เผยภาพภายในของ 2024 Mini Cooper รุ่นไฟฟ้าล้วน อย่างเป็นทางการแล้ว เราจะเห็นถึงการผสมผสานระหว่างมินิในอดีต ภาษาการออกแบบและเทคโนโลยีที่ลูกค้าคาดหวังในปัจจุบันไว้ได้อย่างลงตัว
- จอกลางไร้ขอบ ไร้มาตรวัดหลังพวงมาลัย
- ขุมพลังใหม่ วิ่งไกลขึ้น
- เปิดตัว “เสียงในห้องโดยสาร” แบบใหม่
- เวอร์ชั่นน้ำมันจะต่างจากไฟฟ้ามากขึ้น
จอกลางไร้ขอบ
สิ่งที่น่าจะเตะตาใครหลายคนคงหนีไม่พ้นหน้าจอกลางภายในรถคันนี้ เรารู้กันดีว่า Mini จะมาพร้อมภายในที่มีวงกลมตรงกลางอยู่แล้ว แต่มีความเปลี่ยนแปลงจากที่เคยเป็นมาตรวัดความเร็ว ไปจนถึงหน้าจอ infotainment แล้ว
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
มินิไฟฟ้าล้วนโฉมล่าสุดนี้ ส่วนวงกลมตรงกลางจะเป็นหน้าจอกลมขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของพวงมาลัยและบางขึ้นจากเดิมซึ่งทำหน้าที่เป็นจอ infotainment ที่แสดงข้อมูลของตัวรถเช่นเคย
ไร้มาตรวัดหลังพวงมาลัย
จากภาพแสดงให้เห็นว่าหน้าจอดังกล่าวแสดงภาพได้อย่างไร้ขอบ ภาพที่แสดงเป็นกราฟฟิกและตัวอักษรที่เรียบง่าย มาตรวัดหลังพวงมาลัยหายไป เปลี่ยนเป็น head-up display อย่างเดียวแทน ซึ่งยังต้องอาศัยกระจกป๊อบอัพเสริมขึ้นมาเพื่อฉายข้อมูลลงไปอยู่ ต่างจากค่ายอื่นที่ฉายที่กระจกหน้ารถได้เลย
วัสดุแดชบอร์ดของ 2024 Mini ไฟฟ้าก็ดูน่าสนใจเช่นกัน โดยมีส่วนที่หุ้มด้วยผ้าและผสมผสานกับไฟในห้องโดยสารอย่างแนบเนียน อีกส่วนหนึ่งคือแผงประตูดีไซน์เรียบง่ายและพวงมาลัยแบบใหม่ ปุ่มต่าง ๆ บริเวณคอนโซลถูกกองรวมกันที่ใต้หน้าจอกลาง ซึ่งรวมถึงปุ่มเลือกเกียร์ด้วย
การออกแบบภายในใหม่ของ 2024 Mini Cooper ไฟฟ้านั้นทำเพื่อให้สอดคล้องกับการออกแบบภายนอกใหม่ที่มาพร้อมไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED
วิ่งไกลขึ้น
มีการยืนยันแล้วว่า 2024 Mini Cooper รุ่นไฟฟ้าล้วน Cooper E จะมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 40.7 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 181 แรงม้า ส่วนรุ่นที่แรงกว่าอย่าง Cooper SE จะมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 54.2 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแรงกว่าที่ 215 แรงม้า และทั้งสองรุ่นมีระยะทางขับขี่ราว 300 - 400 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
เปิดตัว “เสียงในห้องโดยสาร” แบบใหม่
นอกจากนี้ ด้วยความที่ 2024 Mini นั้นใช้ขุมพลังไฟฟ้า อาจทำให้ห้องโดยสารเงียบ ไม่มีบรรยากาศของการขับรถไป จึงได้เปิดตัว “เสียงในห้องโดยสาร” แบบใหม่ที่เปลี่ยนไปตามโหมดการขับขี่
ยังมีเวอร์ชั่นน้ำมันอยู่
ส่วน Mini เจเนอเรชั่นใหม่เวอร์ชั่นน้ำมันจะมีการพัฒนาจากรุ่นเดิมมากขึ้น โดยจะอยู่ภายใต้แพลทฟอร์มที่แยกจากรุ่นไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับยังผลิตที่เมืองออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษเช่นเคย แต่ดีไซน์ของตัวรถนั้นอยู่ในทิศทางเดียวกันกับเวอร์ชั่นไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม Mini Cooper ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่มีกำหนดที่จะเปิดตัวรหัส E, SE และ John Cooper SE ภายในปี 2024 และย้ายฐานการผลิตจากอังกฤษมายังประเทศจีนแล้ว
อ่านเพิ่มเติม: Mini เผยปรัชญาดีไซน์ใหม่ของค่าย ที่ช่วยให้โดดเด่นจาก EV คันอื่น
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });