- มีเยอะเหมือน Corolla Altis ในไทย
- จุดเริ่มต้นของความชื่นชอบใน Mercedes-Benz ต่อชาวอัลเบเนียน
- ปัจจัยที่ทำให้ชาวอัลเบเนียรักใน Mercedes-Benz
หากจะกล่าวถึงรถที่ขายดีที่สุดในประเทศ นั้นอาจมีอิทธิพลจากปัจจัยหลาย ๆ ประการ ทั้งในเรื่องของความต้องการและรสนิยมของคนในพื้นที่นั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น Toyota Avanza ในอินโดนีเซีย ที่เป็นที่นิยมจากพื้นที่กว้างขวางและมีราคาที่จับต้องได้
ในประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนอย่างอัลเบเนียมีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะคนประเทศนี้นิยมที่จะใช้งานรถจากค่าย Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์)
มีเยอะเหมือน Corolla Altis ในเมืองไทย
ในประเทศอัลเบเนีย กลุ่มคนที่ใช้ Mercedes-Benz นั้นใหญ่มากจนอาจกล่าวได้ว่ารถจากค่ายดาวสามแฉกนั้นเหมือนรถอย่าง Toyota Corolla Altis ในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ จุดเริ่มต้นในความนิยมของคนประเทศอัลเบเนียที่มีต่อ Mercedes-Benz เริ่มตั้งแต่ช่วงยุค 90 หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
บริเวณเมืองหลวงของอัลเบเนียอย่าง ติรานา ที่มีประชากรราว 5 แสนคนนั้นสามารถหากลุ่มคนที่ใช้ Mercedes-Benz รหัส W124 ได้อย่างง่ายดาย เพราะมีกลุ่มของคนใช้ W124 ในเมืองนี้ถึง 3 กลุ่ม โดยมีสมาชิกรวมกันกว่า 100 คนเลยทีเดียว
หากจะพิสูจน์ความรักต่อ Mercedes-Benz ของชาวติรานา นักข่าวจากสื่อรถยนต์อย่าง DW REV - Car & Mobility ได้ลองนับรถจากค่ายดาวสามแฉกบริเวณสี่แยกหนึ่งที่มีรถพลุกพล่านของเมืองนี้ พบว่าในเวลาเพียง 10 นาที พวกเขาสามารถนับรถจากเมอร์เซเดสได้อย่างน้อย 103 คันเลยทีเดียว
จากสถิติของประเทศอัลเบเนีย พบว่า จากรถที่จดทะเบียนกว่า 740,000 คัน มีรถแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์กว่า 212,000 คัน ซึ่งคิดเป็น 30% ของทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อมูลจาก Arben Progni เจ้าหน้าที่จากแผนกจดทะเบียนรถยนต์ของอัลเบเนีย
จุดเริ่มต้นของความชื่นชอบรถ Mercedes-Benz ต่อชาวอัลเบเนียน
สิ่งนี้มีจุดเริ่มต้นจากความชื่นชอบของ Enver Hoxha ซึ่งเป็นผู้นำ (แบบเผด็จการ) ของอัลเบเนียตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง โดย Hoxha มีอำนาจกว่า 40 ปี และระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งเขาได้ใช้ Mercedes-Benz 600 Pullman ซึ่งเป็นลีมูซีนที่ผลิตในปี 1966
ไม่เพียงเท่านั้น Hoxha ยังซื้อรถจากเมอร์เซเดสอีก 7 คัน ซึ่งมี 280 SEL รวมอยู่ด้วย นอกจากรถของรัฐบาลแล้ว ประชาชนชาวอัลเบเนียนยังเห็นถึงความทนทานของแบรนด์ยุโรป โดยเฉพาะ Mercedes-Benz
หลังจากการเปิดประเทศหลังการแยกตัวของอัลเบเนีย คนในประเทศได้ทดลองใช้รถจากแบรนด์ต่าง ๆ พบว่า เมอร์เซเดสดูเหมือนจะเป็นรถที่เหมาะกับพื้นผิวถนนของประเทศมากที่สุด
รถจากเมอร์เซเดสสามารถใช้งานได้หลายปี นั่นเป็นเพราะอะไหล่นั้นหาได้ไม่ยากนัก โดยสามารถนำจากรถเมอร์เซเดสอีกคันมาใช้แทนกันได้ นอกจากนี้ รถจากค่ายดาวสามแฉกยังรสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความภูมิใจของชาวอัลเบเนียอีกด้วย จึงทำให้แม้อัลเบเนียจะไม่ใช่ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรป แต่ก็สามารถเห็นรถจาก Mercedes-Benz ได้ทั่วไป
