหน้าปรับไฟฟ้าพร้อม Memory Seat เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ระบบความปลอดภัย i-Activsense
CX-5 จำหน่ายในไทยด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,349,000 บาทในรุ่น 2.0 S ไปจนถึง 1,859,000 บาทในรุ่นท็อปเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เทอร์โบ
อ่านเพิ่มเติม : คู่มือซื้อ 2021 Mazda CX-5 เผย 4 รุ่นย่อย ได้ออปชั่นอะไรบ้าง
Mazda CX-8
เนื่องจาก CR-V เจนใหม่นี้ยังมีรุ่น 7 ที่นั่งมาให้ Mazda CX-8 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8) จึงถือได้ว่าเป็นคู่แข่งอีกคันเช่นกัน ซึ่ง CX-8 อาจไม่ต่างจาก CX-5 เท่าไหร่ เพราะมาพร้อมออพชั่นที่จัดเต็มคล้ายกัน โดยมีความปลอดภัยที่จัดเต็มตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
ในทุกรุ่นจะมีระบบหยุดรถอัตโนมัติด้านหลัง Advanced SCBS-R และยังมีการเพิ่มระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง GVC Plus มาให้ ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล โดยเฉพาะในทางโค้งและในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ในรุ่นที่สูงขึ้นไปจะมีระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ Mazda Radar Cruise Control เป็นแบบ Stop & Go และระบบหยุดรถอัตโนมัติด้านหน้า Advanced SCBS
CX-8 มีขุมพลังให้เลือก 2 รูปแบบได้แก่ เบนซิน 2.5 ลิตร และดีเซล 2.2 ลิตรเทอร์โบ ซึ่งถือว่ามีความหลากหลาย รวมถึงสามารถเลือกได้ทั้งรุ่น 6 และ 7 ที่นั่ง ทำให้รถคันนี้มีจุดแข็งที่แข่งกับทั้ง SUV และ PPV ได้สบาย
Mazda CX-8 มีราคาในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตรเริ่มที่ 1,549,000 - 1,699,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเริ่มที่ 1,849,000 - 2,199,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม : 2022 Mazda CX-8 ไมเนอร์เชนจ์ภายนอกใหม่ อัพระบบความปลอดภัยตั้งแต่รุ่นเริ่ม
Mitsubishi Outlander PHEV
สำหรับ Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) ถือเป็นอีกหนึ่งคันที่น่าสนใจ เนื่องด้วยระบบขับเคลื่อนที่ดี ประโยชน์ใช้สอยที่ครบครัน แต่จะเสียเปรียบที่ความสดใหม่ไปเล็กน้อยเท่านั้น
จุดเด่นของรถคันนี้คือ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่ดี เพราะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดที่สามารถผสานการทำงานของรถไฮบริดทั้งสองรูปแบบเข้าด้วยกัน ได้แก่ Parallel Hybrid และ Series Hybrid
นอกจากนี้ ระบบปลั๊กอินไฮบริดยังสามารถวิ่งในโหมดอีวีต่อเนื่องได้ถึง 55 กม. หากชาร์จเต็ม และยังสามารถชาร์จระหว่างการขับขี่นอกเหนือจากการเสียบชาร์จได้ รวมถึงภายในรถยังมีปลั๊กไฟขนาด 1500W ที่สามารถใช้งานได้จริงอีกด้วย
Mitsubishi Outlander PHEV จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 2 รุ่นได้แก่ GT ราคา 1,640,000 บาท และรุ่น GT-Premium ราคา 1,749,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม : 6 เหตุผล ที่คุณควรซื้อ Mitsubishi Outlander PHEV แบบไม่ต้องรอตัวใหม่
Haval H6
Haval H6 (ฮาวาล เอช6) เป็นรถที่กวาดยอดขายไปมากขณะที่ CR-V ยังไม่เปลี่ยนโฉม เนื่องด้วยความคุ้มค่า ดีไซน์ ออพชั่นที่โดนใจ รวมถึงความกว้างขวางของห้องโดยสารที่เหนือกว่าคู่แข่ง
โดย H6 มีให้เลือกทั้งขุมพลังไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด พร้อมค่าตัวที่เข้าถึงได้ง่าย เริ่มที่ 1,349,000 บาทในรุ่นไฮบริด HEV ส่วนรุ่นที่เสียบปลั๊กได้ PHEV จะมีค่าตัวที่ 1,699,000 บาท
ซึ่งถือว่ายังได้เปรียบ CR-V อยู่ไม่น้อย แม้ตอนเปิดตัวแรก ๆ จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องค่าตัวอยู่เหมือนกัน แต่นอกจากที่รุ่น PHEV จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ทางฮาวาลก็ยังให้ออพชั่นหลายอย่างเพิ่มเข้ามาอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : ลองใช้ 2023 Haval H6 PHEV เผยจุดที่ใช่และจุดที่ยังขัดใจ พิสูจน์ค่าตัว 1.699 ล้าน
MG HS
สำหรับ MG HS (เอ็มจี เอชเอส) ถือว่าเป็นรถที่มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในเซกเมนต์นี้ หากนับรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ ราคาเริ่มต้นของรถรุ่นนี้ประมาณ 9 แสนบาทกลาง ๆ เท่านั้น และรุ่นท็อป PHEV ก็ยังมีค่าตัวรุ่นท็อปสุดที่ 1,379,000 เท่านั้น
ทำให้หากเราต้องการ C-SUV ขนาด 5 ที่นั่ง MG HS ก็ถือว่าตอบโจทย์ในความต้องการ ทั้งขนาด ออพชั่น สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไปจนถึงความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
อ่านเพิ่มเติม : ลองขับ MG HS PHEV รุ่นรองท็อป เหมาะกับพ่อบ้านซิ่ง และครอบครัวไฮเทค
Subaru Forester
Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) ถือว่าเป็นคู่แข่งของ CR-V ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่การออกแบบห้องโดยสารที่มีความโปร่ง โล่ง ส่งผลให้รถมีทัศนวิสัยที่ดี ไปจนถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้งานได้จริง
Forester นั้นมีระบบความปลอดภัยที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง EyeSight 4.0 ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยล่าสุดของค่าย โดยเป็นระบบที่จะช่วยเหลือการขับขี่ให้ผู้โดยสารมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
เอสยูวีจากค่ายดาวลูกไก่คันนี้มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.0i-L ราคา 1,450,000 บาท และรุ่น 2.0i-S ที่ราคา 1,550,000 บาท และยังมีชุดแต่ง GT และ GT Lite ที่สามารถจ่ายเพิ่มได้หากต้องการ
อ่านเพิ่มเติม : 2023 Subaru Forester ไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มความปลอดภัยภายในเหมือนเดิม เริ่ม 1.45 ล้าน
หากเราจะพิจารณาถึงคู่แข่งของรถคันใดคันหนึ่ง การนำรถที่มีขนาด เซกเมนต์ หรือตำแหน่งของแบรนด์ที่ต่างกันมาเทียบกันอาจดูไม่ยุติธรรมนัก การนำรถที่อยู่ในเซกเมนต์เดียวกันมาเทียบกันน่าจะเสมอภาคกันกับทุกฝ่าย
สำหรับ C-SUV ทั้ง 6 รุ่นนี้จึงเป็นรถที่เราคิดว่าเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ 2023 Honda CR-V มากที่สุดตอนนี้
อ่านเพิ่มเติม : เปิด 5 จุดแข็ง 2023 Honda CR-V เอสยูวีที่ไม่หวั่นสงครามราคาจากจีน