ผ่าเครื่องยนต์ Revolution Max 1250 จาก Harley-Davidson ว่ามีดีกว่าเครื่องยนต์รุ่นเก่าหรือไม่!
ในระยะหลังมานี้ดูเหมือนว่าค่ายพญาอินทรีอย่าง Harley-Davidson กำลังพัฒนารถของตัวเองให้ก้าวไปอีกขั้นโดยที่ไม่ได้ยึดติดกับแนวคิดแบบเดิม อันจะให้ได้จากการพัฒนาเครื่องยนต์รูปแบบใหม่อย่าง Revolution Max 1250 เพื่อนำมาใช้กับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของพวกเขา
หรือการที่ทาง Harley เองได้แยกแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของทางค่ายอย่าง LiveWire ออกไปเพื่อให้ไม่มีข้อจำกัดในการออกแบบดีไซน์ หรือปัจจัยทางด้านเทคโนโลยีอีกต่อไป โดยทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า Harley-Davidson กำลังพัฒนาตัวเองเพื่อให้อยู่รอดในอนาคตได้ โดยการไม่ยึดติดกับการออกแบบรถสไตล์คลาสสิค ที่มีความดิบเถื่อนในแบบเดิม ๆ แต่เน้นไปที่เทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่มากขึ้น
เครื่องยนต์ Revolution Max 1250
ดังนั้นวันนี้ทาง AutoFun Thailand จะพาเพื่อน ๆ ไปเจาะลึกผ่าเครื่องยนต์บล็อกใหม่ล่าสุดอย่าง Revolution Max 1250 กันว่ามันจะดีกว่าเครื่องยนต์แบบเก่าหรือเปล่า ?
1.เครื่องยนต์ Revolution Max 1250 เป็นเครื่องยนต์ V-Twin วางทำมุม 60 องศา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้ในรถอย่าง V-Rod ที่ผลิตออกจำหน่ายในปี 2001-2017 ซึ่งถือเป็นผลงานที่ทาง Harley-Davidson ร่วมกันพัฒนากับ Porsche นั่นเอง
2 .เครื่องยนต์มีจุดเด่นที่ช่วงชักสั้นเพียง 72 มม. กับขนาดกระบอกสูบ 105 มม. กับปริมาตรกระบอกสูบ1,247 ซี.ซี.
3. เครื่องยนต์มีรอบการทำงานสูงสุดที่ 9,500 รอบ/ นาที พร้อมส่งกำลังแรงม้าที่ 150 ตัว พร้อมแรงบิดที่ 94 ฟุต/ ปอนด์
4. เครื่องยนต์ V-Twin 60 องศา จะใช้ชุดควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบปีกผีเสื้อคู่ ส่งตรงน้ำมันแบบสูบต่อสูบ
5. กรองอากาศความจุ 11 ลิตร สามารถปรับเปลี่ยน และถอดทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
Revolution Max 1250 เป็นเครื่องยนต์ V-Twin วางทำมุม 60 องศา
6. เครื่องยนต์ Revolution Max 1250 ระบายความร้อนด้วยน้ำซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดการปล่อยมลพิษลง ส่วนอ่างน้ำมันเครื่องยนต์เป็นแบบอ่างเปียกที่ระบายความร้อนด้วยของเหลวเพื่อควบคุมอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้ดียิ่งขึ้น
7. ห้องเครื่องยนต์มีปั๊มน้ำมันเครื่องถึง 3 ตัว โดยในรอบความดันที่ต่ำกว่า 70 psi น้ำมันส่วนเกินจะถูกดูดออก เพื่อเป็นการลดภาระแรงต้านของการทำงานของชุดลูกปืน และเพลาข้อเหวี่ยง เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างอิสระ
8. ก้านสูบทำมุม 30 องศาของ Revolution Max 1250 แต่มีการจุดระเบิดที่ 90 องศา จึงช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบเรียบ แม้ในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำสำหรับเส้นทางแบบออฟโรด
9. เครื่องยนต์ Revolution Max 1250 ใช้รูปแบบการทำงานแบบ DOHC 4 แคมป์ชาร์ฟ 4 วาล์ว/สูบ 2 หัวเทียน เพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์แบบ
10. แคมชาร์ฟแต่ละตัวจะทำงานเหลื่อมเวลากัน โดยผ่านการควบคุมการทำงานด้วยกล่อง ECU ที่ช่วยให้พละกำลังของเครื่องยนต์ทำงานอย่างต่อเนื่อง เต็มประสิทธิภาพ
