กาซื้อรถยนต์มาใช้สักคันไม่ว่าจะเป็นทั้งมือหนึ่งหรือมือสอง เรามักจะต้องคิดถึงราคาขายต่อกันอยู่แล้วหลังเลิกใช้งาน
แต่ก็มีรถบางรุ่นและยี่ห้อ ได้กลายเป็นที่กล่าวขานกันว่าราคาตกทันทีตั้งแต่ออกโชว์รูม จนมาถึงในปัจจุบันก็มีราคาถูกกันเอามาก ๆ บางคันหล่นลงมามากกว่า 4 เท่าเลยก็ว่าได้
Chevrolet Cruze 1.8 LTZ 2018
จริง ๆ การที่ Chevrolet Cruze นั้นราคาตกนั้นก็มีหลายสาเหตุด้วยกัน ส่วนหนึ่งอย่างที่ทราบกันคือ Chevrolet (เชฟโรเลต) นั้นเลิกทำตลาดในไทยไปแล้ว จึงไม่แปลกใจที่ Cruze และรุ่นอื่น ๆ ราคาจะตกไปตาม ๆ กันเมื่อกลายเป็นมือสอง
อีกประการหนึ่งก็คือรถคันนี้มีการลดต้นทุนการผลิตก็เลยส่งผลต่อคุณภาพรถอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเกียร์ที่เปราะบางเอามาก ๆ ในสมัยก่อนมีข่าวทั้งเกียร์แตกจนถึงดับกลางถนนหรือระเบิดคาเท้าก็เคยมีมาแล้ว ไม่สามารถเข้าเกียร์ได้ ก็มี
โดยราคาตอนเปิดตัวใหม่ ๆ อยู่ที่ 998,000 บาท ปัจจุบันสามารถหาได้ในราคาประมาณไม่เกิน 250,000 บวกลบ หรือถ้ารุ่นเก่ากว่านี้ ก็เริ่มต้นที่ประมาณ 148,000 - 169,000 บาท
Ford Focus และ Fiesta
จริง ๆ ไม่ใช่แค่ Ford Focus เพียงรุ่นเดียว แต่จะรวมถึงน้องเล็ก Ford Fiesta ด้วย ส่วนหนึ่งที่ราคาตกจะคล้ายกับ Cruze เพราะทั้ง 2 รุ่นนี้เลิกผลิตไปแล้วในประเทศไทย ทำให้อะไหล่ค่อนข้างหายาก และมีปัญหาเรื่องเกียร์ในลอตผลิตแรก ๆ จากที่เป็นข่าวดังมากในประเทศไทย
แต่รุ่นที่ราคาตกที่สุดเห็นจะเป็น Ford Focus 1.5 Turbo โดยตอนเปิดตัวมีราคาที่สูงถึง 1,099,000 บาท ปัจจุบันหาค่อนข้างยากแล้ว ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 กว่าบาท หากมองหาเป็นเจนแรกต่ำสุดไม่เกินแสนก็มี แต่ถ้าเป็นรุ่นหลังก็จะอยู่ที่แสนปลายขึ้นไป
MG 6 2018
จริง ๆ จะกล่าวว่ารถยี่ห้อ MG (เอ็มจี) ราคาตกทุกรุ่นก็อาจจะไม่ผิดนัก สำหรับ MG 6 มือสองจะค่อนข้างหนักสุด สาเหตุเดียวกัน Ford Focus ที่เลิกผลิตไปแล้วจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมเนื่องจากอาจจะหาอู่ที่รับซ่อมและอะไหล่ได้ยาก
โดยตอนเปิดตัวมีราคา 1,100,000 บาท ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 200,000 กว่าบาท หายไป 800,000 บาทในเวลาเกือบ 3 ปี
Volvo V60 T4
ยี่ห้อ Volvo (วอลโว่) ราคาตกตั้งแต่ออกห้าง โดยเฉพาะ Volvo V60 T4 (วอลโว่ วี60) ที่ถึงจะเป็นปลอดภัย แต่มีปัญหาจุกจิกค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะกับเกียร์แบบ Dual Clutch เหมือนกับ Ford (ฟอร์ด) ที่พังบ่อย รวมถึงปัญหารถกินน้ำมันเครื่องตั้งแต่ 7,000 กิโลเมตร
โดยราคาในตอนเปิดตัวนั้นอยู่ที่ 2,590,000 บาท ในปัจจุบันสามารถหาได้ในราคาเพียง 450,000 บาทถึงปลาย ๆ เท่านั้น ลดลงมา 3 เท่า หากเจอสภาพดีไม่เคยมีประวัติเสียหนักก็ควรซื้อ
หากเป็นแบบไฟหน้าสองก้อนจะมีปัญหา แต่หากเป็นก้อนเดียวจะแพงกว่าแต่ได้รับการปรับปรุงมาแล้ว
Mercedes-Benz E300 BlueTEC Hybrid AMG
E300 BlueTEC Hybrid AMG ถือเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรก ๆ ของ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ก็ว่าได้แถมยังประหยัด ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 23.81-24.39 กม./ลิตร
แต่ด้วยเป็นรถไฮบริดรุ่นแรก ๆ ทำให้ระบบยังไม่ค่อยเสถียร รวมถึงมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ไฮบริดค่อนข้างเยอะ ที่ว่าแบตลูกนึงราคา 2-3 แสนเลยทีเดียว หากหมดประกันแล้วก็ยิ่งซ่อมแพง
โดยราคาคันนี้ตอนเปิดตัวอยู่ที่ 4,490,000 บาท แต่ปัจจุบันสามารถหาได้ในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทแล้ว ลดลงมา 3 เท่า หากจะซื้อควรดูคันที่เปลี่ยนแบตเตอรี่มาแล้ว อาจจะยืดอายุการใช้งานไปได้เล็กน้อย รวมถึงต้องมีเงินผื่อค่าซ่อมส่วนอื่น ๆ อีกด้วย เนื่องจากรถไฮบริด ขึ้นชื่อเรื่องค่าซ่อมแพงอยู่แล้วครับ