รถยนต์ไฟฟ้า มักจะถูกมองว่าขับทางไกลไม่ได้ ขับในทางลูกรังไม่ไหว แต่มีคู่รักรายหนึ่งได้ควบรถ Nissan Leaf ข้ามทวีปเป็นระยะทาง 12,800 กม.มาแล้ว ไปดูกันว่าเขาทำได้ยังไง
รถยนต์ไฟฟ้า มักจะถูกมองว่าขับทางไกลไม่ได้ ขับในทางลูกรังไม่ไหว แต่มีคู่รักรายหนึ่งได้ควบรถ Nissan Leaf ข้ามทวีปเป็นระยะทาง 12,800 กม.มาแล้ว ไปดูกันว่าเขาทำได้ยังไง
Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) เจเนเรชั่น 1 ถูกจับมาแต่งเพื่อใช้ลงการแข่งขันรายการมองโกลแรลลี่ ในประเภทรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นงานแข่งรถบุกตะลุยในทางทุรกันดาร เริ่มจากทิศตะวันตกของทวีปยุโรป ไปทางทิศตะวันออกของทวีปเอเชีย เป็นระยะทางกว่า 12,800 กม. เพื่อทดสอบความอึด ทรหด และความทนทานของทั้งรถและคน ผู้เข้าการแข่งขันจะไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือมีแผนสำรองใดๆ และต้องแก้ปัญหาที่เจอระหว่างการแข่งขันด้วยตนเอง
Nissan Leaf คันนี้นับเป็น EV คันแรกที่เข้าลงแข่งขันรายการนี้ โดยเริ่มต้นจากประเทศอังกฤษ ผ่านด่านชายแดนทั้งหมด 13 ประเทศ ก่อนจะมาจบที่เมือง อูลัน อูเด ประเทศรัสเซีย ซึ่งเส้นชัยนี้อยู่ใกล้กับชายแดนประเทศมองโกเลียไปเลย โดยสภาพถนนนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้ราบเรียบ คนขับต้องพบกับกรวดหินทรายโคลน และสารพัดวัสดุบนทางที่ผ่าน ที่พร้อมทำร้ายระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่
การขับแรลลี่ในรถ Nissan Leaf ที่มีแบตเตอรี่ความจุ 30 kWh มีสเปคระยะทางขับขี่ไกลสูงสุด 185 กม. จะต้องใช้การวางแผนเส้นทางอย่างดี เพราะต้องหาเมืองใหญ่มากพอที่จะเข้าจุดชาร์จไฟฟ้าได้ โดยเขาจะใช้การชาร์จไว 30 นาที เพื่อให้แบตเต็ม 80% ทำให้สามารถขับรถต่อไปได้เฉลี่ย 152 กม. ก่อนจะขับออกไปชาร์จไฟในเมืองถัดไปข้างหน้า
ถ้าหากในรัศมี 152 กม.นั้นไม่มีที่ชาร์จไฟ เจ้าของรถรายนี้ก็จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือต่อไปจากบ้านคน โรงแรม สถานีตำรวจ ฯลฯ เพื่อทำการพ่วงปลั๊กชาร์จไฟฉุกเฉิน ซึ่งการขอพ่วงปลั๊กแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก โดยเฉพาะในชนบทประเทศรัสเซีย เขายอมรับว่ามีครั้งหนึ่งที่ขออนุญาตให้ช่างไฟต่อสายเข้ากับเสาไฟฟ้าสาธารณะด้วย
Nissan Leaf เดินทางและจอดชาร์จไปเรื่อย ๆ อย่างสไล์วไลฟ์ ใช้ระยะเวลาเดินทาง 12,800 กม.นานกว่า 1 เดือน 3 สัปดาห์ สรุปข้อมูลการจอดชาร์จไปทั้งหมด 111 ครั้ง เสียเงินรวมกัน 4,400 บาท (ส่วนใหญ่ชาร์จฟรี) จนมาถึงเส้นชัยได้สำเร็จ โดยแบตเตอรี่ไม่เสื่อมหรือเสียหาย ปัญหาของรถมีแค่บังโคลนหลุด ยางแตกบ่อย และล้อแม็กซ์ดุ้งเท่านั้น ซึ่งเป็นปกติของการขับรถแรลลี่
อ่านเพิ่มเติม : เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า 2 รายนี้ เสียเวลาเดินทางข้ามรัฐหลายวัน เพราะวางแผนการชาร์จผิดพลาด
การเดินทางไกลด้วย Nissan Leaf นั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทานของรถ เพราะคันนี้ได้พิสูจน์แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่น่าห่วงมากกวาคือ จุดชาร์จไฟฟ้าที่มีน้อย ใช้เวลานาน และระยะทางขับขี่ที่ทำได้ไม่ไกล จึงต้องเป็นข้อควรระวังสำหรับคนที่คิดจะใช้ EV เดินทางไกลในปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติม : Tesla และ Nissan ครองตำแหน่งแบรนด์ EV ที่น่าเชื่อถือที่สุดปี 2022 แต่ยังไม่เท่ารถน้ำมัน
ขายรถเก่า-ซื้อคันใหม่ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
Nissan Leaf Minorchange 2023
แลก
เพิ่มรถของคุณ