เครื่องยนต์ Revolution Max 1250 กับรถรุ่นจากทาง Harley-Davidson
11. วาล์วของ Revolution Max 1250 เป็นแบบไฮดรอลิก ไม่ต้องมีการปรับตั้งใด ๆ ระบบจะปรับตั้งเองโดยอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิในเครื่องยนต์เปลี่ยนแปลง
12. ฝาสูบ ฝาครอบวาล์ว รวมถึงฝาครอบชุดขับเคลื่อนหน้า มีส่วนผสมของแมกนีเซียมทำให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักที่เบาลง
13. ส่วนของเครื่องยนต์ทำจากอะลูมิเนียมหล่อ เคลือบด้วยสารกันความร้อน เมื่อยึดเข้ากับเฟรม มันมีความยืดหยุ่น และจะไม่ส่งความร้อนสู่เฟรมหลัก
14. กระบอกสูบของ Revolution Max 1250 หล่อขึ้นจากอะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว โดยช่องของลูกสูบทั้งหมดจะถูกเคลือบด้วยสาร Nickel Silicon Carbide (CODIAC) ที่ทนความร้อนสูง
15. อัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์อยู่ที่ 13:1 โดยลูกสูบของ Revolution Max จะเป็นแบบอลูมินั่มฟอร์ซ เคลือบด้วยสารต้านการเสียดทาน จึงช่วยให้สามารถบำรุงรักษาทำได้ง่ายดาย
Revolution Max 1250 ใช้รูปแบบการทำงานแบบ DOHC 4 แคมป์ชาร์ฟ 4 วาล์ว/สูบ 2 หัวเทียน
16. เครื่องยนต์ Revolution Max 1250 ใช้ชุดบาลานซ์เซอร์ 2 ตัว เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบเรียบ โดยตัวแรกจะควบคุมการสั่นไหวของชุดเพลาข้อเหวี่ยง และก้านสูบ ส่วนตัวที่ 2 จะอยู่ระหว่างแคมชาร์ฟ และด้านหน้าของฝาสูบ เพื่อช่วยปรับสมดุลโดยรวม และเก็บตกแรงสั่นไหวส่วนที่เหลือเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน
17. เครื่องยนต์ Revolution Max 1250 คือส่วนหนึ่งของเฟรม มันมีจุดยึดเชื่อมต่อกันทั้ง 3 ส่วนคือ ส่วนหน้า กลาง และ ท้าย มันจึงมีแข็งแกร่ง และทนทานเป็นอย่างมาก
18. เครื่องยนต์ Revolution Max 1250 ส่งมอบกำลังขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์แบบ 6 สปีด โดยลูกปืนชุดเกียร์มีความแข็งแกร่ง และเคลือบด้วยสารหล่อลื่นเทฟลอน
19. คลัตช์แบบสายเคเบิล มีสลิปเปอร์กันแรงตก พร้อมแผ่นคลัชต์ที่ใช้แบบ 8 แผ่น
20. สเปคโรงงานแจ้งว่าต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนมากกว่า 91 แต่ทว่าก็สามารถใช้ที่ต่ำกว่าได้ เพราะกล่อง ECU ถูกปรับตั้งมาให้สามารถยืดหยุ่นได้
Harley-Davidson Pan America
และทั้งหมดนี้คือเครื่องยนต์ Revolution Max 1250 ที่เกิดจากความมุ่งมั่นของ Alex Bozmosk หัวหน้าวิศวกรของ Harley-Davidson โดยเขาได้พูดเสริมว่าเครื่องยนต์ Revolution Max 1250 ว่า
“จากประวัติศาสตร์ของ Harley-Davidsonได้นำเอาวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีมาผสมเข้ากับมรดกความเป็นวัฒนธรรมของแบรนด์ ผลลัพธ์คือ เครื่องยนต์ที่ให้ประสิทธิภาพสำหรับผู้ขับขี่ Revolution Max 1250 คือความภูมิใจของงานออกแบบขั้นสูง ที่พร้อมขับเคลื่อน Pan America ไปสู่ประสบการณ์ใหม่ ด้วยความน่าเชื่อถือ เต็มประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น”
อ่านเพิ่มเติม : Test Ride 2021 Harley-Davidson Pan America Special
อ่านเพิ่มเติม : 2021 Harley-Davidson Sportster S
อ่านเพิ่มเติม : Harley-Davidson แยก LiveWire เข้าสู่บริษัทมหาชน