ยอดขาย Plug-in EV 2021 น่าประหลาดใจไม่เพียงเพราะการขยายตัวอย่างมาก แต่ยังเป็นเพราะการขยายตัวในช่วงเวลาที่ตลาดโดยรวมประสบปัญหา แยกยอดขายแต่ละรุ่นและแต่ละยี่ห้อทั่วโลกรวมไว้ที่นี่
- การจัดประเภท Plug-In EV
- ยอดขาย Plug-In EV ทั่วโลก
- ยอดขายแยกตามรุ่น
Plug-in EV คือรถยนต์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก ซึ่งรวมทั้งแบบไฟฟ้าล้วน และ Plug-in hybrid ข้อมูลยอดขายรถประเภทนี้ทั่วโลก อ้างอิงจากเว็ปไซต์ EV-Volumes ที่นับยอดเฉพาะ Plug-in EV แบบรถโดยสารส่วนบุคคล (ไม่นับรถบัสและรถบรรทุก) โดยแยกประเภท Plug-in EV ออกเป็น BEV (Battery EV) และแบบ PHEV (Plug-in hybrid EV) จะพบว่ามีสัดส่วนดังนี้
ยอดขาย Plug-In EV ทั่วโลก
ในปี 2564 มีการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กใหม่เกือบ 6.5 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งมากกว่าในปี 2020 ที่ทำได้ 3.1 ล้านคัน นับว่าโตขึ้นถึง 108% เมื่อเจอคู่แข่งอย่างรถน้ำมันแล้ว พบว่าส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ยดีขึ้นเป็นประมาณ 9% เทียบกับในปี 2020 ที่ทำได้ 4% (รวม BEV แล้ว)
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก:
BEVs: ประมาณ 4.6 ล้าน (เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบเป็นรายปี) และส่วนแบ่ง 6.1%
PHEVs: ประมาณ 1.9 ล้าน (เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบเป็นรายปี) และส่วนแบ่ง 2.9%
รวม: 6,495,388 (เพิ่มขึ้น 108% เมื่อเทียบเป็นรายปี) และส่วนแบ่ง 9%
ยอดขาย Plug-In EV แยกตามรุ่นในปี 2021
Plug-In EV ที่มียอดขายสูงสุด 3 อันดับแรกในปี 2564 ได้แก่ Tesla Model 3 (เทสล่า โมเดล 3), Wuling MINI EV และ Tesla Model Y
ตามข้อมูลจากเว็ปไซต์ EV-Volumes บอกว่า Tesla Model 3 มียอดขายเกิน 500,000 คัน หมายความว่า Model 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน (2018-2021)
ยอดขายที่โดดเด่นนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยสถิติรายเดือนใหม่ที่มากกว่า 86,000 คันในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการรายไตรมาสของ Model 3 ในไตรมาสที่ 4 นั้นต่ำกว่า Model Y ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2022 ว่าคนเริ่มหันเหไปรถทรงสูงมากขึ้น
Wuling Mini EV (2022 วู่หลิง มินิ อีวี) ยังสร้างสถิติใหม่ในเดือนธันวาคม (มากกว่า 55,000 คัน) และสถิติประจำปีที่สูงมากคือ 424,000 คัน เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำ เพราะมันคือมินิคาร์ไซส์เล็กสุด และไม่ใส่ระบบชาร์จไฟกลับ ทำให้มีราคาถูกที่สุด ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มันขายดีสุด
อ่านเพิ่มเติม : วิศวกรญี่ปุ่นถอดรื้อ 2022 Wuling Mini EV ไขข้อข้องใจทำไมขายถูก – พร้อมเผยต้นทุน
Tesla Model Y ทำยอดขายเกือบถึง 80,000 คันในเดือนธันวาคม (สถิติใหม่) และด้วยตัวเลขที่มากกว่า 410,000 คันในปี 2021 ทำให้ถูกคาดการณ์ว่ามันจะกลายเป็น EV ขายดีที่สุดในปี 2022 โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานใหม่ 2 แห่งที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้ (ในเยอรมนีและเท็กซัส) จะช่วยทำยอดส่งมอบได้มากขึ้น
อันดับรองลงไปเป็นของเยอรมัน นั่นคือ Volkswagen ID.4 ที่มีจำนวนมากกว่า 121,000 คัน ตามด้วยรถยนต์จีน 5 รุ่น และตบท้ายอันดับด้วย Volkswagen ID.3 (มากกว่า 75,000) ก็สามารถติด 10 อันดับแรกได้เช่นกัน
-
Tesla Model 3 500,713 คัน
-
Wuling MINI EV - 424,138 คัน
-
Tesla รุ่น Y 410,517 คัน
-
Volkswagen ID.4 121,631 คัน
-
BYD Qin Plus PHEV 111,553 คัน
-
Li Xiang One EREV 90,491 คัน
-
BYD Han EV 86,901 คัน
-
BYD Song Pro/Plus PHEV 78,973 คัน
-
Changan Benni EV 76,454 คัน
-
Volkswagen ID.3 76,278 คัน
อ่านเพิ่มเติม Wuling ขาย Mini EV ได้กำไรน้อย
ยอดขาย Plug-In EV แยกแต่ละแบรนด์ในปี 2021
ตามรายงาน Tesla สร้างสถิติที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยยอดมากกว่า 170,000 คันในเดือนธันวาคม ซึ่งมีตัวเลขปิดทั้งปีที่มากกว่า 936,000 เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน แน่นอนว่ายังเป็นแบรนด์มียอดขายรถยนต์ปลั๊กอินสูงสุด (2018-2021)
อันที่จริงแล้ว แบรนด์อื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็สร้างสถิติใหม่เช่นกัน อันดับ 2 ที่ดีสุดคือ BYD ซึ่งเพิ่มปริมาณมากกว่า 3 เท่าเป็น 593,000 คัน
บริษัทร่วมทุน SAIC-GM-Wuling ก็ทำตัวเลขมาเป็นอันดับ 3 ที่ยอดขายมากกว่า 456,000 คันทำให้โฟล์คสวาเก้นหล่นไปอยู่อันดับที่ 4 แทนตามการจัดอันดับดังนี้
- Tesla : 936,172 คัน
- BYD : 593,878 คัน
- SAIC-GM-Wuling : 456,123 คัน
- Volkswagen : 319,735 คัน
- BMW : 276,037 คัน
- Mercedes-Benz : 228,144 คัน
- SAIC : 226,963 คัน
- Volvo : 189,115 คัน
- Audi : 171,371 คัน
- Hyundai : 159,343 คัน
อ่านเพิ่มเติม : Tesla ส่งมอบ Model 3 Performance ให้ลูกค้าแบบไม่มีผ้าเบรก แต่กลับบอกว่าเป็นเรื่องปกติ!