ด้วยความที่เป็นรถขนาดเล็ก ต้องออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีรูปร่างเป็นทรงกล่องทั้งสองคัน แต่ในภาพรวม Pocco MM จะมีความโค้งมนและดูทันสมัยมากกว่าเล็กน้อย
ไฟหน้าของ Pocco MM เป็นแบบฮาโลเจนแต่มีไฟ Daytime Running Light แบบ LED อยู่ด้านบน ซึ่งต่างจาก Mini EV ที่เป็นไฟแบบฮาโลเจนธรรมดา เส้นสายด้านข้างก็เช่นกันที่ Pocco MM แลดูมีความโค้งมนมากกว่า
การดีไซน์มีผลไปจนถึงด้านหลัง ไฟท้ายของ Pocco MM เป็นเส้นแนวยาวตามสมัยนิยม ส่วน Mini EV จะใช้เป็นพาร์ทสีดำเชื่อมไฟทั้งสองฝั่งแทน
ยางของ Pocco MM มีขนาด 155/65 R13 ส่วน Mini EV มียางขนาด 145/70 R12 เป็นขนาดที่ยางที่หาในสมัยนี้ไม่ง่ายดายนัก ยางของ Mini EV จะมีผู้แทนจำหน่ายดูแลให้ ส่วนของ Pocco MM คาดว่าจะทราบในตอนที่ได้ทดลองขับในเร็ว ๆ นี้
ภายในทำได้ดีทั้งคู่
ถึงแม้ในภาพรวม ดีไซน์ภายในของ Pocco MM จะดูล้ำสมัยกว่าเล็กน้อย แต่ทั้งคู่ถือว่ามีดีไซน์ที่ฉีกกฎภายในของรถทรงกล่องแบบเดิม ๆ ออกไปแล้ว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคนแล้วว่าจะชอบแบบไหน
เมื่อเข้ามายังห้องโดยสาร ทั้งคู่เราจะเห็นพวงมาลัย 2 ก้าน ทางด้านของ Mini EV จะมีหน้าจอหลังพวงมาลัยหนึ่งเดียว แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมด ต่างจาก Pocco MM ที่มีหน้าจอมาตรวัดดิจิตอลหลังพวงมาลัยขนาดเล็กกว่า แต่มีหน้าจอ infotainment ตรงกลางมาให้สำหรับการควบคุมเครื่องเสียง
คันเกียร์ของทั้งคู่ออกแบบเข้ากับยุคสมัยของรถไฟฟ้า ลักษณะเป็นปุ่มหมุนเปลี่ยนเกียร์ได้เลย และ Pocco MM มีคอนโซลกลางมาให้ คาดว่าใช้พักแขนขณะขับขี่ได้ ในขณะที่ Mini EV ไม่มีที่พักแขนมาให้ เบาะที่นั่งของทั้งคู่เป็นเบาะผ้ามีที่นั่งแบบ 2+2 ซึ่งที่นั่งด้านหลังของทั้งคู่สามารถพับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระได้