Yamaha ประกาศเตรียมพร้อมเดินหน้าผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2050
>>>Yamaha เผยภาพสิทธิบัตรล่าสุดเตรียมผลิตสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าวางจำหน่ายจริง
>>>Poimo สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป่าลมที่สามารถพับเก็บใส่กระเป๋าได้แบบในการ์ตูน
>>>Yamaha เผยภาพสิทธิบัตรล่าสุดเตรียมผลิตสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าวางจำหน่ายจริง
>>>Poimo สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป่าลมที่สามารถพับเก็บใส่กระเป๋าได้แบบในการ์ตูน
ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าวงการยานยนต์ต่างเตรียมปรับตัวเข้าสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้ากันอย่างถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Yamaha เอง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมาทาง Yamaha ได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะต้องบรรลุความเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยค่า Carbon เป็น 0 ให้ได้ภายในปี 2050 ซึ่งจะประกอบไปด้วย รถมอเตอร์ไซค์ , สกู๊ตเตอร์ , เรือ และเครื่องยนต์อื่น ๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งมีส่วนสำคัญในบริษัท Yamaha Motor Company ทั้งสิ้น
จากข้อมูลในปัจจุบันตอนนี้ผลิตภัณฑ์ที่ทาง Yamaha ได้ปล่อยออกสู่ตลาดทั่วโลกได้ปล่อยมลพิษเป็นอย่างสูง ทำให้เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในครั้งนี้ทาง Yamaha ได้เตรียมพัฒนากลยุทธ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ต่อไป ซึ่งรวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า , สกู๊ตเตอร์ และรวมไปถึงจักรยานไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
ซึ่งหลายคนอาจยังไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้ว Yamaha เป็นผู้นำตลาดที่บุกเบิก และพัฒนารถจักรยานไฟฟ้าหรือ e-Bike มาอย่างยาวนานแล้วตั้งแต่ปี 1980 ซึ่งในตอนนี้ตลาดของ e-Bike ก็กำลังเติบโต และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และล่าสุดมีความเป็นไปได้ที่ทาง Yamaha จะนำเทคโนโลยีอย่าง LMW (Leaning Multi-Wheel) ที่ใช้ในโมเดล Niken และ Tricity มาปรับใช้กับจักรยาน , มอเตอร์ไซค์ และสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้า ของทางค่าย
และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวทาง Yamaha เองจะยุติการผลิตยานพาหนะโดยใช้เครื่องยนต์สันดาปในอีก 39 ปีข้างหน้าแบบ 100% ซึ่ง Yamaha มองเอาไว้ว่าประมาณปี 2030 จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในสายการผลิตที่ชัดเจน โดยจะมีการลดจำนวนการผลิตของเครื่องยนต์สันดาปลงอย่างเห็นได้ชัด และการผลิตในส่วนของยานยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน
และทั้งหมดนี้ทาง Yamaha ได้คาดการณ์ตลาดของยานยนต์แห่งอนาคตเหล่านี้เอาไว้ว่า ยานยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของ Yamaha โดยจักรยานยนต์ในท้องตลาดจะใช้พลังงานไฟฟ้า คิดเป็นสัดส่วน 2.6% ภายในปี 2030 และจะเพิ่มเป็น 20 % ภายในปี 2035 และขยายตัวเป็น 90% ภายในปี 2050 และคาดว่าจะไม่หลงเหลือยานพาหนะเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2055 เป็นอย่างช้า
ซึ่งเราในฐานะผู้บริโภคเองก็คงจะเริ่มเห็นถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกในช่วงนี้กันแล้วว่า ทุกค่ายผู้ผลิตต่างมุ่งไปที่แหล่งพลังงานใหม่ ซึ่งจะละทิ้งเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันไว้ข้างหลัง ซึ่งเมื่อก่อนอาจจะยังดูห่างไกล หรือเป็นเรื่องไกลตัว แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าขึ้นทุกวัน ดูเหมือนว่าโลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาใกล้เราเร็วกว่าที่คิดแล้ว