2022 Nissan March ถือว่าเป็นหนึ่งในรถระดับ Iconic ของ Nissan ไม่ว่าจะเป็นตลาดในไทยและระดับโลก วันนี้เราจะมาเจาะตำนานของ Nissan March 40 ปีใน 4 เจนเนอร์เรชัน ที่สร้างตำนานจนกลายเป็นหนึ่งในรถที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ Nissan ด้วยยอดขายกว่า 6 ล้านคันทั่วโลก
จาก 5.6 ล้านชื่อเหลือเพียง March
จุดเริ่มต้นของ Nissan March (นิสสันมาร์ช) หรือ Micra (ชื่อในยุโรป) มาจากคุณ Ishihara Takashi ประธานของบริษัท Nissan ในเวลานั้นต้องการที่จะสร้างรถยนต์ภายใต้ Concept “ รถยนต์ขนาดเล็ก เบาที่สุด และถูกที่สุด” โดยมอบหมายงานดีไซน์ภายนอกให้กับ Giugiaro นักออกแบบรถยนต์ชาวอิตาลี และตั้งชื่อโปรเจกต์นี้ว่า The KX Plan หลังจากที่โครงการนี้ได้เดินหน้าเป็นเวลา 3 ปี ในที่สุด Nissan March โมเดลแรก KX-018 ก็ได้ยลโฉมออกมาก
แต่ในเวลานั้นยังไม่มีชื่อที่เหมาะสม บริษัทจึงได้มีการประกวดตั้งชื่อ ซึ่งผลตอบรับก็ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีผู้ส่งชื่อเข้ามาประกวดมากถึง 5.65 ล้านชื่อ และคณะกรรมการก็ได้นำชื่อลำดับที่ 164 อย่าง March มาใช้เป็นชื่อของรถ
เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้เนื่องจาก March นอกจากจะแปลว่าเดือน มีนาคมแล้ว ยังแปลว่าการเดินทัพได้อีกด้วย โดยรุ่นแรกได้เปิดตัวในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2525
อ่านเพิ่มเติม : Nissan March อีโค่คาร์ พร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรประหยัดน้ำมัน ด้วยราคาเริ่มต้น 4.2 แสนบาท
รุ่นแรกของ March
1982 Nissan March มาในรหัสตัวเครื่อง K10 พร้อมกับดีไซน์ Hatchback ตัดท้าย มาพร้อมเครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์ MA10S 4 สูบ SOHC 8 วาล์ว 987 cc. โดยรถรุ่นนี้สามารถทำยอดสั่งจองได้มากกว่า 10,000 คันใน 10 วันแรก ( ณ ประเทศญี่ปุ่น) นอกจากนี้ยังมีการออกรุ่นย่อยตามมาอย่าง Nissan March COLLET , Nissan March G 50 Spacial II , Nissan March SUPER TURBO และรุ่นอื่น ๆ อีกหลายรุ่น ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปีที่วางจำหน่ายรุ่นแรกของ March สามารถทำยอดขายได้มากถึง 1.6 ล้านคัน
รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป ประจำปี 1993
1992 Nissan March รุ่นที่ 2 ได้รับการออกแบบใหม่ภายใต้โครงสร้างเดิม มีทรงโค้งมนมากขึ้น ในส่วนของเครื่องยนต์เป็น CG10DE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 987 cc ในส่วนของเกียร์มีทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และ CTV 5 สปีด พร้อมชื่อรุ่น K11 โดยรถรุ่นนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก ทั้งในแง่ของยอดขายที่ 2.54 ล้านคัน
ในส่วนของคำวิจารณ์นั้น Nissan March เป็นรถรุ่นแรกของญี่ปุ่น ที่คว้ารางวัล European Car of the Year ประจำปี 1993 อีกทั้งยังสามารถคว้ารางวัล Car of the Year Japan 1992 อีกด้วย
หนึ่งในรถที่ช่วยกอบกู้ Nissan ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ช่วงปี 1990’s นั้นถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ Nissan ประสบกับปัญหาด้านการเงินจนกระทั่งการมาถึงของ Carlos Ghosn ที่ได้ปรับโครงสร้างของบริษัทใหม่ และ Nissan March ก็ถูกปรับเช่นกัน โดยในรุ่นที่ 3 มีการเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิง ทำให้การดีไซน์ให้ดูมีความน่ารักขึ้น ผ่านตัวถังแบบ B-PLATFORM แต่ยังสไตล์แบบ Hatchback เหมือนเดิม ในส่วนของเครื่องยนต์ได้เปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์แบบ CR 4 สูบ DOHC 1240 cc 65 แรงม้า ที่ 5200 รอบต่อนาที พร้อมรหัสในชื่อ K12 ซึ่ง Nissan March เจนเนอร์เรชั่นนี้สามารถยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะภายในประเทศญี่ปุ่น
อ่านเพิ่มเติม : จะเอาแบบนี้! Nissan March โฉมเก่าแปลงหน้าใหม่คล้าย Almera ไฉไลกว่าเดิมเยอะ
Eco Car คันแรกของไทย
2010 Nissan March รหัสรุ่น K13 ได้สร้างปรากฏการณ์อย่างมากโดยเฉพาะในประเทศไทย ในฐานะของการประกาศตัวว่าเป็นรถ Eco Car คันแรกของประเทศไทย พร้อมทั้งตั้งโรงงานในประเทศไทยเพื่อที่จะจำหน่ายและส่งออกรถ
ทำให้ Nissan March ได้รับการตอบรับที่ดีมากโดยรุ่นที่ขายในประเทศไทยนั้นมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ด้วยดีไซน์กระจังแบบรังผึ้ง กระจังหน้าแบบ V-shape หลังคาสปอยเลอร์และไฟท้ายแบบ LED ที่ดูมีความสปอร์ตเมื่อเทียบกับรหัส K12
ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินรหัส HR12DE 3 สูบแถวเรียง DOHC ขนาด 1,198 cc 79 แรงม้า เกียร์แบบ XTRONIC CVT ที่ตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดีขึ้น
Nissan March เริ่มผลิตในไทยตั้งแต่ปี 2010 ก่อนที่จะสิ้นสุดการผลิตในวันที่ 26 กรกฎาคม 2022 โดยคันสุดท้ายของสายการผลิตนั้นมาในเวลา 12.00 น ของวันนั้น ซึ่งตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา Nissan March สามารถทำยอดขายในไทยได้มากถึง 200,000 คัน
เราคงต้องลุ้นกันต่อไปว่า Nissan จะเดินต่อไปแบบไหน จะเน้น Almera อย่างเดียว หรือจะส่งรุ่น K14 เข้ามาขายในไทย ซึ่งเราคงต้องรอดูต่อไปในอนาคต
อ่านเพิ่มเติม : พบสาเหตุว่าทำไม Nissan March สมควรยังขายต่อไป ฟังความเห็นจากสื่อญี่ปุ่น ที่คุณอาจเห็นด้วย