2024 Mini Cooper (2024 มินิ คูเปอร์) ไฟฟ้าโมเดลเชนจ์ เปิดตัวแล้วหลังจากมีภาพแอบถ่ายจากหลายสำนักมาแรมเดือน และจะเปิดตัวต่อสาธารณชนในงาน IAA 2023 ในมิวนิคในวันที่ 5 กันยายนนี้
สำหรับ Mini Cooper ไฟฟ้าจะถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นได้แก่ Mini Cooper E และ Mini Cooper SE
แรงขึ้นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
โดยใน Mini Cooper E รุ่นเล็กสุดจะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าขนาด 181 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 7.3 วินาที
ส่วนรุ่น Cooper SE ที่แรงกว่านั้นจะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 214 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.7 วินาทีเท่านั้น
ก้าวได้ไกลกว่าเดิม
แบตเตอรี่ใน Mini Cooper E จะมีขนาด 40.7 kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 305 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ในมาตรฐาน WLTP โดยสามารถชาร์จแบบ DC ด้วยความเร็วสูงสุด 75 kW
ส่วน Cooper SE จะมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าที่ 54.2 kWh ที่ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 402 กม. ในมาตรฐานเดียวกัน สามารถชาร์จ DC ที่ความเร็วสูงสุด 95 kW โดยทั้งสองรุ่นนั้นสามารถชาร์จแบบ AC ที่ความเร็วสูงสุดเท่ากันคือ 11 kW
ยังคงเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ไว้เช่นเคย
ในเรื่องของดีไซน์ Mini เจเนอเรชั่นใหม่ยังมาพร้อมไฟหน้าแบบกลม ซึ่งมาพร้อมไฟหน้าแบบ LED ทั้งตัวไฟหลักและไฟเดย์ไลท์ กระจังหน้าทรงแปดเหลี่ยมทำให้รถดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ภายในไฟหน้าเราจะเห็นเส้นไฟแนวนอน โดยเจ้าของรถสามารถปรับเปลี่ยนไฟเดย์ไลท์ได้ 3 โหมดตามต้องการ ซึ่งเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
ไฟท้ายเป็นสามเหลี่ยมจริง ๆ ด้วย
ด้านหลังของ Mini Cooper ใหม่นั้นมาพร้อมไฟท้ายทรงสามเหลี่ยมแล้ว ขณะที่ในโคมจะมีไฟแนวตั้งซึ่งปรับตั้งค่าได้เช่นเดียวกับไฟด้านหน้า
Mini Cooper ไฟฟ้าใหม่จะมีเส้นข้างสีดำที่ทำให้รถดูเตี้ยลง ขณะที่พาร์ทสีดำตรงซุ้มล้อที่เคยมีก็นำออกไปทำให้ดูสะอาดตายิ่งขึ้น Mini ระบุว่าตัวรถมีสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.28 เท่านั้น
ภายในเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ภายนอก ภายในก็เปลี่ยนไปไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเน้นที่ความมินิมอลมากขึ้น เหลือเพียงองค์ประกอบส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
ผลออกมาคือเราจะเห็นหน้าจอทรงกลมขนาดใหญ่ตรงกลางขนาด 9.44 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติการ Mini Operating System 9 ซึ่งพัฒนาโดย BMW และมีพื้นฐานจาก Android Open Source Project (AOSP)
“ระบบปฏิบัติการ Mini Operating System 9 ใหม่โดดเด่นด้วยการใช้งานระบบสัมผัสที่เรียบง่ายและเข้าถึงอารมณ์ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของ Mini เมื่อใช้งานร่วมกับ Mini Navigation ที่มีพื้นฐานในคลาวด์เพื่อการคำนวณเส้นทางที่แม่นยำและรวดเร็วเป็นพิเศษ, การเชื่อมต่อความเร็วสูง และเสริมการใช้งาน 5G โดย Mini Cooper ใหม่ก้าวกระโดดครั้งใหม่สู่โลกดิจิทัล เป็นการตอกย้ำถึงมรดกอันมีเสน่ห์ของแบรนด์” Stefanie Wurst ประธานของ Mini กล่าว
ด้านล่างของหน้าจอกลางจะเป็นปุ่มจริงทั้งหมดที่จะมีผลต่อผู้ขับขี่โดยตรง ซึ่งประกอบด้วย สวิตช์เบรคมือ, สวิตช์เกียร์, ปุ่ม start/stop, ปุ่ม experience mode และปุ่มปรับระดับเสียง
สำหรับพื้นที่ด้านหลังนั้นมีพื้นที่เก็บสัมภาระแบบเพียงพอที่ 200 ลิตรโดยที่ยังไม่พับเบาะ แต่สามารถเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 800 ลิตร ด้วยการพับเบาะหลังแบบ 60:40
อ่านเพิ่มเติม: เผยภายใน 2024 Mini Cooper รุ่นไฟฟ้าล้วน
มาพร้อม 4 การตกแต่งให้เลือกสรร
Mini Cooper ไฟฟ้าใหม่มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Essential, Classic, Favoured, และ JCW ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น รุ่น Essential มาพร้อมเบาะทรงสปอร์ตสีดำ, รุ่น Classic มาพร้อมการตกแต่งด้วยผ้าลาย 2 มิติ, รุ่น Favoured มาพร้อมผ้าลาย houndstooth แบบทูโทน และรุ่น JCW มาพร้อมเบาะนั่ง John Cooper Works ลายพิเศษที่ผสานผ้าถักหลากสีและเบาะหนัง(เทียม)ที่เย็บตะเข็บสีแดง
การร่วมมือกับ GWM ครั้งแรก
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดประการหนึ่งของ Mini Cooper ไฟฟ้ารุ่นใหม่คือมาพร้อมแพลทฟอร์ม EV ชื่อ Spotlight EV ที่เป็นพัฒนาร่วมกันกับ BMW Group และ Great Wall Motor โดยจะเริ่มแผนการผลิตในจีนภายในปลายปีนี้ ควบคู่ไปกับ Mini Countryman และ Mini Aceman ที่จะใช้พื้นฐานเดียวกัน
อ่านเพิ่มเติม: Mini เผยปรัชญาดีไซน์ใหม่ของค่าย ที่ช่วยให้โดดเด่นจาก EV คันอื่น