Maxus แบรนด์ย่อยจาก MG (เอ็มจี) เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นที่มาเลเซีย หนึ่งในนั้นคือ Maxus eDeliver 7 รถตู้อีวีเพื่อการพาณิชย์ที่หากมาเมืองไทยรับรองว่าตลาดรถตู้จะต้องสั่นสะเทือนแน่นอน
สเปคเบื้องต้นจากที่ขายในอังกฤษ
สำหรับสเปคของ eDeliver 7 ในตลาดมาเลเซียยังไม่มีการเปิดเผยในตอนนี้ แต่สเปคที่จำหน่ายในสหราชอาณาจักรนั้นจะมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 77 kWh ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 318 กม. ตามมาตรฐาน WLTP และยังมีรุ่นแบตเตอรี่ความจุ 88 kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 370 กม. ให้เลือกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ระยะทางขับขี่นั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบตัวถังที่เลือกด้วย เนื่องจากจะมีตัวถังให้เลือกแตกต่างกันออกไป ทั้งหลังคาเตี้ย หลังคาสูง หรือฐานล้อยาว โดยรุ่นที่เห็นในภาพจะเป็นรุ่นฐานล้อมาตรฐานพร้อมหลังคาเตี้ยนั่นเอง
ระบบขับเคลื่อนของรถคันนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 kW) แรงบิด 330 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 11.4 วินาที (ในรุ่นฐานล้อมาตรฐาน หลังคาเตี้ย โหมดการขับขี่ปกติ) และความเร็วสูงสุดที่ 120 กม./ชม. (90 กม./ชม. ในโหมด Eco)
สำหรับการชาร์จ eDeliver 7 สามารถชาร์จ AC ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 11 kW โดยชาร์จจากแบตเตอรี่ 5-100% ได้ภายใน 8 ชม. (แบตเตอรี่ 77 kWh) และ 9.3 ชม. (แบตเตอรี่ 88 kWh) และยังชาร์จแบบ DC ได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 90 kW โดยชาร์จจากแบตเตอรี่ 20-80% ได้ภายใน 43 นาทีเท่านั้น
จุดเด่นตรงพื้นที่บรรทุก
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น Maxus eDeliver 7 คือรถตู้เพื่อการพาณิชย์ พื้นที่สำหรับการบรรทุกสินค้าจึงมีความสำคัญ โดยรถคันนี้มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังสูงสุดถึง 5.9 ลูกบาศก์เมตร
พื้นที่บรรทุกสัมภาระมีความยาวสูงสุด 2,547 มม. กว้าง 1,800 มม. (หากนับจากส่วนที่ติดซุ้มล้อจะเป็น 1,380 มม.) สูง 1,328 มม. ขณะเดียวกัน ขนาดของประตูเลื่อนจะมีความสูงที่ 1,200 มม. และกว้างถึง 990 มม. เลยทีเดียว
สำหรับมิติของ Maxus eDeliver 7 มีความยาว 4,998 มม. กว้าง 2,030 มม. สูง 1,990 มม. และมีระยะฐานล้อถึง 3,000 มม. นอกจากนี้ยังมีระยะความสูงจากพื้นอยู่ที่ 150 มม. รัศมีวงเลี้ยวที่ 6.05 เมตร น้ำหนักบรรทุกที่ 1,200 กก. และน้ำหนักตัวรถที่ 2,300 กก.
ภายในที่ครบครัน ดูทันสมัย
eDeliver 7 มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ได้แก่ หน้าจอ infotainment แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และยังสามารถเข้าถึงรถและสตาร์ทได้โดยพกกุญแจติดตัวไว้เท่านั้น
ระบบปรับอากาศยังเป็นแบบมือหมุนทั่วไป ไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมไฟเดย์ไลท์ ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เซนเซอร์หน้า-หลัง กล้อง 360 ระบบช่วยการทรงตัว ระบบช่วยเบรค ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน รวมถึงระบบวัดแรงดันลมยางก็มีมาให้ด้วย
สำหรับ eDeliver 7 สเปคสหราชอาณาจักรนั้นมาพร้อมระบบเตือนจุดบอดด้านข้างและด้านหลัง, ระบบช่วยเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ, ระบบเตือนเมื่ออยู่นอกเลนแลัช่วยให้อยู่กลางเลน, ระบบช่วยรักษาเลนฉุกเฉิน, ไฟสูงอัตโนมัติ, ข้อมูลป้ายจำกัดความเร็ว, ระบบการตรวจความพร้อมผู้ขับขี่ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันที่ทำงานจนถึงจุดหยุดนิ่ง
เปิดตัวในมาเลเซียปีหน้า
Maxus eDeliver 7 มีแผนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่มาเลเซียในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 และยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของรถในตอนนี้
หลายคนคงทราบกันว่า Maxus ก็ทำตลาดรถตู้ในบ้านเราเช่นกัน นั่นคือ MG Maxus 9 ซึ่งจะตีตลาดรถตู้ระดับพรีเมียมเพราะมาพร้อมอุปกรณือำนวยความสะดวกมากมาย แต่ดูเหมือนว่าจะเหลือช่องว่างสำหรับรถตู้เพื่อการพาณิชย์อยู่ Maxus eDeliver 7 อาจจะมีความเป็นไปได้สำหรับตลาดในบ้านเรา
อ่านเพิ่มเติม: Maxus G70 รถตู้รุ่นน้อง MG Maxus 9 เปิดตัวในจีนแล้ว ใช้สเปคเบนซินล้วน ยังไม่ข้ามไป EV
(ขอขอบคุณภาพจาก paultan)