Mazda (มาสด้า) ประกาศว่าจะนำเสนอระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถอเนกประสงค์ตระกูล CX ตั้งแต่โมเดลปี 2022 เป็นต้นไป

ค่ายรถจากแดนอาทิตย์อุทัยยืนยันข่าวข้างต้นพร้อมกับการเพิ่งเผยโฉม 2022 Mazda CX-5 (2022 มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาโดยเริ่มใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเพื่อตอบสนองการใช้งานอย่างสมบุกสมบันมากขึ้น

คำถามที่ตามมาก็คือ ทำไมพวกเขาถึงต้องติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แล้วราคาจะแพงขึ้นมากแค่ไหน ส่วนคนไทยจะได้ใช้กันหรือเปล่า

อัพเกรดภาพลักษณ์แบรนด์สู่ความพรีเมียม

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ Mazda ที่มีชื่อว่า i-Activ AWD จะถูกติดตั้งอยู่ในรถอเนกประสงค์ทุกรุ่นที่ออกจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็น CX-3, CX-30, CX-5 และ CX-9 โดยจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อจะทำให้ราคาจำหน่ายมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ แต่คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่าค่าตัวจะปรับขึ้นหรือเปล่า เพราะน่าจะสูงขึ้นอยู่แล้ว แต่จะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใดต้องติดตามกันต่อไป

ค่ายรถจากแดนซามูไรระบุถึงสาเหตุการปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ไว้สั้น ๆ ว่า “เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับแบรนด์ Mazda สู่ความพรีเมียมมากขึ้น”

ระบบ i-Activ AWD ของ Mazda ไม่ใช่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อปกติ แต่จะช่วยทำให้ผู้ขับขี่และตัวรถเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ระบบนี้จะช่วยตรวจจับการถ่ายเทน้ำหนักขณะขับขี่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเร่งหรือเบรก ก่อนจะช่วยกระจายพละกำลังไปสู่ล้อทั้ง 4 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Mazda ระบุว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ i-Activ AWD ไม่เพียงช่วยเพิ่มเสถียรภาพและแฮนดลิ่ง แต่ยังทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น

ระบบ i-Activ AWD ยังมาพร้อมการปรับโหมดการขับขี่ Intelligent Drive Select ซึ่งมีโหมด Off-Road ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้กันอีกด้วย

มีรายงานว่า บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทยจะนำเสนอ CX-5 รุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ออกสู่บ้านเราในเร็ว ๆ นี้ โดยจะยังคงมีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือกสรรขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย