หลังจากที่ยอดขายของ Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) PPV คันยักษ์ไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องความเหมือนกับรถกระบะพื้นฐานอย่าง Nissan Navara (นิสสัน นาวาร่า) มากเกินไป จนผู้บริโภคไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร จึงมีการพัฒนาตัวเองขึ้นมาให้สามารถแข่งขันกับคนอื่นได้
โดย 2021 Nissan Terra ที่จะมาใหม่ในบ้านเราเปิดโฉมครั้งแรกที่ตะวันออกกลาง ที่มีดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในดูหรูหรา มีความเป็นรถครอบครัวมากขึ้นจากเดิม
โดยเราจะมาดูกันว่าทั้ง 3 รุ่นเขามีอะไรมาให้บ้าง
ราคา 2021 Nissan Terra |
2.3 E 2WD |
1,199,000 บาท |
2.3 VL 2WD |
1,449,000 บาท |
2.3 VL 4WD |
1,499,000 บาท |
อ่านเพิ่มเติม 2021 Nissan Terra ไมเนอร์เชนจ์ ปรับหน้าหรู ได้คอนโซลใหม่ มีดิสค์หลัง ในราคา 1.199-1.499 ล้านบาท
กว้างขึ้นมาก
เทียบมิติตัวถัง |
รุ่น |
2021 Terra |
2020 Terra |
กว้าง |
2,116 มม. |
1,865 มม. |
ยาว |
4,900 มม. |
4,885 มม. |
สูง |
1,865 มม. |
1,835 มม. |
ระยะฐานล้อ |
2,850 มม. |
2,850 มม. |
จากที่ดูนิสสัน เทอร์ร่ามีการเพิ่มความกว้างให้กับรถเป็นอย่างมาก รวมถึงความยาวและความสูง แต่ยังมีระยะฐานล้อที่เท่าเดิม
อ่านเพิ่มเติม 2021 Nissan Terra ใหม่สวยใสมีอะไรต่างไปจากเดิมบ้าง
เครื่องยนต์เหมือนเดิม
ขุมพลังที่ทางตะวันออกกลางได้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 241 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด อัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 11.4 กม.ต่อลิตร ทาง Nissan เคลมว่าประหยัดที่สุดในระดับเดียวกัน
แต่ในประเทศไทย ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.3 ลิตรเทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด เป็นเครื่องยนต์บล้อคเดิมเพราะมีความแรงกว่า และสามารถยกวางได้เลย
1. Nissan Terra 2.3 E 2WD
เริ่มต้นที่ 1,199,000 บาท
- ไฟหน้า Quad LED 4 ดวง เปิด-ปิดอัตโนมัติ
- Daytime Running Light
- ไฟท้าย LED
- กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED
- กระจกแบบป้องกันเสียงรบกวน
- ระบบเชื่อมต่อ Nissan Connect
- รองรับ Apple CarPlay/Android Auto
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- มาตรวัด 7 นิ้วพร้อม Off Road Meter
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
- ช่องแอร์แถว 2-3
- กุญแจอัจฉริยะและ Push Start
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- เบรกหน้าดิสก์-หลังดรัม
- กล้องมองหลัง
- สัญญาณเตือนขณะถอยหลัง
- ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน IFCW
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ IEB
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง LDW
โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาให้ในรุ่นล่าง ที่คิดว่าคุ้มค่าี่สุดก็คือระบบความปลอดภัย ทั้งระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง เนื่องจากในรุ่นเดิมค่อนข้างโล้นออพชั่นความปลอดภัยเล็กน้อย
2. Nissan Terra 2.3 VL 2WD
เพิ่มมาอีก 250,000 บาท สิ่งที่เพิ่มเข้ามามีดังนี้
- กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้าอัตโนมัติ พร้อมไฟเลี้ยว LED
- ที่ปัดฝนด้านหน้าอัตโนมัติ
- ระบบประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
- หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วรองรับ Wireless
- จอภาพสำหรับผู้โดยสารหลัง
- ช่องต่อ HDMI และ Smart TV
- เบาะหนังฝั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ที่ดันหลังปรับไฟฟ้า
- ภายในแบบทูโทน (ดำ-แดง/ดำ-เบจ)
- เบรกมือไฟฟ้า
- Wireless Charger
- ระบบนำทาง
- Cruise Control
- พรมปูพื้น
- ดิก์เบรกหลัง
- ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง
- สัญญาณเตือนระยะหน้า
- กระจกมองหลังอัจฉริยะ IRVM
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง IAVM
- ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน MOD
- ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา BSW
- ระบบเตือนวัตถุด้านหลังขณะถอย RCTA
3. Nissan Terra 2.3 VL 4WD
เพิ่มอีก 50,000 บาท สิ่งที่เพิ่มเข้ามา โดยหลักคือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
- โหมดการขับเคลื่อน 4WD พร้อม Shift-on-the-fly
- ระบบเครื่องเสียง Bose
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
- ระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง IAVM พร้อม Off-Road Monitor
- เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
โดยรวมแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือระบบความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility ที่เพิ่มมาให้ตั้งแต่ในรุ่นล่างก็ถือว่าคุ้มค่า เนื่องจากนิสสัน เทอร์ร่ารุ่นเก่าค่อนข้างโล้นออพชั่นความปลอดภัย
ในรุ่นกลางก็มีการเพิ่มจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่สามารถเปิด Youtube หรือ Netflix ได้และมีการใช้ระบบกระจกมองหลังอัจฉริยะแบบ Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์) ที่สามารถมองเห็นรถคันหลังได้แม้มีของภายในรถเยอะ
ซึ่งต้องยอมรับว่าภายในได้รับการปรับปรุงไปจากเดิมมาก ทำให้ดูน่าใช้ไม่เหมือนขับรถกระบะ ราคาจับต้องได้ เพราะในตัวเริ่มต้นมีราคาไม่ถึง 1.2 ล้านบาท ออพชั่นให้มาถือว่าพอเพียงสำหรับการใช้งาน ส่วนเรื่องการขับขี่จะเป็นอย่างไร รอชมเร็ว ๆ นี้นะครับ