รถ Mercedes-Benz มีช่วงล่างที่เหมาะกับถนนของประเทศอัลเบเนีย
รถแบรนด์แรก ๆ ที่เข้ามาในประเทศอัลเบเนียจะมาจากเยอรมนีและอิตาลี ซึ่งก็คือ Mercedes-Benz และ Fiat ในช่วงปี 1992-1994 ถนนในประเทศนั้นมีสภาพแย่ลงเรื่อย ๆ รวมคุณภาพของเชื้อเพลิงที่ลดลงด้วยเช่นกัน ทำให้รถจากอิตาลีอย่าง Fiat นั้นเกิดปัญหาเสียกลางทางอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนรถจากเมอร์เซเดสนั้นให้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไป เนื่องจากรถจากค่ายนี้มีเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้มีข้อได้เปรียบต่อพื้นผิวถนนที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงช่วงล่างที่ทนทานและมีคุณภาพจากเยอรมัน
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวอัลเบเนียเลือก Mercedes-Benz คือความสามารถในการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบได้ดี โดยอัลเบเนียมีการนำเข้ารถยนต์มือสองที่มีอายุมากกว่า 10 จากเยอรมนีเพื่อใช้งานในประเทศอีกด้วย
“เรารัก Mercedes-Benz มาตั้งแต่ช่วงที่มีรุ่น W123 โดยเฉพาะ 240D เพราะความใหญ่ของมัน จึงสามารถโดยสารได้หลายคน มีความแข็งแรง ซ่อมได้ง่ายและมีช่วงล่างที่ทำงานได้ดีบนถนนที่วุ่นวายของอัลเบเนียในยุค 90 เราจะเห็นคนอัลเบเนียไม่เพียงแต่คิดว่า 240D คือสัญลักษณ์ของฐานะ แต่ยังรูปแบบของความพึงพอใจด้วย” ความคิดเห็นจากบัญชี Mel Kalaj ในวิดีโอของช่อง DW REV - Car & Mobility
จากเหตุผลเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่รถ Mercedes-Benz ในระดับเริ่มต้นจนถึงกลางจึงหาได้ง่ายในประเทศนี้ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมนั้นถูกกว่ารถยุโรปแบรนด์อื่น เนื่องด้วยจำนวนรถที่มากจึงทำให้อะไหล่นั้นหามาทดแทนกันได้ง่าย แต่สำหรับรถระดับที่สูงกว่าอย่าง S-Class ก็ยังเป็นรถที่หาอะไหล่และซ่อมแซมได้ยากในประเทศนี้
อ่านเพิ่มเติม : เผยสเปค Mercedes-Benz S600 Guard รถของนายกไทย
ส่วนหนึ่งอาจมาจากความคุ้มค่า
เมื่อพิจารณาจากเหตุผลทั้งหมดแล้ว อาจสรุปเรื่องความนิยมของ Mercedes-Benz ในประเทศอัลเบเนียได้ ดังนี้
การเข้ามาของ Mercedes-Benz ในประเทศอัลเบเนียช่วงยุค 90 นั้นเป็นช่วงที่ค่ายดาวสามแฉกพัฒนารถในแบบ overengineering ซึ่งค่ายรถจากยุโรปต้องการแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมอย่างเต็มที่
จากในมุมของผู้บริโภคในตอนนั้นอาจมองได้ว่า Mercedes-Benz นั้นมีเทคโนโลยีล้ำสมัยในราคาที่สมเหตุสมผล วัสดุภายในที่มีคุณภาพ และคุณสมบัติของความหรูหราหลายประการ เช่น เบาะอุ่น หรือระบบล้างกระจกที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถ Mercedes-Benz รวมถึงการคิดค้นถุงลมนิรภัยในช่วงยุค 80 อีกด้วย
ดูเหมือนว่า Mercedes-Benz มีการออกแบบรถให้สามารถใช้งานได้อย่างคงทนอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวอัลเบเนียต้องการอย่างมากในตอนนั้น และสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
อ่านเพิ่มเติม : กระจังหน้า Mercedes-Benz เปลี่ยนไปอย่างไรใน 100 ปีที่ผ่านมา?